เช็คลิสต์ 12 รถใหม่ เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Show 2025
เช็คลิสต์ 12 รถใหม่ เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Show 2025

เช็คลิสต์รถใหม่ เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Show 2025

Motor Show 2025 จัดวันที่ 24 มีนาคม - 6 เมษายน 2568 สื่อมวลชล VIP และบุคคลทั่วไป สามารถเข้าร่วมได้ตามวันและเวลาต่อไปนี้

- สื่อมวลชน: เปิดให้เข้าร่วมงานในวันที่ 24 มีนาคม 2568 เวลา 08.00-21.00 น.
- VIP: จะเปิดให้เข้าชมวันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 12.00-22.00 น.
- บุคคลทั่วไป: สามารถเข้าชมภายในงานระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 เวลา 12.00-22.00 น. ในวันธรรมดา และเวลา 11.00-22.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์

สถานที่จัดงาน Motor Show 2025 จัดที่ไหน ?
งาน Motor Show 2025 จัดที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 และ Forum Hall 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยผู้ที่มางาน Motor Show สามารถดูข้อมูลที่จอดรถเพิ่มเติมได้ที่ ‘ที่จอดรถอิมแพ็คเมืองทอง’ นอกจากนี้ในงานยังมีร้านอาหารคอยให้บริการผู้เข้าชมงานมากมาย เช่น ฟู้ด เอเทรียม ตั้งอยู่ชั้น 1 อาคารชาเลนเจอร์ 3 เป็นต้น

รถใหม่เปิดตัวในงาน Motor Show 2025 

- Toyota Yaris Ativ HEV 2025 
- Toyota Hilux 2025
- Nissan Serena e-POWER
- Nissan Kicks 2025
- MG HS 2025
- Mitsubishi XForce HEV
- AION UT
- JAECOO 7 SHS PHEV 
- Zeekr 7X 
- DEEPAL S05
- BYD ATTO 2
- BYD Shark

1.Toyota Yaris Ativ HEV 2025

เป็นรุ่นที่นั่งยันนอนยันว่าเข้าแน่ๆ ในปี 2025 นี้ สำหรับ Toyota Yaris Ativ HEV มาพร้อมกับขุมพลังเบนซินไฮบริดใหม่ รหัสตัวถัง 2NR-VEX ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ระบบแปรผันวาล์ว Dual-VVT-i ผลิตพละกำลัง 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,100-4,800 รอบ/นาที ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตพละกำลังได้ 80 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ทำให้มีกำลังรวมเป็น 111 แรงม้า ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน และขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ที่ล้อหน้า

Toyota Yaris Ativ HEV มีการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มใหม่มาใช้ DNGA ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด DN F-Sedan ตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Veloz และ Yaris Cross Hybrid มาพร้อมกับระบบช่วงล่าง หน้าอิสระ MacPherson Strut หลัง Torsion Beam รวมถึงยังมีระบบ Toyota Safety Sense ใส่มาให้ด้วย และการเปิดตัวในครั้งนี้จะมาในรูปแบบของซีดานก่อน แต่แว่วๆ มาว่ามีลุ้นตัวแฮทช์แบ็กด้วยเช่นเดียวกัน 

2.Toyota Hilux 2025

อีกหนึ่งรุ่นที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างยาวนาน Toyota Hilux และสำหรับในโฉมนี้ก็น่าจะเดินทางมาจนสุดทางแล้ว แน่นอนว่าเราอาจจะได้เห็นคันจริงของรุ่นปี 2025 กันในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46  ที่กำลังจะมาถึง โดยที่มีแนวโน้มว่าจะมาพร้อมกับระบบไฮบริดรุ่นใหม่ของพี่โต แต่ก็ยังไม่มีภาพหลุดออกมาให้เห็นเลย ที่แน่ๆ ครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนโฉมครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน  

Toyota Hilux 2025 จะมาพร้อมกับขุมพลังที่คาดการณ์ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ ความจุ 2.8 ลิตร เสริมด้วยระบบ Mild Hybrid 48V และรวมถึงในรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินด้วยเช่นเดียวกัน 


3. Nissan Serena e-POWER

เป็นรถยนต์ MPV อีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามอง ซึ่งสำหรับ Nissan Serena e-POWER คันนี้ ทางนิสสันประเทศไทยจะนำเข้าทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีราคาจำหน่ายที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 1.8 ล้านบาท Nissan Serena e-POWER มาพร้อมกับมิติตัวถังยาว 4,690 มิลลิเมตร กว้าง 1,715 มิลลิเมตร สูง 1,895 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อยาว 2,870 มิลลิเมตร โดยที่ระยะต่ำสุดจากพื้นอยู่ที่ 135 มิลลิเมตร และมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด  5.7 เมตร

ทางด้านขุมพลัง Nissan Serena e-POWER ขับเคลื่อนแบบ FWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 AC3 Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนติดตั้งบริเวณใต้เบาะคู่หน้า และเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR14DDe ขนาด 1.4 ลิตร 1,443 ซีซี Direct Injection DOHC 16 วาล์ว กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 100.0 มิลลิเมตร (ขยายความจุจากบล๊อค HR12DE เดิม) กำลังอัด 13.0 : 1 ผลิตพละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที โดยมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 52 ลิตร มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ Standard Mode, ECO Mode และ Sport Mode

4. Nissan Kicks 2025

ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมในบ้านเรา สำหรับ Nissan Kicks ในปี 2025 จะมาพร้อมกับระบบ e-POWER โดยมีจุดเด่นในการใช้เครื่องยนต์เพื่อปั่นไฟเท่านั้น ไม่ได้ใช้ในการขับเคลื่อน ทำให้การขับขี่เหมือนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งพละกำลังและฟีลลิ่งการขับขี่ ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากถึง 26.3 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียว 

Nissan Kicks 2025 มีมิติตัวถังยาว 4,330 มิลลิเมตร กว้าง 1,760 มิลลิเมตร สูง 1,610 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,615 มิลลิเมตร และ Ground Clearance 175 มิลลิเมตร ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที รองรับน้ำมัน E20 ความจุถังน้ำมัน 41 ลิตร ตัวเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ เพื่อส่งพลังงานไปให้มอเตอร์ไฟฟ้า รหัส EM47 ผลิตพละกำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,410 – 9,697 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,410 รอบ/นาที ควบคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 2.06 kWh 4 Modules 96 Cells

5. MG HS 2025

เป็นรถยนต์ที่ขายดีอีกรุ่นของแบรนด์ MG HS สำหรับโมเดล MY2025 นี้ถือเป็นการเปิดตัวเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์ MG มีการปรับโฉมใหม่ดูสวยพรีเมียมมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน และปลั๊กอินไฮบริด นอกจากนี้ยังมอบคุณสมบัติใหม่ๆ มากมาย มีพื้นที่ห้องโดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิม อีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์และฟังก์ชันต่างๆ จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นเยอะเลย    

MG HS MY2025 มีมิติตัวถังยาว 4,655 มิลลิเมตร (ในรุ่น PHEV จะยาว 4,670 มิลลิเมตร) กว้าง 1,890 มิลลิเมตร แต่ปรับลดความสูงลงประมาณ 30 มิลลิเมตร ทำให้มีระยะฐานล้อขึ้นเป็น 2,765 มิลลิเมตร ในส่วนของขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริดทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 105 กิโลวัตต์ (142 แรงม้า) และมอเตอร์ไฟฟ้า 154 กิโลวัตต์ ใช้พลังงานงานแบตเตอรี่ขนาด 24.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงขนาด 67 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าได้ระยะทาง 120 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ด้วยเวลา 6.8 วินาที 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 125 กิโลวัตต์ (169 แรงม้า) แรงบิด 275 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ DCT 7 สปีด สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ด้วยเวลา 9.4 วินาที

6. Mitsubishi XForce HEV

การปรับโฉมในครั้งนี้จะมีการปรับบขุมพลังใหม่ให้กับรถด้วย โดยจะติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 1.6 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งต่างจากรุ่นที่เปิดตัวในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร NA การดีไซน์ออกแบบยังคงความสปอร์ตและทันสมัยเหมือนเดิม มาพร้อมกระจังหน้าใหญ่และโลโก้ทรีไดมอนด์สีเงิน โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายทรง T-Shape 

Mitsubishi XForce HEV มีมิติตัวถังยาว 4,390 มิลลิเมตร กว้าง 1,810 มิลลิเมตร สูง 1,660 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร และมีระดับความสูงจากพื้น 222 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถขับขี่ได้ในสภาพถนนที่หลากหลาย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า 134 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 kW ที่ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า 255 นิวตันเมตร Full Hybrid ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ไปยังล้อคู่หน้า ในส่วนของโหมดการขับขี่มีให้เลือก 4 โหมด ได้แก่ Normal, Wet, Gravel และ Mud

7. AION UT

รถยนต์ไฟฟ้าหน้าตาน่ารักที่เลดี้เองก็รอคอยอย่างใจจfใจจ่อ AION UT แบรนด์ดังในเครือของ GAC ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในงาน Guangzhou Auto Show 2024 ในราคาขายที่จีนเพียง 4.24 แสนบาท เท่านั้น  

AION UT เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็กขนาดเล็ก มีมิติตัวถังความยาว 4,270 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,575 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อยาว 2,750 มิลลิเมตร โดยที่น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 1,510-1,540 กิโลกรัม ดีไซน์ภายนอกมีเส้นสายที่โค้งมน กระจังหน้าแบบปิดทึบตามสไตล์รถไฟฟ้า พร้อมโลโก้ AION บริเวณกึ่งกลาง ที่ด้านล่างมีช่องรับอากาศที่เป็นซี่แนวทะแยง ไฟหน้า LED ดีไซน์คล้ายดวงตา ส่วนชุดไฟด้านล่างคือไฟตัดหมอก LED ขนาดเล็ก 4 ดวงในกรอบสีดำ เมื่อมองภาพรวมของด้านหน้าจะออกแนวน่ารัก

ทางด้านสมรรถนะ AION UT ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่มีกำลังสูงสุด 100 kW (134 แรงม้า) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 150 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ LFP ขนาด 44 kWh สามารถขับขี่ได้ไกล 420 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รองรับการชาร์จเร็วแบบ DC จาก 30-80% ใช้เวลา 24 นาที


8. JAECOO 7 SHS PHEV 

เอารถมาโชว์ตัวเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด Chery Thailand ได้ทำการเชิญให้สือมวลชนได้ทดสอบขับ JAECOO 7 SHS PHEV ก่อนขายจริง ซึ่งสามารถเข้าชมได้ในงาน Motor Show 2025 นี้ 

JAECOO 7 SHS PHEV มีมิติตัวถังยาว 4,500 มิลลิเมตร กว้าง 1,865 มิลลิเมตร สูง 1,670 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 2,672 มิลลิเมตร โดยมีระยะ Ground Clearance 174 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 500-1,265 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 215 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า 204 แรงม้า 310 นิวตันเมตร และ มีมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator (ISG) แบตเตอรี่ Blade Battery Lithium-ion (LFP) ขนาด 18.3 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD Front-Wheel Drive พละกำลังรวม 2 ระบบ เครื่องยนต์ + มอเตอร์ไฟฟ้า 347 แรงม้า 525 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 8.5 วินาที Top Speed 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยระยะทาง 106 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หากใช้ระบบน้ำมันและไฟฟ้าจะสามารถวิ่งได้ระยะทางรวม 1,300 กิโลเมตร

9. Zeekr 7X

Zeekr รถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มตลาดพรีเมียม เปิดตัว Zeekr 7X ในงาน Chengdu Auto Show ที่ประเทศจีนเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา และคาดว่าจะนำมาโชว์ตัวในงาน Motor Show 2025 ในบ้านเราเช่นเดียวกัน ซึ่ง Zeekr 7X เป็นรถยนต์ SUV ที่มีมิติตัวถังยาว 4,825 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และ สูง 2,925 มิลลิเมตร โดยใช้สถาปัตยกรรม 800V จากแพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) ของ Geely ทำให้มีระยะฐานล้อ 2,925 มิลลิเมตร และสามารถบรรทุกน้ำหนักรวมได้ประมาณ 2,298 – 2,475 กิโลกรัม

Zeekr 7X มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าจากซิลิกอนคาร์ไบด์ 310 กิโลวัตต์ ติดตั้งที่เพลาหลัง ส่วนในรุ่นมอเตอร์คู่ จะเพิ่มมอเตอร์เข้าไปอีกตัวขนาด 165 กิโลวัตต์ ที่เพลาหน้า ส่งผลให้สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 3.8 วินาที ชุดแบตเตอรี่ใช้ของ Golden Brick มีขนาดตั้งแต่ 75-100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ Zeekr พัฒนาขึ้นเอง ผลิตโดยบริษัทในเครือ Geely อย่าง VREMT เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน Zeekr 007 ซึ่งทาง Zeekr ได้ออกมาเคลมว่าเป็นแบตเตอรีที่ชาร์จเร็วที่สุดในโลก เพียงแค่ 10.5 นาที ก็สามารถชาร์จไฟจาก 0-80% ได้แบบสบายๆ และยังวิ่งได้ไกลถึง 605 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และในส่วนของชุดแบตเตอรี่ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง จะใช้แบตเตอรี่ Qilin จาก CATL ซึ่งเป็นแบตเตอรี่นิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NMC) ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการชาร์จ 5C ที่รวดเร็วเป็นพิเศษ นั่นทำให้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 780 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC 

