Jeep (จี๊ป ประเทศไทย) เปิดตัว All-New Jeep Grand Cherokee Summit Reserve 4xe Plug-In Hybrid (ออล-นิว แกรนด์ เชอเรอกี รุ่น ซัมมิท รีเซิร์ฟ โฟว์ บาย อี ปลั๊ก-อินไฮบริด) โฉมใหม่ของรถพรีเมียม SUV อเนกประสงค์ ที่ทำตลาดโลกมานานกว่า 30 ปี 

โดยได้รับการยกย่องให้เป็น SUV ที่ได้รับรางวัลเป็นจำนวนมากที่สุด (The Most Awarded SUV Ever) อาทิ เอสยูวีขนาดกลางยอดเยี่ยมประจำปี 2566 จากสมาคมสื่อมวลชนสายยานยนต์ของ New England (2023 NEMPA Best in Class Mid-Size SUV), ยนตรกรรมที่มีความปลอดภัยมากสุดประจำปี 2566 จาก Insurance Institute for Highway Safety (2023 IIHS TOP SAFETY PICK+), ยนตรกรรมยอดนิยมแห่งชาติ 20 ปีซ้อน (Most Patriotic Brand for 20 Consucutive Years) 

รวมถึงรางวัล 2022 Best Two-Row SUV, 2022 IntelliChoice Best Overall Value Winner, 2022 IntelliChoice Lowest Cost of Ownership Winner และ 2022 IntelliChoice Multiple Smart Choice Winner และทันสมัยด้วยการใช้ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ครองใจผู้ชื่นชอบยนตรกรรมพันธุ์แกร่งสัญชาติอเมริกันอย่างต่อเนื่อง

จี๊ป ได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์ระดับไอคอน กับประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 83 ปี สะท้อนความอิสระเสรีแบบอเมริกัน และเคยมีส่วนร่วมในหลายเหตุการณ์สำคัญของโลก

รูปลักษณ์ภายนอกออกแบบใหม่ งามสง่า หรูหรา และโดดเด่น กับสีสันแบบทูโทน หลังคาสีดำเงา ตัดกันกับสีรถอย่างลงตัว กระจังหน้าแบบ 7 ช่อง ตกแต่งด้วยโครเมียม เอกลักษณ์ของรถยนต์ จี๊ป ติดตั้งไฟหน้าอัตโนมัติแบบ LED โลโก้สัญลักษณ์รอบคันล้อมกรอบด้วยสีฟ้า บ่งบอกถึงการเป็นยนตรกรรมไฟฟ้า ปิดท้ายความอลังการด้วยท่อไอเสียแบบคู่ และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายใน ได้รับการยกย่องให้เป็นห้องโดยสารที่หรูหรามากสุด เทียบกับรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ผ่านการตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เบาะคู่หน้าหุ้มหนังแท้ Fine Grain คุณภาพสูง Palermo Nappa (ปาแลร์โม นับปา) ปรับไฟฟ้า 12 ตำแหน่ง พร้อมระบบเป่าลมและนวดแผ่นหลัง ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยลายไม้วอลนัท กระจกรอบคันแบบพิเศษ ช่วยลดเสียงรบกวน 

ด้านหน้าผู้ขับติดตั้งหน้าจอแสดงผลอเนกประสงค์แบบ TFT (Thin Film Transistor) ขนาด 10.25 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD พร้อมระบบ Head-Up Display แสดงข้อมูลบนกระจกหน้า 

ขณะที่บริเวณกลางแดชบอร์ดเป็นหน้าจอ Touch-Screen ขนาด 10.1 นิ้ว ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ "Uconnect 5" รองรับ Android Auto และ Apple Car Play พร้อมเพลิดเพลินกับ "McIntosh" เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ 19 ลำโพง นอกจากนั้นยังมีหลังคา Dual-Pane Panoramic Sunroof ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย พร้อมระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน

ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ กับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Turbo ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ทำได้ 381 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 637 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และสามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้เป็นระยะทางสูงสุด 37 กิโลเมตร

พร้อมนำผู้โดยสารสู่จุดหมายอย่างสะดวกสบายทุกสภาพเส้นทาง ด้วยระบบช่วงล่างถุงลม Quadra Lift (คอดดร้า ลิฟท์) และ Semi-Active Damping ปรับความสูงอัตโนมัติ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quadra Trac II (คอดดร้า แทรก ทู), Selec-Terrain (ซีเล็ก-เทอร์เรน) ที่มากับ 5 โหมดการขับ คือ Auto, Snow, Sand, Mud และ Rock รวมถึงระบบเฟืองท้ายขับเคลื่อนล้อหลังแบบไฟฟ้า (Electronic Limited Slip Differential Rear Axle) 

พร้อมสำหรับการผจญภัยในแบบออฟ-โรด อุ่นใจไปกับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และหัวเข่า ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจนถึงหยุดนิ่ง ระบบเบรกไฟฟ้า Hold ‘n Go กล้องแสดงมุมมองด้านหน้าและรอบคัน พร้อมโหมดแสดงภาพในที่มืด (Night Vision) และกระจกมองหลังดิจิทัล ปรับลดแสงอัตโนมัติ

พิเศษ สำหรับผู้ที่จองสิทธิ์ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 ธันวาคม รับบัตรกำนัลห้องพัก 3 วัน 2 คืน ณ อินเตอร์ คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท และลำโพง Wireless Loudspeaker จาก McIntosh รวมมูลค่ากว่า 90,000 บาท

พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์ในงาน Motor Expo 2023 วันที่ 30 พ.ย. - 11 ธ.ค. นี้ โดยมีกำหนดส่งมอบรถยนต์ช่วงต้นไตรมาสที่สอง ปี 2567