NETA S Shooting Brake รถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำสมัย
สำหรับ NETA S Shooting Brake เป็นรถรุ่นใหม่ของทางแบรนด์เนต้า ที่วางตลาดเมื่อกลางปี 2024 ที่ผ่านมาในประเทศจีน โดยในเวอร์ชันที่วางจำหน่ายในบ้านเกิด จะมีให้เลือกทั้งในรูปแบบ EREV ซึ่งจะเรียกชื่อรุ่นว่า NETA S Hunting Edition และเวอร์ชันไฟฟ้า 100% จะถูกใช้ชื่อทางการตลาดว่า NETA S Shooting Brake
โดยรุ่นที่จะนำเข้ามาในไทยโชว์โฉมครั้งแรกที่ในงาน Motor Expo 2024 นี้จะเป็นแบบ BEV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน
ด้านงานดีไซน์ของ NETA S Shooting Brake ตัวรถถูกถอดแบบมาจาก NETA S ที่เป็นเวอร์ชันซีดานคูเป้ไฟฟ้า ที่เน้นงานออกแบบที่ดูสปอร์ต กระจังหน้ามาแบบปิดทึบตามแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ชุดไฟหน้าแบบแยก 2 ชั้น ด้านบนเป็นไฟ DRL LED ส่วนชุดด้านล่างเป็นไฟส่องสว่าง มาพร้อมโลโก้ NETA ที่อยู่ตรงกลาง ขณะที่ชายล่างจะมีทั้งแบบสีเดียวกับตัวรถ และแบบตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมียม
เส้นสายด้านข้างเน้นความสปอร์ต มือจับประตูแบบซ่อน ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว มาพร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบ 4 พ๊อต มีให้เลือกทั้งสีเทา เขียว หรือแดง ด้านท้ายมากับชุดไฟท้าย LED ที่พาดยาวเต็มพื้นที่
NETA S Shooting Brake ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Shanhai Platform 2.0 ใหม่ของเนต้า ตัวรถจะมีความยาว 4,980 มม. ความกว้าง 1,980 มม. ความสูง 1,480 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,980 มม.
ห้องโดยสารจะออกแบบเน้นความกว้างขวาง โดยด้านท้ายจะมีพื้นที่เก็บของได้มากถึง 593 ลิตร สามารถขยายเพิ่มเป็น 1,295 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง โดยตัวเบาะหลังนั้นจะสามารถพับได้แบบราบเรียบ จนทำหให้กลายเป็นที่นอนขนาดใหญ่ ห้องโดยสารคาดว่าจะมาพร้อมกับตู้เก็บความเย็นขนาด 6.5 ลิตร เพื่อสำหรับใช้ในการเดินทาง หน้าจออินโฟนเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 17.6 นิ้ว ที่มาในแนวตั้ง มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล และหน้าจอ HUD ที่สะท้อนภาพขี้นไปยังกระจกหน้า รวมถึงยังมีหน้าจอฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว รวมทั้งเบาะนั่งด้านหน้าคาดจะมากับระบบทำความร้อน ระบายอากาศ และฟังก์ชันนวดในตัว เบาะที่นั่งรองรับได้ 5 นั่ง เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบทำความร้อน / ระบบระบายอากาศ และระบบหน่วยความจำ ด้านชุดอุปกรณ์จะมากับชุดไฟ Ambient Light, หลังคากระจกขนาดใหญ่, แหล่งจ่ายไฟ 220V, ตะขอแขวนที่ประตูท้าย
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทำงานร่วมกับ LiDAR แบบ 128-Line พร้อมเซนเซอร์ 31 ตำแหน่ง และชิพแบบ Nvidia Orin-X สามารถประมวลผลเส้นทางการขับขี่รถอัตโนมัติ
ด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะขอพูดถึงเพียงเวอรชันไฟฟ้า โดยอิงสเปคจากที่เปิดวางจำหน่ายในจีน โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว จะให้กำลัง 200 kW หรือประมาณ 268 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ LFP ขนาด 64.84 kWh ชาร์จไฟวิ่งไกล 510 กม. (CLTC) รองรับการชาร์จ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10-80% ภายใน 21 นาที
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD โดยมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให่กำลัง 170 kW หรือ 228 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าหลังจะให้กำลัง 200 kW หรือประมาณ 268 แรงม้า ให้กำลังรวม 503 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร โดยตัวรถจะทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 185 กม./ชม. มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ NMC ขนาด 91 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งให้ระยะทางวิ่งไกล 640 กม. (CLTC) พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ที่ให้กำลังไฟจาก 10-80% ภายใน 42 นาที
ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ ส่วนด้านหลังมาในแบบห้าลิงค์
มร. ชู กังจื้อ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “ เนต้า ออโต้ มีแนวนโยบายที่จะ “สรรสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า...เพื่อทุกคน (Tech for all)” โดยมีแนวทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จะใช้กลยุทธ์ "All in Thailand, All for Thailand" มุ่งยกระดับให้คนไทยรู้จัก เนต้า ออโต้ ในฐานะผู้นำรถยนต์ไฟฟ้านวัตกรรมใหม่ โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ติดตั้งเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปีนี้ เนต้า ออโต้ ได้เข้าร่วมงาน มหกรรมยานยนต์ (Thailand International Motor Expo) 2024 เพื่อแนะนำเทคโนโลยี EREV นวัตกรรมสุดล้ำของรถยนต์ไฟฟ้า มีคุณสมบัติให้ความยืดหยุ่นต่อการสันดาปภายในเครื่องยนต์ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ในการผลิตไฟฟ้าและชาร์จแบตเตอรี่ ส่งให้การขับในโหมดไฟฟ้าได้เต็มรูปแบบ ชาร์จไฟได้เร็วขึ้น ในระยะทางที่ยาวขึ้นกว่า 1,300 กิโลเมตร อีกทั้ง ยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”
Super Extended Range Electric Vehicle หรือ EREV เป็นรถยนต์พลังงานแห่งอนาคต ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและมีเครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟ เพื่อเพิ่มระยะการขับขี่ให้มากกว่า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนไปใช้รถพลังงานไฟฟ้า 100% เต็มตัว รถเทคโนโลยี EREV สามารถขับขี่แบบรถ EV และเติมน้ำมันเพื่อความอุ่นใจในทุกเส้นทาง โดย Super EREV ของ NETA มีความพิเศษในการผลิตกระแสไฟและจ่ายตรงไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อนตัวรถ โดยไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ กรณีที่แบตเตอรี่เกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหาย เทคโนโลยี Super EREV ช่วยทำให้เพิ่มระยะทางวิ่ง อาจทำได้มากกว่า 1,200 กิโลเมตร ด้วยการเติมน้ำมันและชาร์จไฟ 1 ครั้ง องค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยี Super EREV มี 3 องค์ประกอบ คือ
1. แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ขนาดบรรจุ 43 kwh ทำให้ระยะทางการขับเคลื่อนแบบรถพลังงานไฟฟ้า 100% หรือ BEV อยู่ที่มากกว่า 300 กิโลเมตร เหมาะกับการเดินทางระยะไกล แม้ไม่มีสถานีชาร์จไฟตามเส้นทาง
2. Super EREV สามารถให้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ผลิตกระแสไฟจ่ายตรงไปยังมอเตอร์ โดยไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ ในกรณีที่แบตเตอรี่เกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหาย ยังสามารถนำพาตัวเองและตัวรถออกจากพื้นที่อันตราย เข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยได้
3. Intelligent Navigation mode ระบบประเมินเส้นทาง โดยระบบจะแนะนำการใช้พลังงานที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงสุด
“เทคโนโลยี Super EREV จัดได้ว่าเป็น นวัตกรรมที่เหนือระดับ และเป็นเอกลักษณ์ของ เนต้า ออโต้ โดยได้นำมาจัดแสดง ผ่านรถยนต์รุ่น “NETA S Shooting Brake” รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Wagon มั่นใจว่าตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด "New Energy, Super Intelligent, More FUN" และ อีกหนึ่ง ไฮไลท์ ที่เป็นความภูมิใจ ก็คือ รถยนต์รุ่น NETA X ที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ SUV ได้รับรางวัล“รถยนต์ไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยความคุ้มค่า” ประจำปี 2024” (Most Valuable Electric Car) จากสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) และในเดือน ตุลาคม 2024 ที่ผ่านมา NETA X ยังคว้าอันดับ 1 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ประเภทรถอเนกประสงค์ (SUV) ในขณะที่ รถยนต์รุ่น NETA V-II ได้รับอันดับ 2 มียอดจดทะเบียนรถไฟฟ้า 100% ประเภทรถอีโคคาร์ (Eco car) อีกด้วย ดังนั้น เนต้า ออโต้ มีความมั่นใจว่า จะมีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ รัฐบาลไทย ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มที่ โดย เนต้า ออโต้ ตั้งเป้าที่จะก้าวสู่การเป็น TOP 5 ในประเทศไทย ภายในปี 2573”
