Chery Fulwin T10 เอสยูวี ปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวในจีน 9.39 แสนบาท
Chery Fulwin T10 เอสยูวี ปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวในจีน 9.39 แสนบาท

Chery ประเทศจีน ประกาศเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในซีรีส์ Fulwin ชื่อรุ่นว่า Chery Fulwin T10 เอสยูวีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด รุ่นที่ 4 โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 3 เกรด มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่

Chery Fulwin T10 จะมีเฉดสีภายนออกให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาว, สีเงิน, สีดำ, สีเขียว และสีเขียวหลังคาดำโดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

210 Premium Edition (ขับเคลื่อนล้อหน้า) ราคา 189,900 หยวน 9.39 แสนบาท

210 Luxury Edition (ขับเคลื่อนล้อหน้า) ราคา 199,900 หยวน หรือประมาณ 9.89 แสนบาท

200 4WD Flagship Edition ราคา 229,900 หยวน หรือประมาณ 1.13 ล้านบาท

สำหรับดีไซน์ภายนอกของ Chery Fulwin T10 เริ่มที่กระจังแบบปิดทึบ ให้ความดุดันด้วยเส้นโครเมียมที่ออกแบบเหมือนสายน้ำตก มีโลโก้ของทาง Chery วางอยู่ด้านบน ประกอบด้วยชุดไฟหน้าทรงเรียวยาว มีไฟ DRL LED เป็นเส้นอยู่ด้านใน ด้านล่างมีช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและช่องดักอากาศเทียมวางขนาบอยุ่ที่มุมทั้ง 2 ฝั่งด้านข้างมือจับประตูแบบซ่อน ล้ออัลลอยทูโทนปัดเงาลาย Wind Blade ขนาด 20 นิ้ว ส่วนด้านท้ายตามแบบสมัยนิยมกับชุดไฟท้าย LED ตีตราชื่อ F U L W I N ไว้กึ่งกลาง มาพร้อมแถบโครเมียมที่รองอยู่ด้านล่าง กันชนท้ายสีดำเงา ชุดท่อไอเสียมาในแบบซ่อน

ขนาดตัวถังความยาว 4,850 มม. ความกว้าง 1,930 มม. ความสูง 1,712 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,820 มม. มาพร้อมน้ำหนักตัวรถที่ 2,028 กก. (รุ่น 5 ที่นั่ง) และ 2,199 กก. (รุ่น 6 ที่นั่ง)

ส่วนภายในห้องโดยสาร มีสีภายในให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีม่วง Elegant Twilight Purple และ สีเขียว Stylish Mountain Mist Green พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุแบบบุนุ่ม รองรับได้ทั้ง 5 ที่นั่ง (2+3) และแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง (2+2+2) ตัวเบาะหุ้มหนังเกรด เบาะที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า มาพร้อมระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และนวด ส่วน 4WD จะเพิ่มลำโพงไว้ที่พนังพิงศีรษะของฝั่งผู้ขับขี่

ส่วนคอนโซลกลางจะมทีพื้นที่ขนาดกว้าง ถูกวางเชื่อมต่อติดกับคอนโซลหน้า แผงแดชบอร์ดมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ แผงหน้าปัด LCD ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอควบคุมกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Huawei HiCar และ Apple CarPlay ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว ส่วนพวงมาลัยทรง D -Shape พร้อมดีไซน์ในส่วนของช่องระบายอากาศให้มาในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

ทั้งนี้ยังมีระบบควบคุมสั่งงานตัวรถระยะไกลผ่านโทรศัพท์มือถือ, ระบบเชื่อมต่อแบบ Bluetooth, ฮอตสปอต, WiFi เครือข่าย 4G มาพร้อมระบบผู้ช่วย AI และระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 14 ตำแหน่งของทาง Sony ปิดท้ายด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก Fulwin F10 ยังได้รับการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ L2.5

ด้านพละกำลังขับเคลื่อนจะมากับระบบ PHEV ทำงานด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ที่ให้กำลัง 156 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร โดยจะทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีให้เลือกทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่ให้กำลัง 165 kW (221 แรงม้า) แรงบิด 390 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังที่มากถึง 280 kW แรงบิด 375 แรงม้า แรงบิด 610 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0- 100 กม. ในเวลา 8.8 วินาที

รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อจะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าที่คู่ล้อหลังให้กำลัง 75 KW (235 แรงม้า) แรงบิด 310 นิวตันเมตร โดยเมื่อเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัวทำงานร่วมกันจะให้กำลังมากถึง 455 KW (610 แรงม้า) แรงบิดสูงถึง 969 นิวตันเมตร และอัตราเร่งจาก 0- 100 กม. ในเวลา 4.9 วินาที โดยทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อจะส่งกำลังด้วยชุเเกียร์ DHT 3 สปีด

มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ C-DM Super Hybrid Battery (M3P) ขนาด 34.46 kWh โดยในรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียววิ่งไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกล 210 กม. ส่วนในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะวิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ระยะทาง 200 กม.(CLTC) และวิ่งครอบคลุมระยะทางมากกว่า 2,100 กม. เมื่อน้ำมัน + แบตเตอรี่ชาร์จเต็ม ซึ่งถือว่าไกลเป็นสถิติโลกกินเนสส์ สำหรับรถ SUV ที่ขับเคลื่อนโดยระบบปลั๊กอินไฮบริด โดยทำระยะทางได้ 2,169.641 กม.

รองรับการชาร์จไฟ DC ที่จะให้กำลังไฟจาก 30%- 80% ในเวลาเพียง 18 นาที ชาร์จไฟแบบ AC ที่ชาร์จไฟเต็มในเวลา 5.5 ชม.

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง