Mitsubishi TRITON Black EDITION รุ่นพิเศษ ปรับใหม่ 184 แรงม้า เปิดขายในไทย 1.02 ล้านบาท
Mitsubishi TRITON Black EDITION รุ่นพิเศษ ปรับใหม่ 184 แรงม้า เปิดขายในไทย 1.02 ล้านบาท

ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เผยโฉม Mitsubishi TRITON Black EDITION รุ่นพิเศษ ที่เป็นการปรับโฉมมาจาก Mitsubishi Triton Double Cab Plus Ultra เกียร์อัตโนมัติ โดยมีจำนวนจำกัด มาพร้อมสีตัวถังสีเทา Graphite Gray และสีขาว White Diamond โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 1,027,000 บาท 

ซึ่งการปรับโฉมใหม่ในครั้งนี้ มาพร้อมความหล่อเข้มเต็มพิกัดด้วยชุดแต่งสีดำรอบคัน สะท้อนนิยามแห่งความสปอร์ต เห็นชัดถึงความแข็งแกร่งทรงพลัง ตามแบบฉบับรถกระบะที่ Mitsubishi ตั้งใจนำเสนอมาตลอด

โดยการออกแบบภายนอกสุดเท่ ด้วยไดนามิก ชีลด์และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา และล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว นอจกานี้ยังมีกระจกมองข้างสีดำเงา มือเปิดประตูด้านนอกสีดำเงา มือเปิดกระบะท้ายสีดำเงา หรือแม้แต่บันไดข้างตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำก็ยังให้ความดุดัน ยิ่งกันชนหลังสีดำตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำ ทำให้ดูสุขุม แข้งแกร่งอย่างลงตัว เร้าอารมณ์ให้ผู้ขับขี่ได้ถึงขีดสูงสุด

ส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ ได้รับการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบาย แต่หรูหราไปในตัว เติให้ความรู้สึกเทียบได้กับรถเอสยูวี พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน อาทิ หน้าจอขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay ที่พร้อมเชื่อมต่อแบบไร้สาย และ Android Auto และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง นอกจากนี้ Mitsubishi TRITON Black EDITION ยังมาพร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ผสานช่วงล่างใหม่และแชสซีส์เมกาเฟรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้น บอกเลยว่าการกลับมาสุดพิเศษนี้ ให้พละกำลังที่เหนือกว่าและประหยัดน้ำมันขึ้นเยอะมาก ทำให้ไร้ข้อกังวล เมื่ออต้องเดินทางไกล ไม่ว่าจะในเมืองหรือ นอกเมืองก็ตาม

นั่นคือ เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N16 Hyper Power แบบ 4 สูบ แถวเรียง ขนาด 2.4 ลิตร 2,442 ซีซี. เทอร์โบแปรผัน VG-Turbo – Intercooler กระบอกสูบ x ช่วงชัก 86.0 x 105.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.2 : 1 ให้กำลัง 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง

ช่วงล่าง แพลตฟอร์ม MEGA Frame ฐานล้อกว่า 3,130 มม. โครงสร้างเหล็กแรงดึงสูง ในขณะที่ช่วงล่างหน้าเป็นแบบปีกนกอิสระ 2 ชั้น และ ช่วงล่างหลัง แนบแผ่นซ้อน ดิสก์เบรกหน้า พร้อมครีบระบายความร้อน ดรัมเบรกหลัง มาพร้อมพวงมาลัยแบบ แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ไม่ว่าจะเป็น

-ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว

-ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา

-ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน

-ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด

- กล้องมองภาพรอบคัน

-ระบบตรวจจับและแจ้งเตือนวัตถุหรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง