เผยราคาอย่างเป็นทางการ MASERATI GRANCABRIO FOLGORE สุดยอดรถเปิดหลังคาพลังไฟฟ้าEV  

รถใหม่จากเมืองมะกะโรนีอีกแบบหนึ่งที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นผลงานของ MASERATI (มาเซราตี) เจ้าของเครื่องหมายการค้า “ตรีศูล” หรือ “สามง่าม” ซึ่งประกอบกิจการต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 1 ศตวรรษ คือ ตั้งแต่ปี 1914

ผู้ผลิตรถหรูรายนี้มีประสบการณ์ในการทำรถเปิดประทุนมานานมาก คือ เริ่มทำรถเปิดประทุนคันแรกซึ่งมีชื่อว่า MASERATI 4CS (มาเซราตี 4 ซีเอส) เมื่อปี 1931 ส่วนรถเปิดประทุนในสายการผลิตปัจจุบันมีอยู่อนุกรมเดียว คือ รถ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ติดป้ายชื่อ MASERATI GRANCABRIO (มาเซราตี กรันกาบริโอ) ซึ่งเป็นคู่ฝาคู่แฝด และออกแบบพัฒนามาพร้อมกันกับรถคูเป 2 ประตู 4 ที่นั่ง ติดป้ายชื่อ MASERATI GRANTURISMO (มาเซราตี กรันตูริสโม) รถรุ่นแรกเริ่มการจำหน่ายเมื่อปี 2010 และอยู่ในตลาดยาวนานจนถึงปี 2019 จึงถูกปลดจากสายการผลิต พร้อมกันกับรถคูเปซึ่งเริ่มการผลิต และจำหน่ายเมื่อปี 2007

ครึ่งทศวรรษหลังจากนั้น เจ้าของโลโก “ตรีศูล” ก็บรรจุรถเปิดประทุนอนุกรมนี้เข้าสู่สายการผลิตอีกครั้งหนึ่ง และนำรถรุ่นที่ 2 ออกอวดตัวเป็นครั้งแรก ในวันพิเศษของปีมังกรไฟ คือ วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 ในการเปิดตัวที่ว่านี้ มีรถโมเดลเดียว คือ MASERATI GRANCABRIO TROFEO (มาเซราตี กรันกาบริโอ ตโรเฟโอ) ซึ่งมีขนาดตัวถังยาว 4.966 ม. กว้าง 1.957 ม. และสูง1.365 ม. ติดตั้งเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซิน วี 6 สูบ 90 องศา 2,992 ซีซี 399 กิโลวัตต์/542 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า และคู่หลัง ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 316 กม./ชม.

ส่วน MASERATI GRANCABRIO FOLGORE (มาเซราตี กรันกาบริโอ โฟลโกเร) ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถโมเดลใหม่ เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางเดือนเมษายน 2024 พร้อมคำประกาศว่า นี่คือรถเปิดประทุนระดับหรูแบบแรกในยุโรปที่เป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ และเป็นรถเปิดประทุนพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในขณะนี้ 

Dimension มิติตัวถัง

MASERATI GRANCABRIO FOLGORE

-ยาว  4,966 มิลลิเมตร
-กว้าง  1,957 มิลลิเมตร
-สูง  1,365 มิลลิเมตร
-ระยะฐานล้อ wheelbase  2,929 มิลลิเมตร
-การกระจายน้ำหนัก weight distribution อัตราส่วน 50 : 50
-ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ขนา 114 – 151 ลิตร (เมื่อปิดหลังคา)
-น้ำหนักตัวรถ  2,340 kg.

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว พละกำลัง 408 แรงม้า วางด้านหน้า 1 ตัว และ วางด้านหลัง 2 ตัว รวมพละกำลังสูงสุด 761 แรงม้า และ 830 แรงม้า MaxBoost แรงบิดสูงสุด 1,350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion 800V Technology ขนาดความจุ 92.5 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD พร้อมระบบ Torque Vectoring

Charging การชาร์จไฟฟ้า

รองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo

- กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 22 kW
- กระแสตรง DC Fast Charging รองรับสูงสุด 270 kW
- ชาร์จ DC จาก 20-80% ภายในเวลา 18 นาที
- ชาร์จ DC 5 นาที วิ่งได้ระยะทาง 100 km. (WLTP)

ห้องโดยสารนั่งสบายของ Maserati GranCabrio มาเซราติ กรันคาบริโอ สำหรับผู้โดยสาร 4 คน และ มีตัวเลือกพิเศษ คือ แผ่นบังลมเหมาะสำหรับการใช้งานเมื่อมีผู้โดยสาร 2 คน และ สามารถพับเก็บได้ ช่วยลดกระแสลมแปรปรวนในห้องโดยสาร ห้องโดยสารมาพร้อมด้วยระบบ Multimedia Maserati Intelligent Assistant (MIA), Infotainment ใหม่ล่าสุด หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชั่น Touchscreen, นาฬิกา Digital และ Head-up Display

รวมไปถึง ” All-Round Sound Experience ” ที่มาจากการพัฒนาของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab ด้วยระบบเครื่องเสียง Sonus Faber 3D ที่พัฒนาและออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญชาวอิตาเลียน 13 ลำโพง กำลังขับ 815 watts เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และ ชุดลำโพง 16 ตำแหน่ง กำลังขับ 1,060 Watts เป็น Optional ให้เลือกเพิ่มได้

โครงสร้างตัวถัง Platform ใหม่ ที่ใช้วัสดุที่เบาที่สุด เช่น การใช้ Aluminium หรือ Magnesium ร่วมกับโลหะเกรดสูง ทำงานร่วมกับระบบ Electronics ” Atlantis High ” ภายใต้มาตรฐาน canFD ที่มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วสุดถึง 0.002 วินาที มาพร้อมระบบ Cyber-Security ระดับ 5 และ flash-over-the-air และศูนย์กลางในการควบคุมระบบ Vehicle Domain Control Module (VDCM)

Maserati GranTurismo ผ่านการพัฒนาจาก Maserati Innovation Lab และ ผลิตที่โรงงาน Mirafiori, Turin ประเทศอิตาลี Italy

Maserati GranCabrio Folgore รถไฟฟ้า100% (มาเซราติ กรันคาบริโอ โฟลกอเร)

ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU อิตาลี)

- GranCabrio Folgore รถไฟฟ้า100% เริ่มต้น  14,900,000 บาท

มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ ดังนี้

-รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
-รับประกันแบตเตอรี่ High Voltage นาน 8 ปี หรือ 160,000 km.

Maserati GranTurismo เปิดรับจองอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ พร้อมเผยโฉมต่อสาธารณชนที่งาน Motor Show 2025 ครั้งที่ 46 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 ที่ Challenger Hall 1-4 เมืองทองธานี