JAECOO 7 PHEV เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย
สำหรับ JAECOO 7 PHEV (เจคู 7 พีเอชอีวี) นั้นเป็นรถเอสยูวี ที่มาในรูปแบบปลี๊กอินไฮบริด ที่อยู่ในเครือของทาง CHERY โดยล่าสุดได้เปิดตัววางจำหน่ายไปแล้วในย่านอาเซียนอย่างในมาเลเซียเพื่อนบ้านเราเมื่อต้นปี 2024 นี้ ที่ผ่านมา
JAECOO 7 PHEV
OMODA & JAECOO (อ่านว่า โอโมด้า แอนด์ เจคู่) ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลก ได้เผยโฉมรถรุ่น JAECOO 7 PHEV เป็นครั้งแรก โดยมาพร้อมเทคโนโลยี SHS (Super Hybrid System) ที่จะมอบประสบการณ์ของการขับขี่ที่เหนือความคาดหมายด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยและกว้างไกลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน JAECOO 7 PHEV พร้อมนำผู้บริโภคเข้าสู่ยุคใหม่ของยนตรกรรมที่ให้พละกำลังเหลือล้น พร้อมด้วยประสิทธิภาพอันสูงล้ำ การประหยัดพลังงานที่ดีเยี่ยมและการเชื่อมต่ออัจฉริยะ
SHS (Super Hybrid System) คือเทคโนโลยีไฮบริดแห่งอนาคตที่ OMODA & JAECOO ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ของ Chery Automobile เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาดยานยนต์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงผสานความสะดวกของการใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ากับประสบการณ์การขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเชิงความร้อน (Thermal Efficiency) ที่ดีเยี่ยม ระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกล การปล่อยคาร์บอนเพียงน้อยนิด และระบบแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูงเป็นพิเศษอย่างที่แบรนด์อื่นๆ ไม่มี นี่คือโซลูชั่นเทคโนโลยีไฮบริดที่ผสานประสิทธิภาพสูง การประหยัดพลังงาน การปกป้องสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกัน
ด้านมิติขนาดตัวรถมีความยาว 4,500 มม. ความกว้าง 1,856 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,672 มม. มีระยะห่างจากพื้น 200 มม. โดยตัวรถสามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 605 มม. รวมถึงยังมีมุมเข้า 21 องศา และมุมออก 29 องศา เพื่อให้สามารถลุยในเส้นทางออฟโรดได้อย่างสบาย ด้านข้างตัวรถ มากับเส้นสายที่เรียบง่าย ซุ้มล้อตกแต่งด้วยแถบสีดำ ตามแบบฉบับรถออฟโรดสายลุย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ส่วนมือเปิดประตูถูกออกแบบให้ราบเรียบไปกับตัวรถ เหมือนรถหรูราคาแพง นอกจากนั้นยังตกแต่งที่เสา A และ C ด้วยแถบสีดำ ทำให้ตัวรถมีหลังคาแบบลอยตัว หรือแบบ Floating ด้านท้ายงานออกแบบก็จะเน้นในรูปท่รงเหลี่ยมทั้งหมดเริ่มจากชุดไฟท้ายที่เป็นแถบสีเหลี่ยมที่วางพาดยาวเต็มพื้นที่ส่วนท้าย ตรงกลางติดป้ายชื่อแบรนด์ J A E C O O เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาสีดำ มาพร้อมกันชนท้ายขนาดใหญ่สีดำ เติทภาพลักษณ์รถสายลุยด้วยการ์ดกะันกระแทกด้านหลังวสีเงิน พร้อมกับติดตั้งปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงสี่เหลี่ยม มิติขนาดตัวรถมีความยาว 4,500 มม. ความกว้าง 1,856 มม. ความสูง 1,680 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,672 มม. มีระยะห่างจากพื้น 200 มม. โดยตัวรถสามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 605 มม. รวมถึงยังมีมุมเข้า 21 องศา และมุมออก 29 องศา เพื่อให้สามารถลุยในเส้นทางออฟโรดได้อย่างสบาย
ภายในห้องโดยสารเน้นการออกแบบพรีเมียม แผงแดชบอร์ดติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงสามก้าน วางอยู่ด้านหน้าจอแบบ LCD ที่วางแบบลอยตัวขนาด 10.25 นิ้ว ขณะที่หน้าจออินโฟรเทนเมนต์จะมาในแบบสัมผัสมีขนาด 14.8 นิ้ว รวมทั้งยังได้รับหน้าจอ W-HUD ที่สะท้อนไปยังกระจกบังลมหน้า พร้อมกับติดตั้งชิป Qualcomm Snapdragon 8155 คอนโซลกลางจะถูกเชื่อมต่อกับแผงคอนโซลหน้าโดยออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มาพร้อมคันเกียร์ไฟฟ้าดีไซน์สุดเท่ห์, แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สายที่ชาร์จได้พร้อมกัน 2 เครื่อง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาที่มีขนาด 1.1 ตร.ม.เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังระดับพรีเมี่ยม เบาะนั่งฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ขณะเบาะนั่งแถวที่ 2 พับแบบ 40:60
3 ส่วนประกอบหลัก ผสานการทำงานสู่สุดยอดแห่งสมรรถนะ
ระบบไฮบริด SHS (Super Hybrid System) มีส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System) และแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ส่วนประกอบหลักทั้ง 3 ถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ดังนั้นจะทำงานประสานกันได้อย่างราบรื่นเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีล้ำและประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีเลิศ
เครื่องยนต์หลัก 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ได้ผสานเทคโนโลยีหลักสุดล้ำหน้าเอาไว้ 6 เทคโนโลยีด้วยกัน ส่งผลให้ JAECOO 7 PHEV มีสมรรถนะที่โดดเด่นด้วยค่าประสิทธิภาพเชิงความร้อนที่สูง และอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงน้อย จึงได้ทั้งการประหยัดพลังงานและได้ทั้งความแรงจากการ “ใช้น้อยกว่าและทำได้มากกว่า” เพราะเครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 นี้ สามารถปรับเปลี่ยนปริมาณการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับสถานะการขับขี่ของรถยนต์ได้อย่างยืดหยุ่นในแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ “การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อจำเป็น” (Fuel Supply On Demand) เกิดขึ้นได้จริง และเป็นหลักประกันว่าน้ำมันเชื้อเพลิงทุกหยดจะถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่ามากที่สุด
เครื่องยนต์รุ่นนี้สามารถระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็วภายใต้สภาวะการทำงานหนัก ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์เครื่องยนต์สมรรถนะตกหรือทำงานผิดปกติที่เกิดจากความร้อนสูงเกินไป ทำให้ไม่ต้องออกแรงมากขณะเร่งความเร็วและเร่งแซง ด้วยเหตุนี้ J7 PHEV จึงสามารถผสานกำลังและการประหยัดพลังงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับแนวคิดใหม่ของการ “ประหยัดพลังงานโดยไม่ลดทอนพละกำลัง ประสิทธิภาพสูงพร้อมด้วยความสนุกสนานที่มากขึ้น”
ระบบซูเปอร์อิเล็กทริกไฮบริด DHT (Super Electric Hybrid DHT System) ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ช่วยให้ JAECOO 7 PHEV ทำงานได้อย่างนุ่มนวลไร้รอยต่อ พร้อมมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือชั้นด้วยพละกำลังอันทรงพลัง ช่วยให้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 120 กม./ ชม. หากมีแบตเตอรี่มากกว่า 25% คุณลักษณะเช่นนี้ทำให้ JAECOO 7 PHEV สามารถรักษากำลังขับที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้ และขณะเดียวกันก็ประหยัดพลังงานและลดการใช้เชื้อเพลิงลง ทำให้การใช้พลังงานต่ำและกำลังอันทรงพลังอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความสะดวกสบายในการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าชุดแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงสำหรับรถยนต์ไฮบริดนี้ ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ของ JAECOO 7 PHEV ด้วยระบบป้องกันแบตเตอรี่รอบด้าน ทำให้มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม ทั้งในด้านการทนทานต่อความร้อน ทนต่อแรงกระแทก และกันน้ำ ช่วยให้รถทำงานได้เสถียรภายใต้สภาวะที่รุนแรง รวมถึงความสามารถในการควบคุมความปลอดภัยทางไฟฟ้าที่สูงเป็นพิเศษยังโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะฟังก์ชันการป้องกันการปิดเครื่องภายใน 0.002 วินาทีหลังเกิดการชน ทำให้สามารถตัดแหล่งจ่ายไฟได้อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่อุณหภูมิสูงเกินไป และมีระบบรักษาความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีความหนาแน่นของพลังงานสูง สามารถมอบระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะไกลถึง 106 กม. (NEDC) ในกรณีพิเศษยังสามารถกลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่กลางแจ้ง เปลี่ยนรถให้กลายเป็นสถานีจ่ายไฟฟ้าที่ปลอดภัยได้ในกรณีฉุกเฉิน ด้วยความสามารถในการปล่อยประจุไฟฟ้าภายนอกได้ 3.3 กิโลวัตต์
ระบบ SHS (Super Hybrid System) มอบเสน่ห์ของการขับขี่แบบคู่ที่ไม่เหมือนใครให้กับ JAECOO 7 PHEV ให้ผู้ใช้รู้สึกราวกับว่าพวกเขามีทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริดในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ผสานประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้มลพิษ เสียงรบกวนต่ำ และการเร่งระดับความเร็วได้อย่างนุ่มนวลของรถไฟฟ้าล้วนเท่านั้น แต่ยังคงไว้ซึ่งระยะการขับขี่ที่ยาวไกล อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ไร้กังวล และความสะดวกสบายในการเติมเชื้อเพลิงทันทีของรถยนต์ไฮบริด การซื้อ JAECOO 7 PHEV นั้นเทียบเท่ากับการเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าล้วนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการเดินทางด้วยรถยนต์ไฮบริดที่ยืดหยุ่นและไร้กังวลในเวลาเดียวกัน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองระยะสั้นที่พร้อมเพลิดเพลินไปกับความเงียบและการประหยัดพลังงานของการขับขี่ด้วยรถยนต์ไฟฟ้าล้วน หรือมองในข้อดีของด้านระยะทางในการขับขี่ที่ยาวไกลเป็นพิเศษและกำลังอันทรงพลังที่มาจากระบบไฮบริดสำหรับการเดินทางไกล JAECOO 7 PHEV สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างสบายและไร้กังวล นับเป็นการเปิดเส้นทางแห่งการขับขี่ที่ให้ทั้งอิสระและความสนุกเพลิดเพลินแก่ผู้ใช้ได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สำหรับ JAECOO 7 PHEV นั้นจะได้รับการเปิดตัววางจำหน่ายในตลาดเมืองไทยชข่วงปี 2568