Isuzu D-Max 2.2 MAXFORCE สีเทา Elbrus Gray Opaque ใหม่ แรงขึ้น ประหยัดกว่าเดิม
เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE ถูกวางจำหน่ายควบคู่ไปกับเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power และ 3.0 Ddi MAXFORCE ใหม่ โดยมีการปรับปรุงเพิ่มแรงบิดช่วงออกตัวเพิ่มขึ้น 56% (แรงบิด 255 Nm ที่ 1,000 รอบต่อนาที) ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุด 10.7% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 Ddi เทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Rev Tronic และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ทางด้านนาย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุในฐานะผู้นำด้านเครื่องยนต์ดีเซลระดับโลก ได้พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE พลังใหม่…กำหนดโลก เร่งแซงเร็วขึ้น พละกำลังสูงขึ้น แต่ให้ความประหยัดน้ำมันที่มากขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานมากยิ่งขึ้น และมีค่า CO2 ต่ำที่สุด ในรถระดับเดียวกัน มีให้เลือกทั้งในรถอีซูซุ ดีแมคซ์ และ มิว-เอ็กซ์ ซึ่งได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน อีซูซุเป็นระยะทางเทียบเท่า 2,200,000 กิโลเมตร จนมั่นใจว่าเครื่องยนต์นี้มีความแรง ทนทาน และประหยัดน้ำมันเหมาะสมกับตลาดมากที่สุด พร้อมที่จะถ่ายทอดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้าน อีกทั้งเครื่องยนต์ตัวใหม่ล่าสุดนี้ยังสามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือทำงานควบคู่กับพลังงานทางเลือกอื่น ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย ถือเป็นเทคโนโลยีดีเซลที่จะกำหนดอนาคตแห่งการขับเคลื่อนอย่างแท้จริง
Isuzu D-Max 2025 ที่ปรากฏในภาพเป็นรุ่น Hi-Lander 4-Door 2.2 Ddi M เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ (รุ่นท็อป Hi-Lander 4 ประตู เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร) ราคาจำหน่าย 1,137,000 บาท พร้อมตัวถังสีเทา Elbrus Gray Opaque โดยยังมีอีก 3 สี ได้แก่
สีขาว Dolomite White Pearl (เพิ่มเงิน 7,000 บาท)
สีเงิน Bohemian Silver Metallic
สีดำ Bavarian Black Mica
โดยสำหรับผู้ที่สนใจนั้นก็สามารถ ชมภาพคันจริง Isuzu D-Max 2025 เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE กำลังสูงสุด 163 แรงม้า พร้อมตัวถังสีเทา Elbrus Gray Opaque ใหม่ เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป และในงาน Thailand International Motor Expo 2024 ณ อาคารชาเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2567 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com