เมื่อปี 2022 วินฟาสต์ประกาศว่าจะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรีในสหรัฐฯ และตั้งเป้าว่าจะผลิตรถยนต์ได้ถึงปีละ 150,000 คัน โดยอาศัยมาตรการอุดหนุนของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ให้แก่ผู้ผลิตรถไฟฟ้าในอเมริกา และกำหนดการณ์ก็คือ มีแผนจะสร้างโรงงานเสร็จในช่วงกลางปีนี้ แต่สุดท้ายก็ได้เลื่อนการก่อสร้างออกไปจนถึงปี 2025 ในขณะที่ตอนนี้ก็มีแนวโน้มว่าจะเลื่อนอีกครั้งด้วยเช่นกัน

ล่าสุด VinFast ได้ออกมประกาศอย่างเป้นทางการ ว่าแพลนการสร้างงโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรีในรัฐนอร์ธแคโรไลนานั้น จะเลื่อนออกไป 3 ปี ตามที่มีการคาดการณ์จริง แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางการรัฐนอร์ธแคโรไลนาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ กับ สำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า กระบวนการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานวินฟาสต์ยังคงอยู่ในการพิจารณาของเจ้าหน้าที่

ซึ่งการประกาศเลือนออกไปถึง 3 ปีดังกล่าว เนื่องจากว่า VinFast ไม่สสามารถสร้างยอดขายตามเป้าที่ตั้งไว้ได้ แถมในช่วงที่ผ่านมา ยอดขายก็ตกต่ำลงอย่างมาก ในขณะที่ปีที่แล้ว วินฟาสต์ขายรถยนต์ในตลาดอเมริกาเหนือได้ไม่ถึง 1,000 คัน และยังต้องเผชิญกับการฟ้องร้องกรณีค้างค่าเช่าโชว์รูมรถยนต์แห่งหนึ่ง นอกจากนี้ ทางบริษัทกำลังถูกตรวจสอบเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ในรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีผู้เสียชีวิต 4 รายเมื่อเดือนเมษายน โดยมีรถวินฟาสต์ วีเอฟ 8 เป็นคู่กรณี และข้อกล่าวหาว่าทางบริษัทละเมิดสิทธิบัตรในการใช้อะลูมิเนียมประกอบรถยนต์รุ่นเดียวกันนี้

ปัจจุบัน วินฟาสต์มีโรงงานผลิตรถยนต์ทางเหนือของเวียดนาม มีกำลังการผลิต 300,000 คันต่อปี แต่กลับขายได้ไม่ถึง 35,000 คันทั่วโลกเมื่อปีที่ปล้ว ส่วนใหญ่ขายในตลาดเวียดนามเอง และมียอดขาดทุนสะสม 2,400 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ วินฟาสต์เพิ่งขายรถยนต์ไปได้ไม่ถึง 10,000 คัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นเป้าที่ต่ำกว่าที่วางไว้เยอะมากทีเดียว ซึ่งเป้าก็คือปีละ 100,000 คันทั่วโลก แต่อย่างไรทางบริษัทยืนยันว่าจะไม่ปรับเป้าหมายลงแต่อย่างใด