Audi RS 3 Sportback 2025 ตัวแรง 400 แรงม้า ถ่ายทอดสมรรถนะความแรงจากสนามแข่งสู่ท้องถนน

Audi RS 3 Sportback โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอก ในสไตล์คอมแพ็กต์คาร์ แบบ Hatchback 5 ประตู เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy Black พร้อมตกแต่ง Audi Ring ปลุก DNA ความเป็น Audi Sport ส่วนชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black เสริมความมีสไตล์ด้วย Audi Lettering ที่เสา B ไฟหน้าใหม่ Matrix LED และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเอฟเฟ็กต์ไฟ Light Staging หน้า-หลัง ไฟหน้าที่ส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED มีเอฟเฟ็กต์ RS 3 Signature ลายธงตารางหมากรุกที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีองค์ประกอบไฟถึง 24 ดวง สามารถเปลี่ยนการแสดงผลได้ทั้งหมด 4 แบบ ล้อลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว คาลิปเปอร์เบรกสีแดงปั๊มลาย RS ยิ่งทำให้รถดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

เข้ามาภายในห้องโดยสาร ออกแบบใหม่สไตล์ Vanadium Look ตกแต่งสีดำลาย Carbon Atlas Structure เสริมด้วยไฟเรืองแสงลาย Rhombus ที่ติดอยู่กับประตูด้านหน้าฝั่งคนนั่งและฝั่งคนขับ เบาะหุ้มหนัง Dinamica/Artificial ลาย Diamond Cut สีดำ เบาะคู่หน้า มีระบบทำความร้อน พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ทรงตัดทั้งด้านบนและด้านล่าง หุ้มด้วยหนังเจาะรูเพื่อความกระชับ ชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม SONOS พร้อมระบบเสียง 3 มิติ

Audi เพิ่มไฮไลต์พิเศษกับลาย Diamond RS lettering และตรา Audi ในดีไซน์ Vanadium Look มาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ซ้าย-ขวา และปุ่มควบคุม 2 จุด สำหรับเลือกโหมด Audi Drive Select หรือโหมดเฉพาะของ RS

ขุมพลังจากสนามแข่ง Audi RS 3 Sportback 2025

RS 3 Sportback ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ แถวเรียงพร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรงเทอร์โบชาร์จ พละกำลัง 400 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ที่สามารถปรับเปลี่ยนกำลังได้อย่างชาญฉลาด

ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า หรือปรับเปลี่ยนเป็นขับเคลื่อนสี่ล้อตามสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม มอบทั้งความสปอร์ต ความปลอดภัย และความประหยัดในเวลาเดียวกัน พร้อมช่วงล่างแบบ RS Sport และท่อไอเสีย RS Sport อันเป็นเอกลักษณ์ที่ส่งเสียงดังกระหึ่มสุดเร้าใจ สามารถเปิด-ปิดได้เพื่อให้เสียงท่อเงียบลงในเขตชุมชนหรือเปิดให้เสียงดังขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่

ช่วงล่างแบบ RS Sport และท่อไอเสีย RS Sport เสียงดังกระหึ่ม สามารถเปิด-ปิดได้เพื่อให้เสียงท่อเงียบลงในเขตชุมชนหรือเปิดให้เสียงดังขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่ ยังมาพร้อม RS Torque Splitter หนึ่งเดียวเฉพาะ RS 3 Sportback เท่านั้น ออกแบบมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ โดยทำหน้าที่กระจายแรงบิดไปยังล้อหลังแต่ละข้างอย่างอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความเสถียรของรถ

Audi RS 3 Sportback 2025 ราคาเท่าไร
- ราคาเริ่มต้น 5,699,000 บาท
- ราคาพร้อมสีพิเศษ Ascari blue, metallic 5,799,000 บาท
- ราคาพร้อมแพ็คเกจชุดตกแต่งคาร์บอน 6,199,000 บาท
- ราคาพร้อมสีพิเศษและแพ็คเกจชุดตกแต่งคาร์บอน 6,299,000 บาท

Audi RS 3 Sportback 2025 มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ

- Mythos black, metallic
- Progressive red metallic
- Kyalami green solid
- Python yellow, metallic
- Ascari blue, metallic

(สีพิเศษเพิ่มเติมจากราคามาตรฐาน 100,000 บาท ซึ่งราคาข้างต้นได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถปรับแต่งเสริมความสปอร์ตแบบจัดเต็มกับแพ็กเกจชุดตกแต่งลายคาร์บอนที่มาพร้อมกับสี Matt Black รอบคัน