
NEW MG IM6 เอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า จ่อเปิดตัวในไทยมีนาคม นี้
NEW MG IM6 พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้รถที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทย ยังวางแผนตั้งเป้ายกระดับแบรนด์ ทั้งผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขาย โดยตั้งเป้าขึ้นติดท็อป 3 ภายในทศวรรษที่ 2 นี้ให้ได้
MG ได้กำหนดทิศทาง และกลยุทธ์การตลาดที่มีผลิตภัณฑ์ยานยนต์คุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ครบทุกเซกเมนต์ ทั้งเครื่องยนต์สันดาป ไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้า
ซึ่งสำหรับในปี 2025 นี้ ก็ได้เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่ต่ำกว่า 2 รุ่น โดยเตรียมเปิดตัวภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 โดยรถ 2 รุ่นดังกล่าว นั้นคาดว่าจะเป็น MG S5 หรืออีกชื่อก็คือ MG ES5 เอสยูวีไฟฟ้าที่เปิดตัวไปแล้วในจีน
NEW MG IM6 ขุมพลังการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ
- มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 787 แรงม้า (579 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.48 วินาที ทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- แบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 800 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- รัศมีวงเลี้ยว 5 เมตร
- ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four-Wheel Steering System) ทำให้การเปลี่ยนเลน มีเสถียรภาพแม้ในช่วงความเร็วสูง รวมถึงทำให้การกลับรถในที่แคบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- ระบบช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ (Intelligent Air Suspension) สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ
ดีไซน์ภายนอก
- NEW MG IM6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าสุดหรูทรงท้ายลาด เป็นการออกแบบดีไซน์ร่วมกันกับนักออกแบบ จาก University of Art London
- มิติตัวถัง 4,904 x 1,988 x 1,669 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
- ระยะความยาวฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร ซึ่งมีขนาดเทียบเท่ากับรถ e-MPV ของ เอ็มจี
- ล้ออัลลอย ขนาด 21 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารจะมาพร้อมกับงานออกแบบที่ล้ำสมัย โดยจะไม่มีปุ่มสั่งงานใด ๆ ทั้งบนแผงตอนโซลหน้า และคอนโซลกลาง ในส่วนของแผงแดชบอร์ดจะได้รับการติดตั้งจอขนาดใหญ่ ที่รวมทั้งหน้าจอกลางแบบสัมผัส และแผงหน้าปัดเข้าไว้รวมกัน โดยมีขนาดยาวถึง 26.3 นิ้ว โดยจะถูกวางแบบลอยตัว มาพร้อมการประมวลผลรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 เวอร์ชันใหม่ และระบบปฏิบัติการ IM OS2.0 ที่ IM Motors พัฒนาขึ้นเอง ด้านพวงมาลัยจะเป็นแบบมัลติฟังก์ชันทรงกลม โดยในส่งนปุ่มควบคุมจะเป็นแบบลูกกลิ้ง ด้านคอนโซลกลางออกแบบให้เชื่อมต่อกับคอนโซลหล้าที่รูปแบบสะพาน โดยด้านบนจะได้รับการติดตั้งหน้าจอแนวตั้งขนาด 15.5 นิ้ว ที่จะทำหน้าที่ควบคุมและสั่งงานระบบแอร์ และระบบต่างๆ ภายในตัวรถ รวมทั้งยังมาพร้อมกับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนที่ให้กำลังชาร์ต 50W ถูกออกแบบให้วางในแบบแนวตั้งแบบเอียง โดยด้านข้างจะมีช่องวางแก้วน้ำขนาดใหญ่ให้อีก 2 ช่อง ส่วนด้านล่างของคอนโซลกลางจะมีช่องวางไว้สำหรับวางของ หรือกระเป๋าสะพายขนาดเล็ก ขณะที่คันเกียร์จะอยู่ที่คอพวงมาลัย ด้านเบาะที่นั่งของจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง ออกแบบการตัดเย็บให้เป็นแบบลวดลายเมฆ POPO ที่เพิ่มความสบายยิ่งขึ้น เพิ่มความหรูหราตามแบบฉบับรถจีนด้วยหลังคากระจกพาโนรามิก มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาะระความจุท้ายรถอยู่ที่ 665 ลิตร และจะขยายพื้นที่มากถึง 1,640 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของที่ด้านท้ายโดยมีความจุอยู่ที่ 32 ลิตร ไว้สำหรับจัดเก็บรองเท้า หรืออุปกรณ์กีฬาที่มีขนาดไม่ใหญ่โต ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะมากับช่องเสียบชาร์จ USB-C, ชุดไฟ Ambient Light ปรับได้ถึง 256 สี, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลําโพง 20 ตำแหน่ง, ประตูท้ายแบบไฟฟ้า และหลังคากระจกพาโนรามิก
เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
- ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ที่ผสานการทำงานของกล้องรอบคัน การปรับค่าช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ ช่วยลดปัญหาทัศนวิสัยในการมองเห็นระหว่างการขับขี่ ใช้ง่าย ชาร์จไว ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบาย
- ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 18 นาที* ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์
ในด้านราคาจำหน่ายนั้นคงไม่หนีราคาที่เปิดตัวในจีนเท่าไหร่ ลุ้นราคาอยู่ที่ 1 ล้าน ต้น ๆ ส่วนจะอยู่ที่เท่าไหร่ รวมทั้งสเปคจะแตกต่างจากที่เปิดเผปยออกมาคีั้งแนกมากน้อยขนาดไหน ปลายมีนาคม นี้ได้ทราบกันอย่างแน่นอน