Honda (ฮอนด้า) เปิดตัว Honda Civic Type R (FL5) (ฮอนด้า ซีวิค ไทป์ อาร์) ใหม่ ครั้งแรกในไทยที่บริษัท Honda จำหน่ายเอง ในงาน Motor Show 2023 (มอเตอร์โชว์ 2023) ราคา 3,990,000 บาท

ตัวรถภายนอกมาพร้อมความสปอร์ตเต็มพิกัด ชุดไฟหน้าและไฟ Daytime Running Light แบบ LED พร้อมล้ออัลลอย 19 นิ้ว และชุดท่อไอเสียแบบ Center Triple พร้อมปลอกท่อไอเสีย

รวมไปถึง Front Fender Outlet บังโคลนหน้าดีไซน์ให้มีช่องระบายอากาศ ช่วยระบายแรงดันออกทางด้านข้าง Gloss Black Front Spoiler ขอบของสปอยเลอร์หน้า ทั้งด้านซ้าย-ขวา ออกแบบให้ควบคุมการไหลของลม เสริมแรงกด Downforce และกระจังหน้าส่วนล่างที่เป็นตาข่าย ช่วยดึงลมเข้าจุดศูนย์กลางและช่วยลดค่าแรงเสียดทาน

Gloss Black Rear Diffuser ด้านล่างของ Rear Diffuser ออกแบบให้ลาดลึกลงไปถึงล้อหลัง ช่วยสร้างแรงกด Downforce รวมทั้งรูปทรงและตำแหน่งของครีบช่วยเรื่องการทรงตัว และรูปทรงของ Diffuser ในส่วนที่อยู่ใกล้กับล้อ ช่วยลดแรงดันที่เกิดขึ้นภายในซุ้มล้อหลัง

รวมถึง Gloss Black Rear Spoiler รูปทรงและมุมของสปอยเลอร์ผ่านการทดสอบอย่างละเอียด เพื่อให้ได้สมรรถนะทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีเยี่ยม ฐานยึดเป็นอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปน้ำหนักเบา ไม่เพียงให้ลุคสปอร์ต แต่ยังสร้างแรงกด Downforce ที่ทรงพลัง และช่วยลดแรงต้านอากาศ (Drag) ให้ต่ำลง เพื่อให้รถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ดีขึ้น

ห้องโดยสารภายใน ตอกย้ำความสปอร์ตด้วยสีภายใน แดง/ดำ เบาะนั่งสปอร์ตแบบ Type R พวงมาลัยหุ้มหนังกลับแบบ Type R คอนโซลกลางและหัวเกียร์ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียม และ Serial Number Plate หมายเลขที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนป้าย Type R

ใช้มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto 

ระบบแอร์อัตโนมัติปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา, ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) พร้อม Honda Smart Key Card, ระบบเชื่อมต่อ Honda LogR, ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) 

มอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุก เร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC TURBO ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ที่พัฒนามาโดยเฉพาะ ให้แรงม้าสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ทำงานร่วมกับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด สัมผัสความรู้สึกอัตราเร่งได้ทันที และให้อัตราเร่งต่อเนื่องถึงช่วงความเร็วรอบสูง

เติมความสนุกในทุกสถานการณ์การขับขี่ เพียงเลือก Drive mode เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการขับขี่ได้ทันที นอกเหนือจาก 3 โหมดมาตรฐานแล้ว ยังมีโหมด Individual ที่ผู้ขับสามารถตั้งค่าการขับขี่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเร้าใจในสไตล์ของตนเอง 

- + R Mode
- Sport Mode
- Comfort Mode
- Individual Mode

และมั่นใจในทุกการขับขี่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) สีแดงแรลลี่ พร้อมสีใหม่ สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิง (มุก)

ซึ่ง Honda เปิดจองสิทธิ์ผ่านออนไลน์เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ในจำนวนจำกัด และก็มีผู้จองสิทธิ์จนหมดแล้วครับ นับได้ว่าเป็นกระแสที่มาแรงจริงๆ อีกทั้งยังมีราคาจำหน่ายที่ถูกกว่าผู้นำเข้าอิสระด้วยครับ