จากกรณีรถกระบะชนท้ายรถยนต์หรู Rolls-Royce Ghost (โรลส์-รอยซ์ โกสต์) รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งมีราคาเริ่มต้นสูงถึง 32,700,000 บาท ทำให้หลายคนสนใจว่ารถรุ่นนี้เปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มีรายละเอียดอะไรบ้าง Siamcar รวบรวมมาให้อ่านครับ
Rolls-Royce (โรลส์-รอยซ์) มีความผูกพันกับคำว่า "Ghost (โกสต์)" มาโดยตลอด ซึ่งหลังจากที่ Rolls-Royce Ghost เจเนอเรชั่นแรก หรือ "Goodwood Ghost" (กู๊ดวูด โกสต์) ทำตลาดยาวนานกว่า 1 ทศวรรษ และกลายเป็นรุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประวัติศาสตร์ 117 ปี ของ โรลส์-รอยซ์
ก็ถึงเวลาของ ‘Ghost’ เจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเป็นผลผลิตจากการนำข้อมูลและความต้องการของลูกค้า โรลส์-รอยซ์ มาพัฒนานานกว่า 5 ปี ส่งผลให้เป็นยนตรกรรมที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา แต่เรียบง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์
นำเสนออัตลักษณ์ใหม่ ผ่านปรัชญาการออกแบบ "Post-Opulence" ที่ดูเรียบง่าย ผสานช่วงล่าง "Magic Carpet Ride" ที่ได้รับการปรับปรุงให้นุ่มนวลขึ้นอีกระดับ และมีการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก รวมถึงในไทย นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนกันยายนปี 2020 ที่ผ่านมา
โดย โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ได้เปิดตัว Rolls เปิดตัว All-New Rolls-Royce Ghost เจเนอเรชั่นใหม่ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา หลังเจเนอเรชั่นแรกทำตลาดมานาน 1 ทศวรรษ ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าที่ชื่นชอบความสมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน ทั้งการออกแบบและวิศวกรรมอันงดงามดุจงานศิลป์ ผสานบุคลิกที่ดูถ่อมตนและเรียบง่าย ที่ออกมาโลดแล่นบนถนนในไทยแล้วหลายคันด้วยกัน
สถาปัตยกรรมอะลูมิเนียมสเปซเฟรม
Rolls-Royce Ghost ใช้โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม เรียกว่า "สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา" (Architecture of Luxury) ทำหน้าที่เป็นแพลทฟอร์มให้กับยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ รุ่นใหม่ทุกรุ่น โครงสร้างสเปซเฟรมที่เบา ยืดหยุ่น แต่แข็งแกร่ง ปรับใช้ได้กับรถหลายขนาด ทำให้ Ghost มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่สมดุล 50:50
ตัวถังอะลูมิเนียมเชื่อมด้วยมือ เป็นเสมือนผ้าใบวาดภาพผืนใหญ่ มองแล้วลื่นไหลต่อเนื่อง ชวนให้นึกถึงรถโค้ชบิลต์เช่น "Silver Dawn" และ "Silver Cloud" ขณะที่สัญลักษณ์นางฟ้า หรือ "Spirit Of Ecstacy" ก็เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ถูกล้อมกรอบบริเวณฐาน เพิ่มความโดดเด่นให้นางฟ้าบนฝากระโปรง ดุจกำลังลอยอยู่กลางทะเลสาบ
เมื่อมองจากด้านข้าง ก็เห็นลายเส้นเดี่ยว ลากยาวไปตามตัวถัง ขณะที่เส้นโค้ง ‘Waft Line’ ด้านล่างถูกหยิบยืมมาจากการออกแบบเรือ ผสานเทคนิคเรื่องการตกกระทบของแสง ช่วยให้พื้นผิวดูสว่างขึ้น
รูปทรงของไฟท้ายที่แทบจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยด้วยการเอียงมาข้างหน้าเล็กน้อย และเนื่องจากรอยต่อรอบไฟได้หายไป จึงทำให้ไฟท้ายดูเหมือนเป็นเกาะที่ได้รับการแต่งแต้มสีสัน ลอยเด่นอยู่บนผิวรถ
เทคโนโลยีต่างๆ ประกอบด้วยไฟหน้าเลเซอร์ ที่มีระยะส่องสว่างไกลกว่า 600 เมตร และการปรับปรุงด้านความปลอดภัยที่สำคัญ อาทิ ระบบเสริมทัศนวิสัยที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนสิ่งกีดขวางทั้งกลางวันและกลางคืน ระบบเตือนผู้ขับหลับใน (Alertness Assistant) กล้อง 4 ตัว แสดงมุมมองรอบรถและมุมจากด้านบน การแสดงข้อมูลสะท้อนบนกระจกหน้า ระบบจอดอัตโนมัติ และอื่นๆ
มิติตัวรถยาว 5,546 มม. กว้าง 2,148 มม. สูง 1,571 มม. และระยะฐานล้อ 3,295 มม. น้ำหนักรถ (ขณะไม่บรรทุก) 2,490 กิโลกรัม
ตระการตากับแดชบอร์ดเรืองแสง
ทีมออกแบบ Bespoke Collective ที่ประกอบด้วยนักออกแบบ วิศวกร และช่างศิลป์ ได้รังสรรค์แดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) สำหรับ Ghost ที่ดูเข้ากันกับเพดานห้องโดยสาร ‘สตาร์ไลท์ เฮดไลเนอร์’ แดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) ปรับแต่งให้มีสีสันเข้ากับแสงของนาฬิกาและมาตรวัดในห้องโดยสาร
ติดตั้งท่อนำแสงหนา 2 มม. พร้อมเจาะรูขนาดเล็กด้วยเลเซอร์กว่า 90,000 ช่อง บนแดชบอร์ด เพื่อทำให้คำว่า ’Ghost’ มีความสว่างอย่างทั่วถึง ภายใต้ LED 152 ดวง ล้อมรอบด้วยหมู่ดาว 850 ดวง เปล่งประกายระยิบระยับ
ทั้งหมดถูกซ่อนไว้ขณะดับเครื่องยนต์ ภายใต้วัสดุคอมโพสิต 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นสีดำ Piano Black ที่เจาะรูด้วยเลเซอร์ เพื่อให้แสงส่องผ่านคำว่า Ghost และกลุ่มดาว จากนั้นพ่นทับด้วยแลคเกอร์ทึบ และแลคเกอร์ขุ่นในชั้นสุดท้าย พร้อมขัดแต่งด้วยมืออย่างประณีต เหลือเพียงชั้นแลคเกอร์บางเฉียบ 0.5 มม. พร้อมความเงางามฉ่ำลึก
หรูหรา กว้างขวาง ผสานความเงียบและอากาศบริสุทธิ์
นับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าสามารถเลือกเบาะนั่งด้านหลังแบบ "Serenity Seat" ปรับเอนได้ตามต้องการ คล้ายห้องโดยสารของเครื่องบินชั้นธุรกิจ
มาพร้อมตู้แช่แชมเปญที่สามารถกำหนดอุณหภูมิได้ 2 โหมด คือ 6 และ 11 องศาเซลเซียส สำหรับแชมเปญยุคใหม่ และแชมเปญวินเทจตามลำดับสีเคลือบผิวไม้ 2 สีใหม่ พัฒนาสำหรับ Ghost คือ Obsidian Ayous ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหลากหลายของสีที่พบในหินลาวา และ Dark Amber ที่ผสานอนุภาคอะลูมิเนียมละเอียดแทรกอยู่ในลายไม้
โดยทั้ง 2 สี สามารถเลือกเป็นแบบ (Open Pore) เพื่อเผยให้เห็นถึงผิวสัมผัสอย่างเป็นธรรมชาติ
ความเงียบสงบเป็นผลจากโครงสร้างอะลูมิเนียมที่มีค่าความต้านทานคลื่นเสียง (Acoustic Impedance) สูงกว่าเหล็ก การทำผนังห้องเครื่องและพื้นรถ 2 ชั้น แทรกกลางด้วยวัสดุซับเสียง ขณะที่ประตู หลังคา และจุดอื่นๆ ติดตั้งวัสดุซับเสียง น้ำหนักรวมกว่า 100 กิโลกรัม
ทว่าความเงียบสงัดอาจทำให้รู้สึกอึดอัด วิศวกรจึงสร้างโทนเสียงความถี่ต่ำ เรียกว่า "เสียงกระซิบ" (Whisper) พร้อมปรับแต่งอุปกรณ์ตามจุดต่างๆ ให้มีเสียงสะท้อนในความถี่เดียวกัน ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด
ห้องโดยสารของ Ghost ติดตั้งระบบฟอกอากาศ MEPS (Micro-Environment Purification System) ประกอบด้วยเซนเซอร์ความไวสูง เพื่อตรวจวัดคุณภาพอากาศโดยอัตโนมัติ หากตรวจพบสิ่งปนเปื้อน ก็จะผันอากาศสู่ไส้กรองนาโนฟลีซ ที่สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนอนุภาคขนาดเล็กจากห้องโดยสาร ภายในเวลาต่ำกว่า 2 นาที
ซอฟท์แวร์ Planar นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ
ช่วงล่างถุงลม โครงสร้างด้านหน้า-หลัง ดับเบิลวิชโบน และ Five-Link ตามลำดับ ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง ความนุ่มนวลของช่วงล่างดุจพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) พัฒนาไปอีกขั้น กับเทคโนโลยี "Planar Suspension System" ที่ใช้ผ่านการทดสอบและพัฒนาร่วม 10 ปี เพื่อสร้างประสบการณ์ขับอันนุ่มนวล เหมือนกำลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน ซึ่งไม่เคยมีผู้ผลิตยานยนต์รายใดทำได้
นับเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ดูดซับแรงสะเทือนเหนือปีกนกตัวบนของช่วงล่างหน้า (Upper Wishbone Damper) ช่วยเพิ่มความมั่นคงและนุ่มนวลในการขับ ทำงานร่วมกับระบบ Flagbearer เป็นกล้องคู่ สแกนพื้นถนนด้านหน้า และปรับช่วงล่างให้เหมาะกับสภาพถนน ผสานระบบเกียร์เชื่อมต่อกับดาวเทียม (Satellite Aided Transmission) ที่สามารถปรับจังหวะเกียร์ ให้ลงตัวกับเส้นทางมากที่สุด
เครื่องยนต์ V12 ตอบสนองทันใจแบบ Effortless
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 6.75 ลิตร แบบ V12 Twin Turbo 48 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ช่วยให้ยนตรกรรมพิกัดกว่า 2 ตัน มีอัตราเร่งทันใจ
แรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ตั้งแต่ 1,600 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่ารอบเดินเบาประมาณ 600 รอบ/นาที เท่านั้น รวมถึงมีการปรับแต่งท่อไอดีใหม่ เพื่อลดเสียงรบกวน ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.8 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. (จำกัดความเร็ว)
สำหรับ All-New Rolls-Royce Ghost ราคาเริ่มต้น 32.7 ล้านบาท ส่วน All-New Rolls-Royce Ghost Extended ราคาเริ่มต้น 36.8 ล้านบาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพนาน 4 ปี ผสานดูแลโดยทีมช่างผู้ชำนาญ ที่ผ่านการรับรองจาก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส รวมถึงอัพเกรดซอฟท์แวร์ฟรีตลอดอายุการใช้งาน และมั่นใจได้กับราคาขายต่อที่เป็นมาตรฐาน