เปิดสภาพเฟอร์รารี่ 34 ล้านเหลือแต่ซาก ล่าสุด พ่อคนขับเฟอร์รารี่พาลูกให้ปากคำ อ้างกระบะปาดหน้า

จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ มีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ใกล้เคียงซอยบรมราชชนนี 76 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงกู้ภัยทวีวัฒนา พร้อมรถน้ำ 3 คัน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นช่องทางด่วน (ขาเข้า) มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน เพลิงลุกไหม้ 2 คัน เจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีดประมาณ 20 นาทีเพลิงสงบลง เผาวอดทั้ง 2 คัน เป็นรถซุปเปอร์คาร์ ยี่ห้อเฟอร์รารี่ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง และรถเก๋งเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 23 เมษายนนั้น

ล่าสุด วันที่ 23 เมษายน 2568 พ.ต.อ.บุญโรจน์ โลจายะ ผกก.สน.ธรรมศาลา เปิดเผยเหตุการณ์รถเฟอร์รารี่ รถเบนซ์ และรถกระบะ พุ่งชนกัน ก่อนเฟอร์รารี่และเบนซ์ไฟไหม้ว่า ภายหลังพนักงานสอบสวนร้อยเวรได้รับแจ้งเหตุเมื่อช่วงประมาณ 2.00 น. จึงได้รีบเดินทางไปที่เกิดเหตุทันที

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 23 เม.ย.68 จากการสอบสวนทราบว่า หลังจากตำรวจรับแจ้งและไปที่เกิดเหตุ พบว่ารถทั้ง 3 คันได้รับความเสียหาย จากการสอบถามคนขับรถกระบะเบื้องต้นให้การว่า ขับรถอยู่ในช่องทางขวาตามปกติ จู่ๆ มีรถมาชนจนเสียหลักตะแคงพลิกคว่ำ ส่วนคนขับรถเฟอร์รารี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ขณะนี้กำลังประสานขอกล้องวงจรปิดไปที่ กทม. เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ รวมทั้งตรวจสอบหาเจ้าของรถเฟอร์รารี่ และเจ้าของรถเบนซ์มาสอบปากคำ เพื่อเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายต่อไป

ต่อมานายกมล อายุ 55 ปี พาบุตรชาย คือ น้องเฟียส อายุ 22 ปี คนขับรถเฟอร์รารี่ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ธรรมศาลา หลังจากเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล

นายกมล กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากลูกชายว่า เมื่อเวลาตี 2 ขณะเกิดเหตุลูกชายกำลังขับรถกลับบ้านพัก ย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังจากไปส่งแฟนที่บ้าน ขณะขับอยู่ในเลนขวาสุด มีรถกระบะขับมาปาดหน้า ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนท้ายรถกระบะจนรถกระบะหมุนไปฟาดกับรถเบนซ์ที่ขับตามหลังมา จากนั้นรถของลูกชายไปชนกับรถเบนซ์อีกครั้ง จนเป็นเหตุให้รถเกิดไฟลุกไหม้

“ลูกชายและคนขับรถเบนซ์จึงหนีออกมาจากตัวรถ จากนั้นพูดคุยกันเบื้องต้น และต่างขอตัวแยกย้ายไปโรงพยาบาล เนื่องจากลูกชายมีอาการแน่นที่หน้าอกจากการกระแทก รถคันนี้ซื้อมาในราคา 34 ล้านบาท จดทะเบียนเมื่อปี 2022 จดทะเบียนในนาม ภรรยาของผม ทุนประกันอยู่ที่ 24 ล้านบาท”

นายกมล กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนจะคอยตักเตือนลูกชายตลอดว่า ให้ขับรถด้วยความไม่ประมาทและระมัดระวัง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โชคดีไม่มีผู้ใดเจ็บหนักหรือเสียชีวิต เป็นคดีอุบัติเหตุ พนักงานสอบสวนจึงนัดให้มาพูดคุยกับคู่กรณี เพื่อสอบปากคำหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ หากตนเป็นฝ่ายผิดก็ยินดีที่จะรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้ทางพนักงานสอบเป็นผู้ดำเนินการ

โดยทาง พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอให้ทางคู่กรณีทั้งหมดเดินทางเข้ามาพูดคุยเพื่อสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งต่อไป