ยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน Hyundai N Vision 74 เมื่อความฝันกลายเป็นจริง!
คนที่เติบโตขึ้นมาในยุค 80 หรือทศวรรษอื่นๆ จะชอบรถยนต์หลังคาปีกนกนางนวลใน DeLorean DMC-12 ของศาสตราจารย์สติเฟื่อง Dr. Emmett Brown จากหนังคลาสสิกสุดฮิต Back to the Future ด้วยวิธีการที่นำเสนอในภาพยนตร์ หากคุณกำลังจะสร้างจักรกลไทม์แมชชีนที่เป็นรถยนต์ ทำไมไม่ทำมันอย่างมีสไตล์และคล้ายกับ DeLorean ล่ะครับ? หลักการเดียวกันนี้ กลับกลายเป็นความจริงขึ้นมา เมื่อบริษัทรถยนต์เกาหลีแบรนด์ใหญ่ ต้องการสาธิตการขับเคลื่อนยานพาหนะด้วยประสิทธิภาพของเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสำหรับอนาคต นี่คือรถยนต์ต้นแบบ N Vision 74 ของ Hyundai ไม่เพียงแต่มีความคล้ายคลึงกับสัดส่วนของรถยนต์ DeLorean เท่านั้น แต่ยังมีการเชื่อมโยงกับรถสปอร์ตตัวถังทรงเหลี่ยมอีกหลายรุ่นในยุค 1970 อีกด้วย ตามรายงานของสื่อรถต่างประเทศ Hyundai จะเปิดตัวรถยนต์ต้นแบบแนวคิดพลังงานไฮโดรเจน เวอร์ชันโปรดักชั่น ในงาน “Pony Day” ช่วงปลายเดือนนี้ ดังนั้นใน บทความ Hyundai N Vision 74 ตัวตึงคันใหม่แห่งวงการยานยนต์ รถยนต์แห่งโลกอนาคตพลังงานไฟฟ้าและไฮโดรเจนคันแรกของโลกจากประเทศเกาหลี เรื่องนี้ เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูรายละเอียดของรถยนต์แห่งโลกอนาคตที่จะออกมาวิ่งบนถนนจริง ๆ กันในไม่ช้าคันนี้กัน
ดีไซน์ภายนอก N Vision 74 ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของยานยนต์ในทศวรรษ 1970 เมื่อ Hyundai มอบหมายให้ Giorgetto Giugiaro สร้างรถคูเป้คันแรก รถยนต์ Pony hatchback ที่ถูกดีไซน์อย่างอิสระเป็นรถรุ่นแรกของบริษัทผู้ผลิตจากเกาหลี โดยมีรูปลักษณ์ที่มีความคล้ายคลึงกับ Alfa Romeo Alfasud Sprint และรถยนต์ต้นแบบแนวคิด Porsche Tapiro ปี 1970 รถยนต์ต้นแบบพลังงานไฮโดรเจน N Vision 74 ใส่ยาง Pirelli P Zero 4S และหนักประมาณสองตัน การตอบสนองของมันเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความแตกต่างจากรถยนต์เครื่องสันดาปภายในแบบดั้งเดิม มันมี Limited Slipe -LSD และเกียร์คลัตช์คู่แปดสปีด ในระบบส่งกำลังประสิทธิภาพสูงที่ใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mercedes-Benz และ Honda จะเลิกทำการวิจัยเซลล์เชื้อเพลิงไปแล้ว แต่ Hyundai กำลังพัฒนาระบบขับเคลื่อน FCEV ซึ่งเหมือนกับ Mirai ของ Toyota และรถยนต์ Hyundai Nexo SUV ก็ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงที่มีขายในสหรัฐอเมริกาเหมือนกับ Toyota Miria อีกด้วย
“เอ็น วิชั่น 74” ถูกสร้างจากจินตนาการที่ต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฮโดรเจน แถมยังต้อง “เหนือกว่า” รถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ด้านการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจาก ฮุนได โพนี่ คูเป้ (Hyundai Pony Coupe) รุ่นปี 1974 ได้รับการพัฒนาโดย Giorgetto Giugiaro นักออกแบบรถยนต์ระดับตำนาน โพนี่ คูเป้ ถูกสร้างเป็นรถต้นแบบสำหรับรถสปอร์ตรุ่นแรกของฮุนได แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่สามารถผลิตได้สำเร็จ แต่ 50 ปีต่อมาจินตนาการครั้งนั้นก็กลายเป็นจริง Hyundai N Vision 74 GT (Hyundai N 2025 Vision Gran Turismo) ที่มีความหมายว่า ‘วิสัยทัศน์ของปี 2025’ ถูกเปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ปี 2015 พร้อมๆกับการเปิดตัวแบรนด์ “N” ใช้เวลาเพียงเจ็ดปี N Vision 74 ก็ผ่านการทดลอบประสิทธิภาพการขับขี่และระบบทำความเย็นของ FCEV ขั้นสูง เป็นการแสดงถึงวิสัยทัศน์ของ Hyundai เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
เนื่องจาก N Vision 74 เป็น Rolling Lab ประสิทธิภาพสูงแห่งแรกที่สร้างขึ้นจากเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ตัวรถจึงได้รับการออกแบบเพื่อให้สมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ด้วยองค์ประกอบต่างๆ เช่น รูปทรงส่วนปลายของสเกิร์ตข้างและสปอยเลอร์หลัง
Dimension:มิติตัวถังรถ
- ยาว 4,952 มิลลิเมตร
- กว้าง1,995 มิลลิเมตร
- สูง 1,331 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,905 มิลลิเมตร
ห้องโดยสารของ N Vision 74 สืบทอดห้องโดยสารสไตล์ห้องนักบินทรงลูกสูบที่มีคนขับเป็นศูนย์กลางของ Hyundai Pony Coupe ผสมผสานองค์ประกอบดั้งเดิมกับการออกแบบที่ทันสมัย เบาะนั่งสไตล์มอเตอร์สปอร์ตที่ใช้งานได้จริง เพิ่มรายละเอียดด้วย Performance Blue เพื่อสร้างความรู้สึกภายในห้องโดยสารแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ N
Engine:เครื่องยนต์
รถพลังไฮโดรเจนคันนี้ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 62 kWh แรงดัน 800 โวลต์ มอเตอร์ขนาด 235 kW 2 ตัว วางบนล้อหลังแต่ละข้าง เมื่อมอเตอร์แฝดคู่นี้ทำงานพร้อมกันจะปั๊มม้าออกมารวมกัน 670 แรงม้า แรงบิดสูงสุดมากกว่า 900 นิวตัน-เมตร ถังไฮโดรเจน 2 ถังวางอยู่บนเพลาหลัง ถ้าเติมเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเต็มถัง (4.2 ก.ก.) จะสามารถวิ่งได้ไกลมากกว่า 600 กม.
จุดเริ่มต้นของโครงการเริ่มต้นด้วยการวางโครงสร้างเค้าโครงใหม่เพื่อวางระบบ FCEV Ngineers ซึ่งฮุนไดตัดสินใจใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) โดยใช้มอเตอร์คู่ วางบนล้อหลังข้างละตัว ยิ่งไปกว่านั้น N Vision 74 ยังได้ทดสอบระบบ e-TVTM (Electronic Torque Vectoring โดยมอเตอร์ 2 ตัว หรือ Twin Motors) เพื่อเพิ่มประสบการณ์การเข้าโค้งด้วยมอเตอร์ขนาด 235 kW ที่ล้อหลังแต่ละข้าง ทีมสร้าง N Vision 74 มีภารกิจในการค้นหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการทำความเย็นและประสิทธิภาพ ซึ่งพวกเข้าพิชิตมันด้วยระบบระบายความร้อน 3 ช่องทาง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการจัดการความร้อนของ FCEV ได้ดียิ่งขึ้น โดยระบบระบายความร้อนถูกออกแบบใหม่ให้แยกส่วนสำหรับแต่ละ STAC / แบตเตอรี่ และแต่ละโมดูลไฟฟ้า
แบตเตอรี่ : ความจุ (kWh) 62.4 kWh
ความสามารถในการชาร์จเร็ว 800 โวลต์
ไฮโดรเจน : ความจุถัง 4.2 กิโลกรัม
เซลล์เชื้อเพลิง : สุทธิ 85 kW (สูงสุด 95 kW)
เวลาเติมเชื้อเพลิง : 5 นาที
สมรรถนะ : ความเร็วสูงสุดมากกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระยะทางการขับขี่ : 600 กิโลเมตร
N Vision 74 ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของยานยนต์ในทศวรรษ 1970 เมื่อ Hyundai มอบหมายให้ Giorgetto Giugiaro สร้างรถคูเป้คันแรก รถยนต์ Pony hatchback ที่ถูกดีไซน์อย่างอิสระเป็นรถรุ่นแรกของบริษัทผู้ผลิตจากเกาหลี โดยมีรูปลักษณ์ที่มีความคล้ายคลึงกับ Alfa Romeo Alfasud Sprint และรถยนต์ต้นแบบแนวคิด Porsche Tapiro ปี 1970 รถยนต์ต้นแบบพลังงานไฮโดรเจน N Vision 74 ใส่ยาง Pirelli P Zero และหนักประมาณสองตัน การตอบสนองของมันเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความแตกต่างจากรถยนต์เครื่องสันดาปภายในแบบดั้งเดิม มี Limited Slipe -LSD และเกียร์คลัตช์คู่แปดสปีด ในระบบส่งกำลังประสิทธิภาพสูงที่ใช้เทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์อื่นๆ เช่น Mercedes-Benz และ Honda จะเลิกทำการวิจัยเซลล์เชื้อเพลิงไปแล้ว แต่อีกหลายแบรนด์ เช่น Hyundai และ BMW กำลังพัฒนาระบบขับเคลื่อน FCEV ซึ่งเหมือนกับ Mirai ของ Toyota และรถยนต์ Hyundai Nexo SUV ก็ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงที่มีขายในสหรัฐอเมริกาเหมือนกับ Toyota Miria.