เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัว “GWM POER SAHAR HEV” รถกระบะไฮบริดคันแรกในไทย วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นี้
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดตัวรถกระบะไฮบริดคันแรกในประเทศไทย “GWM POER SAHAR HEV – The First-Class Intelligent Pickup” ที่จะทำให้ทุกการเดินทางเสมือนการใช้บริการในที่นั่งระดับเฟิร์สคลาส ยกระดับมาตรฐานรถกระบะไปอีกขั้น ฉีกกฎการใช้รถกระบะแบบเดิมๆ ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทา Ayers Gray สีขาว Hamilton White และสีดำ Sun Black ามารถชมรถกะบะไฮบริดคันแรกนี้ได้และรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ อีก 10 รุ่น ที่บูธ เกรท วอลล์ มอเตอร์ A4 ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คส เมืองทองธานี
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) (GWM) กล่าวว่า เป็นระยะเวลา 3 ปี ที่บริษัทฯ ได้นำผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเข้ามาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสและทดลองซื้อไปใช้ โดยได้เปิดตัวใน 3 แบรนด์ได้แก่ HAVAL ORA และ TANK และในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 นี้ ทางบริษัทฯ มีความยินดีที่จะเปิดตัวแบรนด์ที่ 4 ของบริษัทฯ ในประเทศไทย คือ แบรนด์ POER ซึ่งผลิตรถกระบะซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดและมีประวัติอันยาวนาน กับการครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศจีนมากถึง 26 ปี ระหว่างปีพ.ศ. 2541 – พ.ศ. 2566 และมี ส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนในปัจจุบันเกือบ 50% และมียอดขายสะสมใน 4 ทวีปกว่า 50 ประเทศทั่วโลกประมาณ 2,540,000คัน
สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นมองว่ายังมีโอกาสอีกมากที่กลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยจะเลือกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯที่ส่งจำหน่ายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่คล่องตัวเหมาะสมกับการใช้งานตอบโจทย์ความสะดวกสบายมากขึ้น
ในส่วนการออกแบบโลโก้ของแบรนด์ POER สะท้อนที่มาของแบรนด์ คือ ความแข็งแกร่ง ควมท้าทาย ความปลอดภัย และควมไม่หยุดนิ่งมีอิสระของผู้ใช้งาน สำหรับในประเทศไทยรถกะบะจะไม่ใช่รถที่ใช้งานเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะเป็นรถกะบะที่ใช้งานเพื่อการพักผ่อนและการท่องเที่ยวในคันเดียวกัน ที่จะพาทุกคนในครอบครัวไปสู่จุดหมายได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ซึ่งความสะดวกสบายและความปลอดภัยนี้ ถือเป็นจุดที่บริษัทฯ มีความโดดเด่นและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี ถือเป็นโอกาสและ จุดสร้างความแตกต่าง ที่ทำให้รถกะบะของ บริษัทฯมีความโดดเด่นและแตกต่างจากรถกระบะอื่น ๆ ที่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบัน
GWM POER SAHAR HEV– The First-Class Intelligent Pickup” เป็นรถกระบะไฮบริดรุ่นแรกในประเทศไทย ที่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 2.0 ลิตร มอบความเงียบและความนุ่มทั้งในการขับขี่แบบปกติและเร่งแซง มอบพละกำลัง 244 แรงม้า แรงบิด 380 นิวตันเมตร ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 106 แรงม้า แรงบิด 268 นิวตันเมตร และโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ในด้านมิติตัวรถ GWM POER SAHAR HEV มีความยาวถึง 5,445 มิลลิเมตร กว้าง 1,991 มิลลิเมตร สูง 1,924 มิลลิเมตร ทำให้ห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้มีความกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกๆ ที่นั่ง ให้ความรู้สึกเสมือนการเดินทางในที่นั่งระดับเฟิร์สคลาส
นอกจากนี้มีระยะฐานล้อ 3,350 มิลลิเมตรยาวที่สุดในตลาดรถกะบะด้วยกัน ช่วยเพิ่มมิติความกว้างของห้องโดยสารด้านหลัง ให้เป็นเหมือนรถ SUV เพื่อให้ทุกๆ ตำแหน่งของการนั่งในรถคันนี้เป็นเหมือนที่นั่ง VIP มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทา Ayers Grayสีขาว Hamilton White และสีดำ Sun Black ด้านการออกแบบภายใน โดดเด่นเหนือใครด้วยการออกแบบอย่างประณีต หรูหรา มีระดับ สะท้อนตัวตนผู้ขับขี่ได้อย่างลงตัว สะดวกสบายในทุกๆ ที่นั่ง ด้วยเบาะหนังแท้สุดพรีเมียมที่มาพร้อมระบบนวดไฟฟ้าและระบบเบาะปรับอากาศในที่นั่งแถวหน้า และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง หน้าจอมัลติมีเดียระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วรองรับความบันเทิงเต็มรูปแบบทำงานร่วมกับ ลำโพง Infinity 10 ตำแหน่ง และอีกหนึ่งไฮไลท์ของรถกระบะคันนี้คือ ฝาท้ายอัจฉริยะที่เปิดและปิด ได้ 2 รูปแบบ ควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้วด้วยระบบสัมผัส สะดวกสบายในทุกการใช้งาน
มาพร้อมกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่
ㆍ 2.0 HEV PRO DOUBLE CAB AUTO
ㆍ 2.0 HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD
ภายนอก 3 สี
ㆍ ขาว (Hamilton White)
ㆍ เทา (Ayers Gray)
ㆍ ดำ (Sun Black)
ภายนอกสีเดียว
ㆍ ดำ (Jade Black)
GWM POER SAHAR มาพร้อมการออกแบบบที่โด่ดเด่นดุดัน กระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่อลังการพร้อมโลโก้ POER ขนาด
ใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED ไฟตัดหมอกหน้าแนวตั้ง ล้ออัลลออยย 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 และขนาลใหญ่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 265/55R19 ด้านหลัง
GWM POER SAHAR HEV กระบะไฮบริล เดรียมเปิดด้วในไทยพร้อมประกาศราคาช่วง 28 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งตรงกับงาน Motor EXPO 2024