All-new Mercedes-Benz CLA (C178) 2025 ใหม่
All-new Mercedes-Benz CLA (C178) 2025 ใหม่

All-new Mercedes-Benz CLA (C178) 2025 ใหม่

ALL New Mercedes-Benz CLA เดินทางทางมาจนถึง เจเนอเรชันที่ 3 ภายใต้ความทันสมัยที่ได้รับการออกแบบใหม่ ครั้งแรกกับขุมพลังไฟฟ้า ภายใต้เทคโนโลยี 800V ส่งผลให้รถรองรับการชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟสูง และวิ่งได้ระยะทางไกล แบตเตอรี่รองรับระบบ Vehicle-to-Home (V2H) หรือ Vehicle-to-Grid (V2G) 

มิติตัวถัง All NEW Mercedes-Benz CLA

- ยาว 4,723 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,855 มิลลิเมตร
- สูง 1,468 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ Wheelbase 2,790 มิลลิเมตร
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.21
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 405 ลิตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า Frunk 101 ลิตร

ดีไซน์ภายนอกของ All-new CLA มีรูปลักษณ์คล้ายกับรถต้นแบบ Concept CLA ที่ถูกเผยโฉมตั้งแต่ปี 2566 โดยยังคงเอกลักษณ์ตัวถังแบบคูเป้ 4 ประตู ออกแบบฝากระโปรงหน้ายาวพร้อมโป่งพาวเวอร์โดมช่วยเพิ่มความดุดัน ด้านท้ายออกแบบไฟท้ายรูปทรงยาวที่สามารถส่องสว่างเป็นรูปดาวสามแฉกทั้งสองข้าง

All-new CLA ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED High Performance เป็นมาตรฐาน สามารถเลือกออปชันเป็นไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันเป็นรูปดาวสามแฉกได้ โดยทุกรุ่นถูกติดตั้งหลังคากระจก Panoramic แบบชิ้นเดียว ซึ่งเมอเซเดส-เบนซ์ระหว่างช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งยังมีการเคลือบวัสดุเพื่อลดแสงและความร้อนจากดวงอาทิตย์

Mercedes-Benz CLA เจเนอเรชันที่ 3 รหัสตัวถัง C178 ประเดิมเปิดตัวด้วยระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วน 100% ก่อนจะตามมาด้วยเวอร์ชันเครื่องยนต์ไฮบริด 48V ในภายหลัง โดยระยะแรกจะทำตลาด 2 รุ่นย่อย คือ CLA 250+ และ CLA 350 4MATIC

Mercedes-Benz CLA 250+ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanently excited synchronous machine ขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมเกียร์แบบ 2-speed กำลังสูงสุด 272 แรงม้า (200 kW) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.

แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion ขนาดความจุ 85 kWh ระยะทางขับขี่สูงสุด 792 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (WLTP) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC กำลังไฟสูงสุดถึง 320 กิโลวัตต์ อันเป็นผลจากการใช้สถาปัตยกรรมไฟฟ้าแบบ 800 โวลต์ สามารถชาร์จเพียง 10 นาที ได้ระยะทางขับขี่กลับคืนสูงสุด 325 กม.

Mercedes-Benz CLA 350 4MATIC ถูกเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อคู่หน้า ให้กำลังรวมสูงสุด 354 แรงม้า (260 kW) แรงบิดสูงสุด 515 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. แบตเตอรี่มีขนาดเท่ากับรุ่น CLA 250+ ระยะทางขับขี่สูงสุด 771 กม. ต่อชาร์จ (WLTP)

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยระบบ MBUX Superscreen ที่ประกอบด้วยหน้าจอผู้ขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอกลางขนาด 14 นิ้ว ทั้งยังสามารถเลือกออปชันเป็นหน้าขนาด 14 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเพิ่มเติมได้ เสริมความล้ำสมัยด้วยแผงคอนโซลกลางแบบสองชั้นพร้อมที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย

All-new CLA ยังเป็นรุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MB.OS (Mercedes-Benz Operating System) ทำงานควบคู่กับระบบ AI จาก Microsoft และ Google ทั้งยังระบุว่ามาพร้อมกับชิปประสิทธิสูงและกราฟิกจาก Unity Game Engine เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยหน้าจอ MBUX Zero Layer ที่เปรียบเสมือนหน้าโฮมสำหรับแสดงข้อมูลที่จำเป็นที่สุดต่อการใช้งาน

ระบบ MBUX Virtual Assistant ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถพูดคุยโต้ตอบกับตัวรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยอาศัยพื้นฐานระบบ ChatGPTo ที่ครอบคลุมความรู้ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต และ Google Gemini ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลของ Google Maps เพื่อเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละสถานที่ได้

นอกจากนี้ ระบบนำทางของ All-new CLA ยังอาศัยพื้นฐานการทำงานของ Google Maps อันเป็นผลจากความร่วมมือระหว่าง Google และ Mercedes-Benz พร้อมทั้งระบบ Mercedes‑Benz Navigation with Electric Intelligence ที่สามารถคำนวณเส้นทางที่เหมาะสมกับระยะทางขับขี่คงเหลือเพื่อความสะดวกในการแวะสถานีชาร์จ

All-new CLA เวอร์ชันยุโรปมาพร้อมระบบ DISTRONIC Distance Assist เป็นมาตรฐาน สามารถเลือกออปชันเสริมเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่ MB.DRIVE ASSIST ที่ผสานการทำงานของระบบ DISTRONIC และ Steering Assist กลายเป็นระบบขับขี่อัตโนมัติ Level 2 (ตามมาตรฐาน SAE) พร้อมฟังก์ชัน Lane Change Assist ที่สามารถเปลี่ยนเลนอัตโนมัติเพียงยกก้านไฟเลี้ยวเท่านั้น

นอกจากนี้ All-new CLA ยังเตรียมเสริมทัพปลายปีด้วยขุมพลังไฮบริด 48 โวลต์ ที่รวมเอามอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งเดียวกับชุดเกียร์ สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวด้วยความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. (เมื่อใช้กำลังเครื่องยนต์ต่ำกว่า 20 กิโลวัตต์) อีกทั้งเครื่องยนต์ยังสามารถปั่นไฟเก็บไว้ยังแบตเตอรี่ได้ทั้ง 8 เกียร์ ด้วยกำลังไฟสูงสุด 25 กิโลวัตต์

ทั้งนี้ Mercedes-Benz CLA เจเนอเรชันที่ 3 ถูกพัฒนาบนแพล็ตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งจะถูกนำไปใช้กับ CLA Shooting Brake และเอสยูวีอีก 2 รุ่น ขณะที่ A-Class รุ่นปัจจุบันจะถูกยุติการผลิตภายในปี 2569

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง