เลี่ยงได้เลี่ยง! เปิด 5 แยกในกรุงเทพฯ พบร้องเรียนรถติดหนักตลอดเวลา
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการสำรวจการกล่าวถึงแยกจราจรในกรุงเทพมหานครที่สร้างปัญหาต่อการเดินทางมากที่สุด ผ่านทางการแสดงความคิดเห็นของชาวโซเชียล ในช่วงวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2567 โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล DXT360 ซึ่งเป็นระบบติดตามและรวบรวมข้อมูลแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งโซเชียลมีเดียและสื่อดั้งเดิม (เว็บไซต์ข่าว โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร) พบ 5 แยกที่มีการร้องเรียนเรื่องรถติดมากที่สุดในกรุงเทพฯ
“แยกอโศก - เพชรบุรี” รถติดอันดับ 1
กรุงเทพมหานครประสบปัญหาการจราจรติดขัดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น จุดที่พบปัญหาการจราจรติดขัดอย่างชัดเจนมักเป็นแยกสำคัญต่างๆ ดังนี้
แยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนสายหลักหลายเส้นและมีสัญญาณไฟจราจรหลายจุด ทำให้เกิดการสะสมของปริมาณรถจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นแยกที่ได้รับการร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์สูงที่สุด (41.5%)
ห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าขนาดใหญ่ จึงมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน และเป็นแยกที่ได้รับการร้องเรียนมากเป็นอันดับสอง (18.0%)
แยกพระราม 9 (17.8%) และ แยกสาทร-สุรศักดิ์ (15.9%) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานและสถานศึกษาจำนวนมาก ได้รับการร้องเรียนเป็นอันดับที่สามและสี่ตามลำดับ
แยกประตูน้ำ (6.1%) ซึ่งเป็นศูนย์กลางใจกลางเมืองที่มีห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิงหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดอย่างหนาแน่น และได้รับการร้องเรียนเป็นอันดับสุดท้ายในบรรดาแยกที่มีปัญหามากที่สุด
ส่วนวิธีแก้ปัญหาการจราจรใน กทม. จากการศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรที่ประสบความสำเร็จ โดยการสำรวจจากเครื่องมือ Insight สามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีหลัก คือ
1.ระบบขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transport Systems) เป็นการบูรณาการเทคโนโลยีหลายรูปแบบ เช่น กล้องวงจรปิด และเซ็นเซอร์ตรวจวัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสัญญาณไฟจราจร ซึ่งใช้ในหลายเมืองใหญ่ เช่น สิงคโปร์ ลอนดอน และอัมสเตอร์ดัม
2.กลยุทธ์การบริหารความต้องการใช้งาน (Demand Management Strategies) เป็นการออกแบบนโยบายเพื่อควบคุมปริมาณยานพาหนะบนท้องถนน เช่น
- การจัดช่องทางพิเศษสำหรับรถโดยสารสาธารณะ (Bus Lanes) ในลอนดอน
- การเพิ่มค่าใช้จ่ายสำหรับรถยนต์ส่วนตัวเพื่อส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น ระบบ Electronic Road Pricing ในสิงคโปร์ และ ระบบ Congestion Charge Zone ในลอนดอน ที่เก็บค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการเข้าพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาจราจรอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเพียงงบประมาณหรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และที่สำคัญคือ ประชาชนที่ต้องเคารพกฎจราจร ซึ่งจะช่วยให้การจราจรคล่องตัวขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่จะยิ่งทำให้การจราจรติดขัด