อินโดนีเซีย ได้ฤกษ์เปิดรถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศอินโดนีเซีย ที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงจาการ์ตา เมืองหลวง ไปยังเมืองบันดุง เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ที่จังหวัดชวาตะวันตก ระยะทาง 142 กิโลเมตร ในวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคมนี้ โดยมีประธานาธิบดี Joko Widodo (โจโก วิโดโด) ของอินโดนีเซีย ร่วมในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
โครงการรถไฟความเร็วสูงสายแรกของอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของโจโก วิโดโด และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
ในตอนแรกตั้งเป้าแล้วเสร็จช่วงปี 2019 แต่การก่อสร้างต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากปัญหาการจัดซื้อที่ดิน การระบาดของโรคโควิด-19 และต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวในพิธีเปิดรถไฟความเร็วสูง หรือ รถไฟหัวกระสุน ที่ถูกเรียกว่า "Whoosh" (วูช) โดยเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาจากแรงบันดาลใจของเสียงของรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งเร็ว และยังเป็นอักษรย่อมาจากชื่อเต็มว่า "Waktu Hemat, Operasi Optimal, Sistem Handal" ซึ่งแปลว่า "ประหยัดเวลา บริการเต็มศักยภาพ ระบบที่พึ่งพาได้"
สำหรับชุดขบวนรถจะมีที่นั่งโดยสาร 3 ประเภท ได้แก่ ชั้น 1 ชั้น 2 และ VIP โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไวไฟ และจุดชาร์จ USB จุผู้โดยสารได้ 601 คน โดยทำความเร็วได้สูงสุดถึง 350 กม./ชม. ย่นระยะเวลาในการเดินทางระหว่างกรุงจาการ์ตากับเมืองบันดุง จาก 3 ชั่วโมง เหลือแค่เพียง 45 นาที
ด้านนาย Luhut Pandjaitan (ลูฮัต ปันด์ไจตัน) รัฐมนตรีอาวุโสผู้กำกับดูแลโครงการนี้ กล่าวว่า การทดลองวิ่งรถไฟความเร็วสูงที่ให้บริการฟรี เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกันยายน จะถูกขยายออกไป โดยราคาตั๋วโดยสารจะกำหนดใช้ในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2023 นี้ แต่คาดว่าจะอยู่ที่ 590 - 830 บาท ในแบบเที่ยวเดียว
นอกจากนี้ ขบวนรถไฟยังปรับปรุงให้เหมาะกับสภาพอากาศเขตร้อนของอินโดนีเซีย ที่มีระบบรองรับกับการเกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม รวมทั้งสถานการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ ด้วย
โดยหลังจากนี้อาจขยายเส้นทางไปถึงสุราบายา และมีแผนเพิ่มจุดจอดรถในเมืองหลักๆ เช่น เซมารัง และยอร์กยาการ์ตา ในอนาคตอีกด้วย
แหล่งที่มาจาก
- CNN
- BBC Thai