สำหรับการเข้าร่วมงาน มหกรรมยานยนต์ (Thailand International Motor Expo) 2024 ในปีนี้ เนต้า ออโต้ ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า เข้าร่วมจัดแสดง จำนวน 2 รุ่น ประกอบด้วย
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA X “Intelligent Premium C-SUV” ราคา 799,000 บาท รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ SUV โดดเด่นด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบายตามสไตล์เอสยูวี มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและฟังก์ชันการใช้งานอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระดับ 2.0 โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ NETA X รุ่น Comfort มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาด 51.8 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 401 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ราคา 739,000 บาท และ NETA X รุ่น Smart มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาด 62 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC)
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA V-II “True Value City EV” ราคา 569,000 บาท รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว หน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ NETA V-II ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 382 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มตามมาตรฐาน NEDC โดย NETA V-II รุ่น SMART มาพร้อมระบบช่วยในการขับขี่ ADAS รวม 8 ระบบ และฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างครบครัน โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ NETA V-II รุ่น LITE ราคา 549,000 บาท และ NETA V-II รุ่น SMART
ทั้งนี้ ในงาน มหกรรมยานยนต์ (Thailand International Motor Expo) 2024 เนต้า ออโต้ ได้จัดให้มีแคมเปญพิเศษ ให้กับลูกค้าที่ จอง รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA V-II และรุ่น NETA X ในงานมหกรรมยานยนต์ (Thailand International Motor Expo) 2024 หรือจองกับผู้จัดจำหน่าย NETA ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ ได้แก่ ดาวน์เริ่มต้นที่ 8,888 บาท ผ่อนสูงสุด 84 เดือน สำหรับ ลูกค้า ทำสัญญาสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่กับ NLTH และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ พร้อมรับ ของแถมฟรี สูงสุด 9 รายการ ประกอบด้วย เครื่องชาร์จ NETA WALLBOX พร้อมติดตั้ง มูลค่า 27,500 บาท, ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี มูลค่า 20,000 บาท , ประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ High Voltage ตลอดอายุการใช้งาน มูลค่า 32,000 บาท, ประกันรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร, ค่าแรงและค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเช็คระยะครั้งแรกที่ 5,000 กิโลเมตร หรือ 6 เดือน, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี , ชุดสายชาร์จ และ ชุดพรมปูพื้น ทั้งนี้ รถยนต์รุ่น รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA V-II จะได้รับ แพคเกจอินเตอร์เน็ตภายในรถยนต์ แบบอัลลิมิตเต็ท (internet in vehicle) ระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 5,000 บาท อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังจัดให้มีแคมเปญ “ไมล์ทองคำ (Golden Miles)” เพื่อส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยแจกหนักให้นักสะสมเลขไมล์ ยิ่งเลขไมล์รถเยอะ ยิ่งเพิ่มโอกาสรับรางวัลใหญ่ จำนวน 10 รางวัล ให้กับเจ้าของรถที่เลขไมล์สะสมสูงสุด 10 อันดับแรก เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่ใช้งานรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน เปลี่ยนมาทดลองขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จะประกาศผลของรางวัลสำหรับผู้โชคดี ทาง Facebook Official ของ NETA Auto Thailand วันที่ 25 ธันวาคม 2567 รายละเอียดได้ที่ https://campaign.neta.co.th/goldenmile ส่วนผู้สนใจสามารถสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NETA Call Center โทร. 02-023-9981 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.neta.co.th