10. DEEPAL S05

รถยนต์น้องใหม่จากค่าย CHANGAN เปิดตัวในชื่อ DEEPAL S05 ซึ่งจะมีระบบขับเคลื่อนทั้งแบบ EV และ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) โดยที่คือพลังงานใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่ถูกพัฒนาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน จากการเพิ่มเครื่องสันดาปภายในเพื่อผลิตไฟฟ้า (Range Extender) ทำให้รถ REEV สามารถเติมพลังงานกลับแบตเตอรี่ได้ทั้งจากน้ำมันและการชาร์จไฟ เพื่อเพิ่มระยะการขับขี่ที่เกินกว่าแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวจะสามารถทำได้ ก้าวข้ามข้อจำกัดของรถไฟฟ้าที่เติมพลังงานกลับได้ด้วยการชาร์จไฟเท่านั้น 

DEEPAL S05 มีมิติตัวถังยาว 4,620 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,600 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อขนาด 2,880 มิลลิเมตร และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.25 มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ผลิตพละกำลังสูงสุด 238 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD Rear-Wheel Drive) แบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) จาก CATL ขนาดความจุ 56 kWh สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 7.3 วินาที ทำ Top Speed สูงสุดที่ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางวิ่ง 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็ว (DC) ด้วยเทคโนโลยี 3C สูงสุด 170 kW และมีระบบ V2L จ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW (6,600 watts)

ทางด้านขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี ผลิตพละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า ใช้สำหรับปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) ขนาดความจุ 27 kWh พร้อมระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ มอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 7.9 วินาที 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขนาดถังน้ำมันความจุ 45 ลิตร ระยะทางรวมน้ำมัน+ไฟฟ้า 1,180 กิโลเมตร 

11. BYD ATTO 2

แว่วๆ มาอีกแหละว่าจะเข้าไทยแน่ๆ สำหรับ BYD ATTO 2 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม BYD e-Platform 3.0 มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB (Cell-to-body) ที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวถังและมีความเสถียรมากขึ้น สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุด 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC 

BYD ATTO 2 มีมิติตตัวถังยาว 4,310 มิลลิเมตร กว้าง 1,830 มิลลิเมตร สูง 1,675  มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 7.9 วินาที ทำ Top Speed สูงสุดที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำงานควบคู่กับแบตเตอรี่ Blade Battery ขนาด 45.12 kWh ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จแบบ DC Fast Charging กำลังไฟสูงสุด 65 kW มีระยะเวลาชาร์จจาก 30 – 80% เพียง 28 นาทีเท่านั้น

12. BYD Shark

พี่ใหญ่ BYD Shark ออกโรงกันบ้าง ซึ่งรถปิคอัพปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ของค่าย BYD คันนี้มาพร้อมกับ ขุมพลังแบบ PHEV ที่ผลิตพละกำลัง 430 แรงม้า สามารถวิ่งได้ไกล 100 กิโลเมตร ด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่

BYD Shark PHEV มีมิติตัวถังยาว 5,457 มิลลิเมตร กว้าง 1,971 มิลลิเมตร และสูง 1,925 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้พละกำลังรวม 429 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร มีความสามารถในการลากจูงได้ถึง 5,512 ปอนด์ หรือประมาณ 2,500 กิโลกรัม บรรทุกได้สูงสุด 1,841 ปอนด์ หรือประมาณ 835 กิโลกรัม ทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 5.7 วินาที ซึ่งก็ถือว่าน่าประทับใจมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาดของตัวถังรวมถึงน้ำหนักของพี่ Shark

สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร และสามารถเดินทางได้ไกลถึง 836 กิโลเมตร หากเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จแบตเตอรีเต็ม มาพร้อมกับคุณสมบัติชาร์จไว ร้องรับกระแสไฟสูงสุด 360 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถชาร์จไฟจาก 30-80% ได้ภายในเวลา 20 นาที

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง