คาดราคาไม่ถึงล้าน Tesla Model 2 รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV 

Tesla Model 2 รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV ราคาไม่เกินล้าน 
หลังจากที่มีข่าวออกมาว่า Tesla กำลังจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ พิกัด B-SUV ซึ่งเป็นกลุ่มตลาด Mass Market ในบ้านเรา แล้วก็มีข่าวแว่วๆ ออกมาอีกเป็นระลอกว่าทาง Tesla ได้มีการพับโปรเจคนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่หลังจากนั้น Elon Musk ก็ได้ออกมาปฏิเสธถึงข่าวลือเหล่านั้น รวมถึงทาง Franz von Holzhausen ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบก็ออกมาตอกย้ำกับทางแฟนๆ ว่า “Stay tuned” แปลว่า รอติดตามรับชมได้เลย เอาไงล่ะทีนี้? งงไปหมดแล้วจ้า แต่ด้วยกระแสของสภาวะของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ในขณะนี้ และถึงแม้ว่าจะมีสัญญาณออกมาเป็นเชิงบวกบ้าง แต่ยอดขายของทาง Model 3 และ Model Y ก็ยังตกต่ำลงเรื่อยๆ นั่นหมายความว่า Tesla เองก็ต้องออกมาปรับกลยุทธ์กันใหม่ ซึ่ง Model 2 จะเป็นทางออก เพื่อบรรลุเป้าหมายความต้องการที่จะจำหน่ายรถยนต์ให้ได้ 20 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2030 ตามที่เคยลั่นวาจาไว้หรือไม่?

ทางด้านการตลาดของรถยนต์พิกัด B-SUV ในบ้านเรา อาจจะจับกลุ่มคู่แข่ง อาทิ BYD ATTO 3, Neta X,  AION Y Plus และ MG4 เป็นต้น ซึ่งเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาดใกล้เคียงกัน จากที่คาดการณ์ราคากันไว้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 800,000-900,000 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน แน่นอนว่าการดั้มราคาลงมาเช่นนี้ ต้องแบกรับการลงทุนอันมหาศาลในการวิจัย และพัฒนารวมถึงการผลิต แน่นอนว่าทาง Tesla เองก็ต้องมั่นใจแล้วว่ามันจะคุ้มค่าต่อการลงทุน ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กมักทำกำไรได้น้อยกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่และพรีเมียมกว่า หากต้องใช้การทดสอบที่ยาวนาน ซึ่งพวกเขาเองน่าจะได้บทเรียนอันแสนสาหัสจาก Cybertruck มาแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ 

ทั้งนี้ Elon Musk ตำแหน่ง CEO ของ Tesla ได้แสดงความคิดเห็นผ่าน X หรือ twitter ส่วนตัวของเขาว่า Reuters โกหกอีกครั้ง แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอื่นใดจากเขา นอกจากนั้น มีรายงานด้วยว่าการที่ Tesla ยกเลิกโครงการพัฒนา Tesla Model 2 เพราะจะเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับ robotaxi หรือแท็กซี่ขับขี่อัตโนมัติแทน ซึ่งมีแผนในตอนต้นว่าจะใช้ platform แบบเดียวกับ Model 2

มีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ Tesla จำต้องยกเลิกการพัฒนา Model 2 เป็นเพราะปัจจัยลบหลายประการที่บริษัทประสบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการในไตรมาสแรกไม่ดีดังที่หวัง รวมทั้งสงครามราคารถยนต์ไฟฟ้าจีนในหลายประเทศที่ทวีความเข้มข้นจน Tesla ไม่สามารถสู้ได้ จนอาจนำไปสู่การตัดสินใจดังกล่าว ทั้งนี้ ถึงจะยังไม่มีการยืนยันจากทางการ แต่มูลค่าหุ้น Tesla ได้ลดลงไปอีก 3% หลังมีการเปิดเผยรายงานชิ้นนี้