BMW เตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนปี 2028
BMW พัฒนารถยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนมาตั้งแต่ปี 1979 ด้วยรถต้นแบบ BMW 520h เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ดัดแปลงระบบเชื้อเพลิงใหม่ให้สามารถใช้ไฮโดรเจนเผาไหม้ได้ สูตรสำเร็จดังกล่าว ยังถูกนำมาใช้กับ Series-7 E38 และ E65 เครื่องยนต์ V12 ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน รถต้นแบบเชื้อเพลิงไฮโดรเจนทั้งสองรุ่น เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 2000 ทุกวันนี้ BMW ยกเลิกโครงการทดสอบเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน แล้วหันไปพัฒนาระบบขับเคลื่อนเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนหรือ FCEV หลังจากทดสอบจนแน่นใจว่า เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในระบบขับเคลื่อน FCEV มีประสิทธิภาพสูงกว่าการปรับระบบเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์สันดาปภายแล้วเปลี่ยนในมาใช้ไฮโดรเจน
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางเอาไว้สำหรับการก้าวเข้าไปสู่อนาคตด้วยระบบขับเคลื่อนพลังงานสะดาดจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน แบรนด์ตราใบพัด BMW ยืนยันแผนงานที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง FCEV ในปี 2028 หรืออีก 4 ปีนับจากนี้ และเพื่อให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จ BMW ได้ขยายความร่วมมือ กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่ยังคงเชื่อว่าเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจะมีอนาคตที่สดใสนอกเหนือไปจากพลังงานไฟฟ้า Toyta ขายรถยนต์ไฮโดรเจนรุ่น Mirai มากว่าทศวรรษแล้ว และรถยนต์ตราใบพัดที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนนับเป็น FCEV คันแรกของ BMW ที่สามารถซื้อได้จริง
เนื่องจากยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงของ BMW ยังคงเป็นความลับของบริษัท แต่โครงการไฮโดรเจนล่าสุดของ BMW ใช้ X5 เป็นรถต้นแบบสำหรับวางระบบขับเคลื่อน FCEV คาดว่า ในปี 2028 รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่จะเปิดตัว น่าจะเป็นรถเอสยูวีไซล์กลางค่อนข้างมีขนาดที่ใกล้เคียงกับ X5 โฉมปัจจุบัน แน่นอนว่าตลาดที่เปิดกว้างของรถยนต์อเนกประสงค์ยกสูงสามารถทำยอดขายได้มากกว่ารถซีดานหรือซาลูน 4 ประตู
BMW พัฒนารถยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนมาตั้งแต่ปี 1979 ด้วยรถต้นแบบ BMW 520h เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ดัดแปลงระบบเชื้อเพลิงใหม่ให้สามารถใช้ไฮโดรเจนเผาไหม้ได้ สูตรสำเร็จดังกล่าว ยังถูกนำมาใช้กับ Series-7 E38 และ E65 เครื่องยนต์ V12 ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน รถต้นแบบเชื้อเพลิงไฮโดรเจนทั้งสองรุ่น เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 2000 ทุกวันนี้ BMW ยกเลิกโครงการทดสอบเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน แล้วหันไปพัฒนาระบบขับเคลื่อนเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนหรือ FCEV หลังจากทดสอบจนแน่นใจว่า เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในระบบขับเคลื่อน FCEV มีประสิทธิภาพสูงกว่าการปรับระบบเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์สันดาปภายแล้วเปลี่ยนในมาใช้ไฮโดรเจน
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนงานที่วางเอาไว้สำหรับการก้าวเข้าไปสู่อนาคตด้วยระบบขับเคลื่อนพลังงานสะดาดจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน แบรนด์ตราใบพัด BMW ยืนยันแผนงานที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง FCEV ในปี 2028 หรืออีก 4 ปีนับจากนี้ และเพื่อให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จ BMW ได้ขยายความร่วมมือ กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์ที่ยังคงเชื่อว่าเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจะมีอนาคตที่สดใสนอกเหนือไปจากพลังงานไฟฟ้า Toyta ขายรถยนต์ไฮโดรเจนรุ่น Mirai มากว่าทศวรรษแล้ว และรถยนต์ตราใบพัดที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนนับเป็น FCEV คันแรกของ BMW ที่สามารถซื้อได้จริง
เนื่องจากยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงของ BMW ยังคงเป็นความลับของบริษัท แต่โครงการไฮโดรเจนล่าสุดของ BMW ใช้ X5 เป็นรถต้นแบบสำหรับวางระบบขับเคลื่อน FCEV คาดว่า ในปี 2028 รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนที่จะเปิดตัว น่าจะเป็นรถเอสยูวีไซล์กลางค่อนข้างมีขนาดที่ใกล้เคียงกับ X5 โฉมปัจจุบัน แน่นอนว่าตลาดที่เปิดกว้างของรถยนต์อเนกประสงค์ยกสูงสามารถทำยอดขายได้มากกว่ารถซีดานหรือซาลูน 4 ประตู
รถยนต์ต้นแบบ BMW X5 SUV เชื้อเพลิงไฮโดรเจน 100 คัน สร้างขึ้นที่โรงงานสปาร์ตันเบิร์ก สหรัฐอเมริกา และถูกส่งมาดัดแปลงใหม่ที่โรงงานนำร่องของ BMW ในเมืองมิวนิก X5 FCEV มีกำลัง 396 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน ถังไฮโดรเจนขนาดความจุ 700 บาร์ จำนวนสองถัง ทำจากพลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) คล้ายกับถังเชื้อเพลิงของ Toyota ที่เคยทดสอบความปลอดภัยด้วยการใช้ปืนไรเฟิลยิงใส่ ถังทั้งสอง บรรจุไฮโดรเจน 6 กิโลกรัม ทำระยะทางได้ 513 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP การเติมเชื้อเพลิงใช้เวลาแค่สามถึงสี่นาที ซึ่งเท่ากับ X5 รุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซล แค่ 3 นาที ก็ไปได้ต่ออีก 500 กิโลเมตร ไม่ต้องรอนานถึง 30 นาที แล้วไปได้แค่ 300 กิโลเมตร ในรถยนต์ไฟฟ้า!!
รถยนต์ไฮโดรเจนคันแรกของ BMW จะใช้แพลตฟอร์มใหม่ CLAR เดียวกันกับรุ่นที่ใช้น้ำมันเบนซิน/ดีเซล/หรือปลั๊กอินไฮบริด มีรายงานว่า BMW อาจเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าด้วยโครงสร้างแพลตฟอร์มเดียวกับ New X5 ซึ่ง คาดกันว่าจะเริ่มผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 โดยมีให้เลือกทั้งไฟฟ้า 100% เบนซินปลั๊กอินไฮบริดและดีเซล + Mild Hybrid 48V
Jürgen Guldner รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและหัวหน้าโครงการยานยนต์รุ่นใหม่ของ BMW Group กล่าวว่า "โดยพื้นฐานแล้ว X5 Hydrogen FCEV สามารถวิ่งได้ประมาณ 500 กิโลเมตร จากการเติมไฮโดรเจนหนึ่งครั้ง หากเติมเชื้อเพลิงเบนซินให้กับรถ X5 เครื่องยนต์สันดาปภาย ในปริมาณที่เท่ากัน ระยะทางการใช้งานจะหดสั้นลงเหลือไม่ถึง 300 กิโลเมตร นั่นคือความแตกต่างระหว่างระบบขับเคลื่อนสองรูปแบบ และเมื่อขับรถยนต์ไฮโดรเจนจนถึงระยะทาง 500 กิโลเมตร รถเซลล์เชื้อเพลิงจะใช้เวลาเติมไฮโดรเจนแค่ 3 นาที แล้วออกเดินทางต่อได้เลย เป็นที่รู้กันดีว่า ปัญหาสำคัญของไฮโดรเจนก็คือ โครงสร้างพื้นฐานของสถานีเติมเชื้อเพลิงที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ในความเป็นจริง โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวแทบไม่มีอยู่เลยในหลายภูมิภาคของโลก ดังนั้น คงไม่แปลกใจหาก BMW ไฮโดรเจนรุ่นนี้จะขายเฉพาะในภูมิภาคที่มีสถานีเติมเชื้อเพลิงไอโดรเจนรองรับเท่านั้น เหลืออีก 4 ปี ในการพัฒนาและเร่งขยายเครือข่ายสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน BMW และ Toyota กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อเริ่มโครงการระดับภูมิภาคหรือระดับท้องถิ่นสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสถานีเติมไฮโดรเจน ผ่านความคิดริเริ่มร่วมกันกับภาครัฐในประเทศนั้นๆ.
ยังคงต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไป ถึงแม้ว่าทาง BMW และทาง Toyota ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนถึงผลิตภัณฑ์ในอนาคตของพวกเขา ก็ต้องยอมรับเลยว่ามันอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด