
Land Rover DEFENDER OCTA V8 4.4 เทอร์โบคู่ เปิดตัวครั้งแรกในไทย
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ภายนอกจะมีความแตกต่างจากรุ่น Defender รุ่นมาตรฐาน โดยจะมากับลุคที่มีความดุดันมากยิ่งกว่า ตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ครีบระบายอากาศบนฝากระโปรง และช่องดักลมตรงบังโคลนหน้า กันชนหน้าที่ขยายขนาดช่องดักลมให้ใหญ่ขึ้น มาพร้อมตะขอสีเหลืองทอง อีกทั้งยังออกแบบให้มีมุมไต่ และมุมจากที่มากกว่ารุ่นปกติ เส้นสายด้านข้างตัวถังปรับให้มีความโหด ด้วยการขยายความกว้างของซุ้มล้อทั้ง 2 ข้าง ขเพื่อให้รองรับยางออฟโรดขนาดหน้ากว้าง มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว Style 1086 สี Diamond Turned Satin Dark Tint พร้อมคอนทราสต์สีดำ Satin ที่รัดด้วยยาง All-Terrain ขนาด 275/60 ของทาง Goodrich ด้านหลังติดตั้งไฟท้ายคู่แนวตั้ง LED พร้อมไฟตัดหมอกหลัง มาพร้อมยางอะไหล่ที่ฝาท้าย และกันชนหลังออกแบบใหม่ ให้ดุด้วยสีเดียวกับตัวรถ พร้อมตะขอลากรถคู่สีเหลืองทอง ส่วนปลายท่อไอเสียมาในทรงเหลี่ยม ในด้านขนาดมิติตัถังจะมีความยาว 4,813 มม. (5,003 มม. รวมยางอะไหล่) กว้าง 2,064 มม. สูง 1,995 มม. และมีระยะฐานล้อ 3,023 มม.
ภายในห้องโดยสารก็จะแตกต่างจาก Defender รุ่นมาตรฐาน โดย Defender OCTA Edition One จะมาในโทนสีน้ำตาลกากี/ไม้มะเกลือ ด้านตัวเบาะที่นั่งเป็นแบบ Performance Seats ใหม่ที่ยกปีกมาให้กระชับมากขึ้น และมีพนักพิงศีรษะตายตัว พร้อมหุ้มด้วยวัดสุหนัง Ultrafabrics™ แบบเจาะรูสีสีน้ำตาลกากี/ไม้มะเกลือ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบเครื่องเสียงชุดใหม่ Body and Soul Seat Audio ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกใน Defender พร้อมระบบคำสั่งเพื่อความผ่อนคลาย Wellness 6 แบบ
แต่ไฮไลท์จุดเด่นของ Defender OCTA Edition One นั้นไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ด้านนอก หรือภายในห้องโดยสาร แต่อยู่ที่เครื่องยนต์ฝาใต้ฝากระโปรง กับระบบช่วงล่างที่ปรับเซทใหม่แบบยกชุด
ขุมพลัง Defender OCTA 2025
เครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo Mild-hybrid V8 ขนาด 4.4 ลิตร กำลังสูงสุด 635 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,800 – 6,000 รอบ/นาที และ ปลดล็อคเป็น 800 นิวตันเมตร เมื่อใช้คำสั่ง Dynamic Launch Mode จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
เลือก OCTA โหมด ระบบเบรกที่ปรับแต่งพิเศษสำหรับ พื้นถนนลูกรัง โหมด Dynamic ของเราได้รับการปรับแต่งอย่างเหมาะสมเพื่อมอบ ประสบการณ์การขับขี่บนท้องถนนที่เหนือระดับ แต่ละโหมดจะส่องสว่างภายในห้องโดยสารด้วย สีแดงสดใส เปลี่ยนแปลงรูปแบบหน้าจอเพื่อให้มองเห็น พละกำลัง แรงบิด และแรง G ด้านข้างได้อย่างชัดเจน
นอกจากพละกำลังของ Defender OCTA ที่ว่าแรง และจัดจ้านแล้ว ทางแลนด์โรเวอร์ ยังได้ปรับเซทระบบช่วงล่างใหม่ เพื่อให้รองรับการพละกำลังที่มากขึ้น โดยเอสยูวีสายลุยตัวใหม่นี้ ได้ปรับความสูงของตัวรถเพิ่มขึ้น 28 มม. รวมทั้งยังขยายระยะฐานล้อซ้ายขวาออกไปอีก 68 มม.
ซึ่งจากความสูงที่เพิ่มขึ้นทาง Land Rover ได้ติดตั้งวิชโบนที่มีความยาวมากขึ้น และแข็งแกร่งมากขึ้น รวมไปถึงใช้เทคโนโลยีช่วงล่าง 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้แดมเปอร์เซมิ-แอคทีฟไฮดรอลิกอินเตอร์ลิงก์แปรผันต่อเนื่อง ซึ่งถูกระบุว่าช่วงลดการเอียง และโคลงของรถบนถนนพร้อมกับช่วยให้การลุยออฟโรดดีมากกว่าเดิม
อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบตรวจจับลักษณะพื้นผิวอัตโนมัติ รววมทั้งผู้ขับขี่ยังสามารถปรับการตั้งค่าพวงมาลัย / คันเร่ง และระบบกันสะเทือนได้ด้วยตนเอง
นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ใหม่ที่เรียกว่า ‘OCTA‘ โดยในโหมดนี้จะมีการเปิดใช้งานการควบคุม Off-Road Launch และ ABS เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นบนเส้นทางออฟโรด ทั้งยังควบคุมทำงานของระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และระบบช่วยควบคุมการทรงตัวให้ทำงานต่ำที่สุด รวมไปถึงปรับแต่งระบบ ABS เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ทั้งยังลุยน้ำได้ลึกสุด 1 เมตร
Defender OCTA 2025 มีสีตัวถังภายนอกให้เลือก 2 สี
- สีทอง Petra Copper
- สีเขียว Faroe Green
Defender OCTA 2025 ราคาเท่าไร
- DEFENDER OCTA ราคาเริ่มต้น 21,000,000 บาท
- Defender OCTA Edition One ราคาเริ่มต้น 22,000,000 บาท