
Jetour Freedom เอสยูวีสายลุยขุมพลังเบนซิน 1.5T และ 2.0T ราคาเริ่มต้นเพียง 129,900 หยวน หรือประมาณ 600,000 บาท
สำหรับ Jetour Freedom นั้นรถยนต์ในรูปแบบเอสยูวีที่มากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินที่มีให้เลือกทั้งขนาด 1.5T และ 2.0T โดยทางบริษัMวางตำแหน่งทางการตลาดให้อยู่ต่ำดว่า Jetour Traveller และ Jetour Shanhai T1 ที่เป็นเอสยูวีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ที่ถูกเปิดตัวไปก่อนหน้านี้
ในด้านงานออกแบบดีไซน์ของ Jetour Freedom เอสยูวี ICE ล้วนคันนี้ จะเหมือนกับ Jetour T1 เวอร์ชัน PHEV
ดีไซน์ตัวรถจะมาในรูปทรงกล่องแบบเหลี่ยม ที่เน้นในไตล์ที่ดูบึกบึนแข็งแกร่ง ด้านหน้าจะมากับชุดไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยม ด้านในจะเป็นไฟ DRL LED ที่วางเป็นมุม 4 ด้านล้อมไฟส่องสว่างที่อยู่ด้านใน โดยจะวางขนาบข้างกระจังหน้าสีดำทรงสีเหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่ด้านในตีตราชื่อแบรนด์ J E T O U R ไว้ตรงกลาง นอกจากนั้นยังมากับกันชนหน้าทรงเหลี่ยมสีดำขนาดใหญ่
เส้นสายด้านข้างนั้นมาในสไตล์ทรงออฟโรดสายลุย ตกแต่งด้วยแถบสีดำที่ชายล้างรอบรอบรถ มาพร้อมขอบซุ้มล้อขนาดใหญ่ มาพร้อมล้ออัลลอยที่มีให้ 2 ขนาด ได้แก่ 18 และ 19 นิ้ว ที่รัดด้วยยางขนาด 235/60 R18 หรือ 235/60 R19 มือเปิดประตูเป็นแบบปกติสีเดียวกับตัวรถ อีกทั้งยังเสริมให้ตัวรถนั้นดูโปร่งสูงขึ้นด้วการตกแต่งเฉดสีดำที่เสา A-B- C ทำให้ในส่วนของหลังคามาเป็นแบบลอยตัว นอกจากนั้นตัวรถยังได้รับการติดตั้งแร็กบนหลังคาเพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับรถ
ส่วนด้านหลังเสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคามาร้อมไฟเบกในตัว รวมทั้งทั้งยังมากับเสาอากาศแบบครับฉลาม ขณะที่ชุดไฟท้ายชุดไฟท้ายทรง 4 เหลี่ยม ซึ่งจะมีดีไซน์ที่หมือนกับด้านหน้าของตัวรถ พร้อมติดชื่อแบรนดืเหมือนกับด้านหน้า
ด้านขนาดมิติตัวรถของ Jetour Freedom ความยาว 4,706 มม. กว้าง 1,967 มม. สูง 1,845 มม. และระยะฐานล้อ 2,810 มม. โดยมีระยะห่างจากพื้นที่ 200 มม. ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5T ส่วนในในรุ่น 2.0 จะมีระยะห่างจากพื้นที่ 190 มม. มาพร้อมมุมเข้าที่ 28° ส่วนมุมออกจะอยู๋ที่ 29°
ภายในห้องโดยสารของ Jetour Freedom จะมีให้เลือก 2 เฉดสีได้แก่ สีดำ/เขียว และสีดำ/ส้ม ในส่วนแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 10.25 นิ้ว วางอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง 4 ก้าน แบบหัวตัดท้ายตัดขนาดใหญ่ มาพร้อมหน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาดที่มีขนาด 12.8 นิ้ว ในรุ่ยเริ่มต้น ส่วนในรุ่นท็อปจะมีขนาด 15.6 นิ้ว ที่วางแบบลอยตัว พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdagon 8155คอนโซลกลางจะได้รับการติตดั้งคันเกียร์ที่ขนาดใหญ่ พร้อมกับได้รับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายที่ให้กำลังชาร์จอยู่ที่ 50W
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับเครื่องเสียงพร้อมลำโพง HiFi 8-9 ตัว, ระบบควบคุมด้วยเสียง ผู้ช่วย AI, จุดเชื่อมต่อ WiFi ในรถ, ชุดไฟ Ambient Light 64 สี, รีโมตคอนโทรลโทรศัพท์มือถือ, กุญแจ Bluetooth และซันรูฟแบบพาโนรามิกขนาด 64 นิ้ว ที่ป้องกันรังสี UV อยู่ที่ 99%
นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังมีพื้นที่เก็บของถึง 45 ช่อง ด้านเบาะที่นั่งทางผู้ผลิตเผยว่าตัวเบาะนั่งจะเป็นแบบ “Shuyun” Jetour Freedom จะมากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 รวมถึงจะได้รับการตรวจสอบจุดบอด , ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และระบบจดจำป้ายจราจร
พละกำลังขับเคลื่อนจะมากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน ที่มีให้เลือก 2 ขนาดความแรง
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ที่ให้กำลังสูงสุด 135 kW (181 แรงม้า) มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 290 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7DCT
- เครื่องยนต์ 2.0T ที่ให้กำลังสูงสุด 187 kW (251 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 390 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8AT ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กม./ชม. ความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 70 ลิตร
นอกจากนี้ยังมีรุ่น AWD ซึ่งติดตั้งระบบ AWD รุ่นที่ 6 ของ BorgWarner ที่มาพร้อมโหมดการขับขี่ “7+X” โหมด X สามารถระบุสภาพถนนได้อย่างชาญฉลาด และเปิดใช้งานการกระจายแรงบิดอัตโนมัติสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
Jetour Freedom ที่วางจำหน่ายในจีนจะมีเฉดสีตัวรถให้เลือก 6 สีได้แก่ สีน้ำเงิน Bromo Blue, สีขาว Glacier White, สีเขียว Green mountains, สีกากี Luang Sha Jin, สีดำ Polar Night Black และ สีบรอนซ์เงิน Snow Mountain Silver
สำหรับ Jetour Freedom จะมีให้เลือก 4 รุ่นเปิดราคาจำหน่าายไว้ดังนี้
- 1.5TD Exploration ราคา 129,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6 แสนบาท
- 1.5TD Discovery ราคา 139,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.47 แสนบาท
- 2.0TD Crossing ราคา 149,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 6.93 แสนบาท
- 2.0TD XWD Conquer ราคา 159,900 หยวน คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.39 แสนบาท