
Leapmotor C10 Style รุ่นย่อยใหม่ แบตวิ่งไกล 477 กม. ถูกลงกว่ารุ่น Top ถึง 1.2 แสนบาท
สำหรับในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ LEAPMOTOR C10 รุ่น Style ก็ยังคงเหมือนกับตัว C10 รุ่น Design โดยด้านหน้ามากับไฟหน้า LED แบบ “Angel-Wing” มาพร้อม DRL แบบ Sequential มาพร้อมระบบ Active Grille Shutter (AGS) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก
ด้านข้างตัวรถออกแบบให้มีความเรียบหรู ดูแพง มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ มาพร้อมหลังคารถแบบแขวน เพื่อทำให้ตัวรถนั้นดูมีความกว้าง และดูใหญ่ขึ้น ขณะที่ชุดล้ออัลลอยจะปรับเปลี่ยนจากขนาด 20 นิ้ว ที่รัดด้วยยางขนาด 245/45 R20 มาเป็นล้อขนาด 18 นิ้ว ที่รัดด้วยยางขนาด 235/55 R18 ขณะที่ด้านท้ายก็ยังคงเดิมโดยมากับแถบไฟ LED ที่วางเต็มพื้นที่ส่วนท้าย เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคา มาพร้อมไฟเบรดวงที่ 3
นอกจากนั้นในส่วนของรุ่น Style จะไม่มีกระจกหลังแบบ Privacy รวมถึงแถบไฟท้ายแบบ LED ที่มีฟังก์ชันการเคลื่อนไหว หรือ Light Animation ด้านมิติขนาดตัวรถทั้ง 2 รุ่น จะมีความยาว 4,739 มม. ความกว้าง 1,900 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,825 มม. มาพร้อมระยะห่างจากพื้น 190 มม.
ภายในห้องโดยสาร แผงแดชบอร์ดจะมาในแบบมินินอล เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความไฮเทค โดยจะไม่มีปุ่มสั่งงานใด ๆ โดยจะติดตั้งเพียง แผงหน้าปัด LCD ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 10.25 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบก้านคู่ท้ายตัด (โดยในรุ่น Style พวงมาลัยจะไม่มี ระบบอุ่นพวงมาลัย หรือ Steering Wheel Heating)
ขณะที่หน้าจอส่วนกลางจะมีขนาด 14.6 ความคมชัดระดับ 2.5K มาพร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon 8155 อีกทั้งยังถูกเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Leapmotor OS 4.0 และสามารถรับรู้การโต้ตอบด้วยเสียง พร้อมรองรับการอัปเดทแบบ OTA
ด้านเบาะที่นั่งจะถูกหุ้มด้วยหนัง ส่วนในรุ่น Design จะหุ้มด้วยวัสดุผ้าที่ผ่านการรับรอง OEKO-Tex Standard 100® ปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายต่อเด็กทารก ด้านเบาะคนขับยังคงออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ แต่ในรุ่น Style จะไม่มีะบบระบายอากาศ – อุ่น เบาะนั่งคู่หน้า ขณะที่ส่วนอื่น ๆ เกี่ยวกับเบาะที่นั่งยังคงอยู่ครบครันทั้ง เบาะแถวสองจะมีพื้นที่ Legroom ที่กว้างมากถึง 1,050 มม. อีกทั้งเบาะคู่หน้าสามารถปรับเอนได้ถึง 180° นอกจากนั้นยังปรับให้เชื่อมต่อกับเบาะแถวหลังให้กลายเป็นโซฟาขนาดใหญ่ที่มีความยาวเกือบ 1.8 เมตร และสามารถสร้างเตียงได้กว้างกว่า 2.7 เมตร
ในส่วนพื้นที่เก็บสัมภาะระด้านท้ายสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้ถึง 7 ใบ และสามารถขยายได้ถึง 1,410 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ด้านชุดอุปกรณ์ภายในของในรุ่น Style จะได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนเท่านั้น ชุดเครื่องเสียงที่มากับลำโพง 12 ตำแหน่ง, พอร์ต USB หลายจุด, ช่องจ่ายกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ และหลังคา Panoramic Sunroof ขนาด 2.1 ตารางเมตร โดยในส่วนของชุดไฟ Ambient Light, อุปกรณ์ตรวจสอบคุณภาพอากาศ Air Quality Monitor และ ประตูท้ายแบบไฟฟ้าจะถูกถอดออก
ด้าระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ยังคงครบครันทั้งกล้อง 360 องศา และระบบ ADAS ขั้นสูง ไม่วาาจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CCS), ระบบควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (LCC), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (TJA), ระบบเตือนกันชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (BSD), ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตาขณะขับขี่ (HOD), ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW), ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบแปรฝัน (ACC), ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน (ELK), ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบเตือนการถอยหลังและช่วยเบรกขณะออกจากช่องจอด (RCTA + RCTB), ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ISA),ระบบแจ้งเตือนเมื่อคนขับเกิดภาวะง่วงซึม (DDAW) และ ระบบเตือนเมื่อคนขับเสียสมาธิแบบขั้นสูง (ADDW)
LEAPMOTOR C10 Style รุ่นย่อยใหม่ ยังคงถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Leap 3.0 ในด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะเหมือนกับในรุ่น Design มากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0 -100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. มีโหมดการขับขี่ทั้ง Easy / Sport / Custom และ Chill มาพร้อมระบบ Stellantis supercar tuning และเทคโนโลยี Cell-To-Chassis 2.0 จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีขนาดความจุ 69.9 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 477 กม. (NEDC)
รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC 84 kW ที่ให้กำลังไฟ 30 – 80% ภายใน 30 นาที และรองรับการชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ที่ชาร์ไฟเต็มภายในเวลา 5 ชม.
มาพร้อมระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟกลับ Braking Energy Regeneration System พร้อมฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าภายนอก V2L
ระบบช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut ด้านหลัง Multi-Link ระบบเบรก คู่หน้า-หลัง ดิสก์เบรก แบบมีครีบระบายความร้อน
ส่วน LEAPMOTOR C10 รุ่น Style (ใหม่) จะมีให้เลือกตัวถัง 2 สี ได้แก่ Pearly White และ Metallic Black และส่วนสีภายในจะมีเพียงเฉดสีดำ Sky Black เท่านั้น
ราคาจำหน่าย LEAPMOTOR C10
- LEAPMOTOR C10 รุ่น Style ราคา 978,000 บาท (ใหม่)
- LEAPMOTOR C10 รุ่น Design ราคา 1,098,000 บาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ ดังนี้
- ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ฟรี! บริการรถช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
- ฟรี! ค่าจดทะเบียน
- ฟรี! ที่ชาร์จแบบพกพา
- รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร