ก่อนหน้านี้ MAZDA CX-70 ได้ถูกประกาศราคาจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยมีทั้งหมด 7 รุ่นย่อย เริ่มต้นที่ 40,445 - 57,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.46 - 2.07 ล้านบาท Mazda บุกตลาด SUV ด้วยการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ CX-70 ซึ่งเป็นการถอดเบาะนั่งแถวที่ 3 ออกไป เหลือไว้เพียง 5 ที่นั่ง โดยยังคงใช้งานวิศวกรรมพื้นฐานร่วมกัน
การออกแบบภายนอกของ MAZDA CX-70 ตกแต่งด้วยสีดำเงารอบคัน ธีม black out ให้มีความโด่ดเด่น แทนที่วัสดุโครเมียมใน CX-90 กระจังหน้ามาพร้อมลวดลายสีดำเงาเช่นเดียวกัน กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่ พร้อมช่องดักลมขนาดใหญ่ พร้อมครีบระบายลมขนาบทั้ง 2 ข้าง ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ออกแบบใหม่เฉพาะรุ่น
ขนาดตัวถัง MAZDA CX-70 ยาว 5,100 มม. กว้าง 2,156 มม. สูง 1,745 มม. ฐานล้อ 3,119 มม.
ภายในอ้างอิงมาจาก CX-90 มีการตกแต่งด้วยวัสดุสีแดงและสีดำ รวมไปถึงวัสดุตกแต่งสีเทาที่บรรจุลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์แฝงไว้ ขณะที่ลายไม้พิเศษแบบรุ่นพี่จะไม่มีให้เลือก มาพร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนต์ Mazda Connect ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay มาตรวัดแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผล Head-up Active Driving Display เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะหนังคู่หน้าแบบปรับอุณหภูมิได้ ห้องเก็บสัมภาระกว้างขวาง
CX-70 เลือกใช้ขุมพลังชุดเดียวกับรุ่นพี่ CX-90 ได้แก่
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.3 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Mild-hybrid 48V (MHEV) มีให้เลือก 2 ระดับความแรง ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน พละกำลัง 280 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 452 นิวตัน-เมตร และ รุ่น S พละกำลัง 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 502 นิวตัน-เมตร ทั้งคู่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Active AWD
และ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร Direct Injection กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าของระบบ Plug-in Hybrid (PHEV) พละกำลังรวมสูงสุด 323 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 502 นิวตัน-เมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ lithium-ion ความจุ 17.8 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Active AWD ให้ระยะทางสูงสุดในโหมด EV ที่ 48 กิโลเมตร
