ราคาแนะนำช่วงเปิดตัว MG S5 EV ตัวแทน ZS EV  เริ่มต้น  (719,900 บาท) หวังเจาะตลาด บี-เซ็กเมนต์
ราคาแนะนำช่วงเปิดตัว MG S5 EV ตัวแทน ZS EV เริ่มต้น (719,900 บาท) หวังเจาะตลาด บี-เซ็กเมนต์

ราคาแนะนำช่วงเปิดตัว MG S5 EV ตัวแทน ZS EV  เริ่มต้น  (719,900 บาท) หวังเจาะตลาด บี-เซ็กเมนต์ 

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายรถยนต์ MG (เอมจี) ประเทศไทย เสนอทางเลือกที่คุ้มค่าให้กับผู้บริโภค พร้อมเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวี เปิดตัว Global Model รุ่นที่ 2 ของปี ด้วย New MG S5 EV (เอมจี เอส 5 อีวี) ใหม่ บุกตลาด และสร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่ม B-SUV ไฟฟ้า กับจุดเด่น “ขับสนุก วิ่งไกล ชาร์จไว นั่งสบาย พร้อม Lifetime Warranty” ตอกย้ำการเป็น E-SUV ที่คุ้มค่าและครบครัน ตอบโจทย์ทุกความต้อง การของคนไทย ด้วยยนตรกรรมไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า New MG S5 EV นับเป็น E-SUV รุ่นแรกที่พัฒนาบน Nebula pure Electric Platform ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่รองรับรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายเซก เมนท์ ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยเริ่มใช้งานครั้งแรกใน New MG4 Electric (เอมจี 4 อีเลคทริค) ใหม่ และได้รับการพัฒนาช่วงล่างให้เหมาะกับรูปแบบ SUV มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุก และมั่นใจในทุกเส้นทาง ภายใต้แนวคิด “Make Anywhere Possible” ที่เข้ามายกระดับมาตรฐานรถ E-SUV ในประเทศไทยให้ก้าว ปอีกขั้น ซึ่งรถรุ่นนี้ถือเป็นอีก “Global Model” ที่จะทำตลาดในหลายประเทศทั่วโลก รถรุ่นนี้ยังเป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่ MG ได้เริ่มเดินสายการผลิตในประเทศไทย (CKD) ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล รองรับทั้งตลาดในประเทศ และแผนการส่งออกในอนาคตอีกด้วย 

ด้านงานออกแบบดีไซน์นั้นจัะมากับความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ด้านหน้าจะมาในแบบปิดทึบตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ขนาบข้างด้วยชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน 2 ชั้น ด้านบนจะเป็นไฟ DRL LED ที่เป็นกรอบทรงเรียวยาว ที่วางเรียวต่อกัน 3 ดวง สาวนชุดไฟส่องสว่างด้านล่างจะอยู่ในกรอบทรงสี่เหลี่ยมคางหมู มาพร้อมระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ โดยจะมีช่องดักอากาศต่อเชื่อมอยู่ด้านล่าง

นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับช่องดักอากาศคู่ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางที่เปิด-ปิดอัตโนมัติ (Active grille) เติมความสปอร์ต และดุดันด้วยชุดพาร์ทแต่งสีดำรอบตัวรถที่ชายด้านล่าง

เส้นสายด้านข้างตัวถังจะมีเส้นนำสายตาที่ลากยาวตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า ลากยาวไปจนถึงชุดไฟท้าย พร้อมตกแต่งชายประตูข้างด้วยแถบสีโครเมียม ขณะที่มือเปิดประตูมาในรูปแบบปกติที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ ตัดกับฝาครอบกระจกมองข้างที่เป็นสีดำมาพร้อมชุดไฟเลี้ยวในตัว

เพิ่มความหรูหราที่ขอบหน้าต่างบานข้างด้วยคิ้วโครเมียมที่ลากยาวตั้งแต่เสา A เลาะขึ้นไปตามขอบหน้าต่างไปจนถึงเสา C ด้านท้าย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ในทุกรุ่นย่อย มาพร้อมกระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า

ขณะที่ด้านบนหลังคายังคงมาพร้อมกับแล็คหลังคาที่เป็นสีโครเมียมเพื่อเสริมลุคให้เป็นรถสไตล์ครอสโอเวอร์ พร้อมกับรองรับใช้งานที่หลากหลาย อีกทั้งยังเสริมความสปอร์ตให้กับตัวรถด้วยนสปอยเลอร์หลังคา ที่มาพร้อมชุดำฟเบรกดวงที่ 3 

ด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้ายทรงตัว Y ที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ด้านหลัง โดยมีตราโลโก้ MG คั้นไว้ตรงกลาง มาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติกระจกบานหน้า นอกจากนั้นยังมากับฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ

สำหรับขนาดมิติตัวรถจะมีความยาว 4,476 มม. กว้าง 1,849 มม. สูง 1,621 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,730 มม. อีกทั้งยังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเป็นพิเศษเพียง’ 530 มม. ช่วยทำให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น และยังมีการกระจายน้ำหนักที่เพลา 50-50

ภายในห้องโดยสาร เน้นงานออกแบบที่ดูพรีเมียมทุกสัมผัส สะดวกสบายในทุกมุมมอง ด้วยการออกแบบภายในที่เรียบง่าย พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง ตกแต่งสีทูโทน เทา-ดำ โดยจะตกแต่งภายในด้วยวัสดุ Soft touch 

เบาะที่นั่งรองรับได้ 5 ที่นั่ง ตัวเบาะหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ โดยในรุ่น V มาพร้อมกับรูระบายอากาศตัวเบาะนั่งฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง  ส่วนเบาะที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ขณะที่เบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้ 60:40 มาพร้อมที่ท้าวแขน และที่วางแก้ว

แผงคอนโซลหน้าจะมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ที่หุ้มด้วยหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 10.25 นิ้ว (Digital Multi-Function Display) และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ที่รองรับการรเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android แบบไร้สาย

รวมทั้งยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ i-SMART 3.0 ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับกระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบ Intelligent smart access, ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย, ชุดเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 6 จุด และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา 

ส่วนพื้นที่เก็บของด้านท้ายจะมีขนาดความจุที่ 453 ลิตร และเมื่อพับเบาะด้านหลังลงจะขยายพื้นที่ได้มากถึง 1,441 ลิตร รองรับการชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาทีรองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 140 kW อีกทั้งยังมาพร้อมระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6 kW

โดยทั้ง 2 รุ่นจะมีโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Normal, Sport, Snow และ Custom อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบ KERS 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ 

ด้านระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension พร้อมเดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อน

ด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ของจะมากับระบบ เบรกมือไฟฟ้า EPB / ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH, ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD / ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA ,ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS,  ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW , ระบบช่วยเบรก AEB, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA, ระบบช่วยควบคุมรถยนต์ให้ขับเคลื่อนอยู่ในเลน LKA, ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK, ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตาที่ทำงานประสานกันทั้ง ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD, ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA, ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB, ระบบระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW และระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW อีกทั้งยังมีระบบคันเร่งแบบ One Pedal และฟังก์ชันปลดล็อคเกียร์ว่างจากหน้าจอ

NEW MG S5 EV ที่เปิดวางจำหน่ยาในไทย จะมีสีตัวถังให้เลือก 4 สี ได้แก่ สี CHAMPAGNE TITANIUM / สี ANDES GREY / สี BLACK KNIGHT และ สี ARCTIC WHITE 

ราคาจำหน่าย NEW MG S5 EV (รุ่นประกอบในไทย) 

- MG S5 EV รุ่น D ราคา 7.19 แสนบาท
- MG S5 EV รุ่น X ราคา 7.79 แสนบาท
- MG S5 EV รุ่น V ราคา 8.99 แสนบาท

ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว หลังจากนั้นจะปรับเพิ่มขึ้น 20,000 – 50,000 บาท
มาพร้อมการรับประกันและบริการ ดังนี้

- รับประกันชิ้นส่วน ตลอดอายุการใช้งาน Lifetime Warranty ไม่จำกัดปี ไม่จำกัดระยะทาง
- แบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง (High-Voltage Battery)
- ชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน (Electric Drive Unit)
- ชุดควบคุมมอเตอร์ขับเคลื่อน (Power Electric Box)

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง