
ล่าสุด! เจ้าของอู่รถ ประเมิน-ตรวจสภาพกระบะลุงป้าค่าซ่อม 4-5 แสน แนะซื้อใหม่ดีกว่าซ่อม
เมื่อเวลา 14.30 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เดินทาง ไปที่ สภ. ลำลูกกา พร้อมกับพา คุณใหญ่ V10garage เจ้าของอู่ซ่อมรถหรู ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ เข้ามาช่วยประเมินรถของคุณลุงที่ถูกรถ BMW ชน เปิดเผยว่า จากการประเมินความเสียหาย พบว่า โครงสร้างรถคันนี้เป็นเหล็กจึงมีการยืดตัว ซึ่งโครงสร้างเป็นลักษณะตะเกียบคู่ เวลาชนทำให้โครงสร้างเบี้ยว วิธีการซ่อมต้องเปลี่ยนคัสซี นั่นหมายความว่า ต้องมีการเปลี่ยนเลขตัวถัง อาจใช้งานได้ดีแต่สามารถขายต่อได้ลำบาก จากการประเมินราคาเบื้องต้น เฉพาะอะไหล่ อยู่ที่ 290,000 บาท ไม่รวมค่าแรง และการซ้อมส่วนอื่นๆของรถที่เสียหาย มองว่าถ้าเกิดซ่อมเบ็ดเสร็จราคาจะอยู่ที่ 400,000-500,000 บาท
ส่วนของตัวเองที่มีประสบการณ์มองว่า การซ่อมเคสนี้ค่อนข้างยาก เพราะไปชนโดนโครงสร้างหลักของรถยนต์ เมื่อซ่อมแล้วคัสซีอาจจะยังเบี้ยวอยู่ ส่วนของการซ่อมโดยทั่วไปหากใช้ประกันรถจะต้องกลับไปซ่อมที่ศูนย์ในเครือ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีอะไหล่ที่ตรงสเป็ค ใช้การตัดต่อเหล็ก แท่นดึงระดับน้ำธรรมดาที่มีสายยางเส้นเดียว ซึ่งมองว่าจะเอาชีวิตของคนไปผูกกับสายยางเส้นเดียวได้ยังไง เคสนี้ต้องอยู่ที่ กัน จอมพลัง ด้วยว่าช่วยเหลือเยียวยาอย่างไร แต่ส่วนของของตนเองไม่แนะนำให้ซ่อม ซื้อใหม่ดีกว่า เมื่อถามว่า ตามกระบวนการสามารถตีขายซาก แล้วซื้อรถคันใหม่ได้หรือไม่ ทางช่างบอกว่า ทำไม่ได้ ที่ผ่านมาลักษณะของบริษัทประกันมัก “จ่ายช้า จ่ายยาก หรือไม่จ่ายเลย” ตามกระบวนการประกัน จะอนุมัติผลภายใน 15 วัน แต่ที่ผ่านมาบริษัทเหล่านี้มักหลอกลูกค้า ดึงเวลาไปเรื่อยๆ ซึ่งเคสนี้อาจเป็นไปได้ว่า บริษัทประกันจะดึงเวลาโดยอ้างว่าคดียังไม่แล้วเสร็จ จึงมองว่าอย่างน้อยระยะเวลาในการซ่อมจะยืดไป 4-5 เดือน ด้าน กัน จอมพลัง บอกว่า เบื้องต้นทราบมาว่า ทางครอบครัวกังวลเรื่องการซ่อมและซื้อรถคันใหม่หากหลังจากนี้ไม่มีการเยียวยาช่วยเหลือใดใด ทางมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ติดต่อขอเป็นเจ้าภาพ โดยมีวงเงินช่วยเกี่ยวกับการซื้อรถยนต์ประมาณ 300,000 บาท หลังจากตัวแทนบริษัทประกันของรถ BMW เข้ามาพูดคุยกับ พนักงานสอบสวน สภ. ลำลูกกา บอกว่า ตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา พีช ซึ่งเป็นคดีอาญาไม่ใช่อุบัติเหตุ จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้รถผู้เอาประกันและรถคู่กรณี ซึ่งเอกสารทั้งหมดได้มอบหมายให้ทางตำรวจแล้ว ซึ่งระบุชัดเจนว่า กรณีนี้อยู่ในหมวดหมู่ของข้อยกเว้นไม่เข้าข่ายที่จะต้องจ่ายเคลมประกัน ซึ่งหลังจากนี้ ทางบริษัทประกันจะออกหนังสือให้ เจ้าของรถ BMW ผู้รับประกัน รวมถึงรถของผู้เสียหาย เพื่อชี้แจงเหตุผลที่ไม่จ่ายประกัน เมื่อถามเรื่องก่อนเวลาว่าจะส่งหนังสือชี้แจงรายละเอียดเมื่อไหร่ ทางตัวแทนบอกเพียงว่าจะเร่งดำเนินการทันที (เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568)
พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สภ.ลำลูกกา เปิดเผยว่า รถคันนี้เป็นรถของผู้เสียหาย เรานำมาเปรียบเทียบกับรถบีเอ็มซึ่งเป็นรถของกลาง ซึ่งบีเอ็มเราต้องยึดไว้จนกว่าศาลจะมีคำสั่ง แต่รถผู้เสียหายเมื่อตรวจสภาพร่องรอยการเฉี่ยวชนกับรถบีเอ็มเรียบร้อยแล้ว สามารถส่งคืนให้กับผู้ถือกรรมสิทธิ์ได้เลย
ด้านกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้เรามาหาทางออกให้กับทางครอบครัววันนี้จะยังไงไม่รู้ แต่รถต้องได้ซ่อม เพราะครอบครัวต้องใช้ ในบ้านมีรถคันเดียว เหลือเพียงไปจ่ายค่าปรับที่ทางหลวง ซึ่งทางหลวงก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร รอให้คุณตาหายดีก่อนค่อยมาชำระค่าปรับก็ได้
ส่วนรถก็สามารถนำออกไปในการซ่อมได้แล้ว วันนี้กำลังหาอยู่ว่าใครจะมาเป็นเจ้าภาพในการซ่อม แต่เบื้องต้นได้คุยกับทาง ผกก.สภ.ลำลูกกา จะขอในการประสานประกันภัยของคู่กรณีมาดูกันว่ารถคันนี้จะสามารถซ่อมมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ ซ่อมแล้วคุ้มไหม หรือซื้อใหม่คุ้มกว่า จากที่อู่มาตรวจสอบประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ 4 แสน ราคารถมือสองก็อยู่ประมาณ 4 แสน ต้องวัดกันแล้วว่าเราไปหารถใหม่ที่ไม่เคยชนมาจะดีกว่าไหม หรือจะเอารถที่ชนมาซ่อม ทางญาติก็มีความกังวลอยู่ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อรถใหม่
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ สมมุติไม่มีการเยียวยาหรือช่วยเหลือทางมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่าติดต่อช่วยเหลือมาแล้ว มีวงเงินอยู่ที่ 3 แสนกว่าบาท ตนเองก็อยากให้เรื่องนี้มันจบโดยที่ครอบครัวได้รับความช่วยเหลือ เราเน้นแก้ปัญหาช่วยเคสและจบเคส