
Mercedes-AMG G 63 แรงสุดพลัง V8 4.0 Bi-Turbo 585 แรงม้า
Mercedes-Benz G-Class สร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ด้วยการเปิดตัวแบบใหม่หมดแต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ และสถานะการเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์หรูแบบออฟโร้ดเอาไว้อย่างมั่นคงมานานกว่า 40 ปี
ล่าสุด Mercedes-Benz G-Class เจเนอเรชั่นที่ 2 ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงเมืองไทยอย่างเป็นทางการในร่างเวอร์ชั่นแรงจากโรงงานในชื่อ Mercedes-AMG G 63 รถยนต์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของรถยนต์ G-Class ในตระกูล Mercedes-AMG
ภายนอกออกแบบให้สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ AMG และมีรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยโครงสร้างตัวถังทรงสี่เหลี่ยมที่ใช้เหล็กกล้าหลากหลายระดับ มีความทนทานและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าโครงสร้างเดิมถึง 55% ขณะที่สปอยเลอร์ ฝากระโปรงหน้า และประตูใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุหลัก รถคันนี้มาพร้อมกับหลังคาซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอย AMG ขนาด 21 นิ้ว 5 ก้านคู่ พร้อมยาง 285/45 R21 ไฟหน้าทรงกลมที่ใช้ระบบ MULTIBEAM LED เทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด ไฟเลี้ยวแบบเชื่อมเข้ากับตัวถัง กันชนเสริมที่ดูดุดันเข้ากับแถบสีดำเงา และตราสัญลักษณ์ AMG สีเงิน ที่แขวนยางอะไหล่ด้านหลังพร้อมฝาปิด ทำจากสแตนเลสที่มีตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz แบบ 3 มิติ
กระจังและกันชนหน้าของ AMG ที่มีท่อรับอากาศด้านข้างและเก็บขอบเป็นสีเงินอิริเดียม หลังคาของรถยังเชื่อมต่อกับโครงสร้างตัวถังด้วยกระบวนการเชื่อมโดยใช้แสงเลเซอร์แทนที่การเชื่อมแบบอัด ซึ่งช่วยให้ส่วนหลังคาเรียบเนียนและแข็งแกร่งกว่าเดิม พร้อมทั้งยังมีการเชื่อมหน้าต่างเข้ากับตัวถังโดยตรงเป็นครั้งแรกเพื่อให้ตัวถังแข็งแกร่งขึ้น ลดการสึกกร่อนของกรอบหน้าต่างด้วย
มิติตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่ความยาว 4,881 มม. ความกว้าง 1,984 มม. ความสูง 1,969 มม. ความจุถังน้ำมัน 100 ลิตร พร้อมมิติภายในใหม่ เพื่อให้ห้องโดยสารมีความทันสมัยและใหญ่ขึ้นและเมื่อเทียบกับ G-Class รุ่นเดิมพบว่า ยาวกว่าเดิม 101 มิลลิเมตร กว้างกว่าเดิม 121 มิลลิเมตร และสูงกว่าเดิม 40 มิลลิเมตร
ภายในตกแต่งภายในแบบใหม่มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาแบบ IWC แบบเฉพาะของ AMG และแผงหน้าปัดทั้งแบบ analog และแบบดิจิทัลที่ใช้หน้าจอ widescreen ขนาด 12.3 นิ้ว 2 หน้าจอที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวภายในกระจกขนาดใหญ่ สามารถแสดงผลได้ 3 แบบคือ Classic, Sporty และ Progressive และแสดงภาพด้วย
ระบบ COMAND Online บนจอแสดงผล มีพวงมาลัย AMG Performance แบบท้ายตัดหุ้มหนัง NAPPA ตัดสลับ DINAMICA Microfibre มีขอบโค้งจับได้กระชับมือและส่วนนูนที่ช่วยบอกตำแหน่งการจับเพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย ช่องลมของเครื่องปรับอากาศออกแบบให้เป็นทรงกลมเพื่อรับกับไฟหน้าและชุดไฟแสดงสถานะของรถบนแผงคอนโซล มือจับบนเพดานเพื่อช่วยในการเข้าออกของผู้โดยสารตอนหน้า สวิตช์ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบช่วงล่างที่เป็นสีเงินโครเมี่ยม เบาะที่นั่งทั้งหมดหุ้มหนัง nappa ที่มีปีกเบาะเสริมการปกป้องด้านข้างของผู้โดยสาร ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น ระบบจดจำการปรับตั้งค่าเบาะที่นั่ง ระบบอุ่นเบาะสำหรับทุกคนในห้องโดยสาร และพนักพิงศีรษะสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า เบาะหลังสามารถพับลงได้ 3 ตอน คือ 40%, 60% และ 100% อีกทั้งยังติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system และระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 สี
เครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร 3,982 ซีซี. Bi-Turbo พ่วงเทอร์โบคู่ พละกำลังสูงสุด 585 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 2,500 - 3,500 รอบ/นาที พ่วงระบบ Mild Hybrid 48V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 จังหวะ SPORT TRANSMISSION พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC : 4×4 Full-time permanent 40 : 60 distribution
ตัวเลขจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.5 วินาที
- Top Speed ความเร็วสูงสุด 220 km/h
ช่วงล่าง Mercedes-AMG G 63
- ช่วงล่าง แบบ AMG ACTIVE RIDE CONTROL Chassis
- ระบบช่วงล่างแบบ Active Hydraulic
- ปรับโหมดช่วงล่างได้ 2 รูปแบบ คือ Off-Road และ Sport
- ระบบล็อคเฟืองท้าย Differential Lock 3 จุด ได้เต็ม 100% (Three Times 100% Lockable)
- อัลลอย ขนาด 21 นิ้ว AMG แบบ 5 ก้านคู่
- ระบบเบรก AMG High-Performance Braking System
- คาลิปเปอร์เบรกสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ AMG
ภายใน Mercedes-AMG G 63
- มาตรวัด All-Digital Instrument Display ขนาด 12.3 นิ้ว
- หน้าจอกลาง ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบปฎิบัติการ COMAND Online
- พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel
- พวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa ตัดสลับ DINAMICA microfibre
- กล้องรอบคัน 360° องศา
-ฟังก์ชั่น Transparent Bonnet แสดงภาพด้านหน้ารถและใต้ท้องรถ
- ระบบเลือกโหมดการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT
- ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® Surround Sound System
- ระบบฟอกอากาศ Air Balance Cabin-Air Purification System
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Assistance Package
- ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist with exit warning function)
- ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist)
- ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย (Active Steering Assist)
นวัตกรรมและเทคโนโลยี มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ที่เน้นการกระจายกำลังไปที่ล้อคู่หลังแบบ 40:60, ระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL ที่เป็นระบบมาตรฐานของรถยนต์รุ่นนี้ สามารถปรับได้ตามสไตล์การขับขี่และสภาพถนน โดยระบบจะอ้างอิงข้อมูลต่างๆ เช่นทิศทางและความเร็วของรถ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับได้ 3 โหมด คือ Comfort, Sport, และ Sport+, ระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยน ช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ, ระบบ Active Braking Assist ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 8 สี
- สีขาว Polar White
- สีดำ Obsidian Black
- สีเงิน Iridium Silver
- สีเงิน Mojave Silver
- สีน้ำเงิน Sodalite Blue
- สีน้ำเงิน Brilliant Blue
- สีเขียว Emerald Green
- สีเทา Selenite Grey
Mercedes-AMG G 63 2025 ราคาเท่าไร
ราคาอย่างเป็นทางการ Mercedes-AMG G 63 (นำเข้า CBU)
G 63 ราคา 18,800,000 บาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถนาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง