
ด่วน! KIA EV5 ลดราคาทั้ง 4 รุ่นย่อย เหลือราคารุ่นเริ่มต้นที่ 1.099 ล้านบาท
KIA EV9 เอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่ และเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ในตระกูลรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเกีย ดีไซน์ ถูกออกแบบภายใต้ปรัชญาการออกแบบ Opposites United โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจาก KIA EV9 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงของทางค่าย กระจังหน้ายังคงมาในแบบ Tiger Face แบบปิดทึบ มาพร้อมแถบไฟแบบ LED ที่เป็นเส้นวางเป็นรูปตัว L นอกจากนั้นยังมีไฟส่องสว่างติดตั้งอยู่ด้านใน อีกทั้งยังมากับไฟ DRL ที่ออกแบบให้เป็นเส้นวางพาดยาวอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ขณะที่เส้นสายของฝากระโปรงหน้าออกแบบให้มีสันเหลี่ยมมุมที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมติดตราโลโก้ KIA ไว้ที่ปลายของฝากระโปรง ส่วนบริเวณกันชนหน้าจะออกแบบใหม้ช่องดักอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ พร้อมกับตกแต่งด้วยแถบสีเงินขนาดใหญ่ไว้ที่ชายล่าง เส้นสายด้านข้างถูกถ่ายทอดมาจากรถต้นแบบ EV5 Concept ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม 2023 กระจกมองข้างทรงเหลี่ยมที่แปลกตา มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ ซุ้มล้อตกแต่งด้วยแถบวัสดุชิ้นงานสีดำ มาพร้อมด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 – 19 นิ้ว นอกจากนั้นยังออกแบบให้หลังคาเป็นแบบลอยตัว พร้อมตกแต่งกรอบหน้าต่างด้วยแถบโครเมียม ขณะที่บนหลังคาติดตั้งราวแล็กหลังคาสีดำ มาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม และสปอยเลอร์หลังคา ด้านท้ายมากับชุดไฟท้าย LED ที่ออกแบบให้เป็นเส้นรูปตัว C ที่เชื่อมต่อติดกัน เติมความดุดันด้วยกันชนท้ายขนาดใหญ่ ในด้านมิติตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 4,615 มม. ความกว้าง 1,875 มม. ความสูง 1,715 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,750 มม.
ภายในห้องโดยสาร แผงคอนโซลหน้าจะมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ที่วางแบบลอยตัว โดยรวมเอาทั้งหน้าจอมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รวมทั้งหน้าจอควบคุมสภาพอากาศขนาด 5 นิ้ว ไว้ในจอเดียวกัน โดยรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอ HUD ด้านชุดอุปกรณ์ภายในที่จะได้รับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ, พอร์ต USB-C คู่, แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, ชุดไฟ Ambient lighting 64 สี และหลังคาซัน
รูฟ ด้านเบาะที่นั่งจะเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง เบาะนั่งตอนที่ 2 พับแบบ 60/40 มาพร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายจุของได้จุใจมีช่องเก็บของใต้พื้นตัวรถ นอกจากนั้นยังมาพร้อมตัวเลือกการปรับที่นั่งอันหลากหลาย และวัสดุหุ้มเบาะโดยสารในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งวัสดุหุ้มผ้ารีไซเคิลจากพลาสติก PET และหนังสังเคราะห์ Bio-PU ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวยุคมิลเลนเนียล โดยในรุ่น Earth Exclusive AWD มีเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่แบบ Relaxation Seat ที่มาพร้อมฟังก์ชันการนวดถึง 4 รูปแบบ ระบบทำความอุ่น และระบายอากาศ 3 ระดับ รวมถึงหมอนรองน่องแบบปรับด้วยไฟฟ้า รุ่น Earth Exclusive AWD ยังมาพร้อมกับลิ้นชักอเนกประสงค์พร้อมฟังก์ชันปรับอุณหภูมิที่สามารถใช้เป็นตู้เย็น หรือตู้เก็บความร้อนสำหรับแช่เย็นเครื่องดื่ม หรือเก็บความร้อนของอาหารระหว่างการเดินทาง หรือการออกทริปแคมป์ปิ้งได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ KIA EV5 ในทุกรุ่นมาพร้อมแผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถปรับตั้งให้กลายเป็นโต๊ะทานข้าวสำหรับการรับประทานอาหารของสมาชิกในครอบครัวได้ทั้งแบบในรถและแบบเอาท์ดอร์ มากไปกว่านี้
ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ จะมากับฟีเจอร์มาตรฐานมากมาย ได้แก่ ระบบเบรก ABS+EBD พร้อมระบบ Multi-Collision Brake (MCB), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร, ระบบป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบควบคุมความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ
โดยในรุ่น Air ยังมีระบบฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่นๆ อาทิ ซันรูฟแบบ Panoramic, ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ, ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และระบบแสดงภาพรอบทิศทาง
ส่วนในรุ่น Earth Long Range และ รุ่น Earth Exclusive AWD ยังได้รับระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม ทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) อาทิระบบป้องกันการชนขณะถอยหลัง, ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตาขณะแซง, ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ,ระบบ Smart Cruise Control พร้อม Stop & Go, ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร, ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขณะเปลี่ยนช่องจราจร และระบบช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยขณะลงจากรถ
พละกำลังขับเคลื่อนสำหรับในรุ่น Light และ รุ่น Air จะมากับมอเอตร์ไฟฟ้าที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลังขนาด 160 kW หรือ 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 8.5 วินาที มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 64.2 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 490 กม. (NEDC)
ส่วนในรุ่น Earth Long Range ด้านมอเอตร์ไฟฟ้าจะเหมือนกับในรุ่น Light และ Air แต่จะปรับขนาดของแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้นโดยมีขนาดความจุอยู่ที่ 88.1 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางไกล 665 กม. (NEDC)
ส่วนในรุ่น Earth Exclusive AWD ซึ่งเป็นรุ่นท็อป จะได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กําลังรวมถึง 308 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 480 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0 -100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.1 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 88.1 kWh ชาร์จไฟวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 620 กม.(NEDC) อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็ว 141 kW (ผ่าน DC Fast Charge) โดยมีระยะเวลาในการชาร์จจาก 10% – 80% ในเวลาเพียง 38 นาที
สำหรับเฉดสีตัวถังของ KIA EV5 จะมีให้เลือก 5 สีได้แก่
- สีขาว Snow White
- สีดำ Starry Night Black
- สีเทา Shale Grey
- สีเขียว Iceberg Green (ยกเว้นรุ่น LIGHT)
- สีฟ้า Frost Blue (ยกเว้นรุ่น LIGHT)
ส่วนเฉดสีภายในห้องโดยสาร จะมีให้เลือก 3 เฉดสีได้แก่
- สีดำ Smoky Black
- สีน้ำตาล Nougat Beige
- สีฟ้า Marine Navy
หลังจากที่ทาง เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ปรับลดราคาจำหน่าย KIA EV5 รุ่น LIGHT ลดราคาสูงถึง 2 แสนบาทเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ราคา The KIA EV5 ทั้ง 5 รุ่นย่อย
- KIA EV5 รุ่น LIGHT จากราคา 1,299,000 บาท ปรับลดลง 200,000 บาท เหลือ 1,099,000 บาท
- KIA EV5 รุ่น Air Standard FWD จากราคา 1,399,000 บาท ปรับลดลง 170,000 บาท เหลือ 1,229,000 บาท
- KIA EV5 รุ่น Earth Long Range จากราคา 1,599,000 บาท ปรับลดลง 170,000 บาท เหลือ 1,429,000 บาท
- KIA EV5 รุ่น Earth Exclusive Performance จากราคา 1,799,000 บาท ปรับลดลง 170,000 บาท เหลือ 1,629,000 บาท
- KIA EV5 รุ่น GT Line AWD ราคา 1,849,000 บาท (ไม่ปรับราคา..คงเดิม)
นอกจากนั้นยังจะได้รับการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ นาน 7 ปี หรือ 150,000 กม.
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- รับประกัน High-Voltage Battery นาน 8 ปี หรือ 160,000 กม..
- ฟรี KIA Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง (ยกเว้นรุ่น LIGHT FWD)
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ชุดพรมปูพื้นรถยนต์ (ยกเว้นในรุ่น GT-Line AWD)
โดยล่าสุดทาง KIA ประเทศไทยประกาศปรับราคาจำหน่าย The Kia EV5 ลงทุกรุ่นย่อย (ยกเว้นรุ่น GT Line AWD) โดยปรับราคาลง 170,000 – 200,000 บาท มีผลตั้งแต่วันนี้ – 6 เมษายน 2568 (โปรโมชันเดียวกับ Motor Show 2025)
หมายเหตุ: สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 ถึง 30 เมษายน 2568