แฉมาสด้าแดง วีรกรรมฉ่ำ แห่ขุดพบเป็นนักธุรกิจ ล่าสุด คนขับ บิ๊กไบค์ คู่กรณี จ่อแจ้งความ ข้อหาพยายามฆ่า
แฉมาสด้าแดง วีรกรรมฉ่ำ แห่ขุดพบเป็นนักธุรกิจ ล่าสุด คนขับ บิ๊กไบค์ คู่กรณี จ่อแจ้งความ ข้อหาพยายามฆ่า

แฉมาสด้าแดง วีรกรรมฉ่ำ แห่ขุดพบเป็นนักธุรกิจ ล่าสุด คนขับ บิ๊กไบค์ คู่กรณี จ่อแจ้งความ ข้อหาพยายามฆ่า

คนขับ บิ๊กไบค์ คู่กรณี เก๋งแดง เฉี่ยวบนถนน เล่านาทีเกิดเหตุ จ่อแจ้ง ความพยายามฆ่า จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปจากกล้องหน้ารถ เผยเหตุการณ์รถยนต์เฉี่ยวรถจักรยานยนต์ ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้าไปตั้งคำถามกับรถเก๋งแดง คันดังกล่าว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม  นายจินตการ อายุ 49 ปี คนขับมอเตอร์ไซค์คู่กรณีเก๋งแดง ได้เดินทางไปพบกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อร้องขอความเป็นธรรม พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ที่เกิดโดยระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 8 โมงเช้า ขณะที่ตนวิ่งเส้นถนนราชพฤกษ์ขาออกมุ่งหน้าไปยังท่าอิฐปากเกร็ด

เมื่อมาถึงบริเวณใต้ทางต่างระดับ ได้ยินเสียงบีบแตรดังมาจากข้างหลังและรถยนต์คันก่อเหตุก็เฉี่ยวชนรถของตนทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไวมาก โชคดีที่วันนั้นตนสามารถประคองรถเอาไว้ได้เลยทำให้รถไม่ล้มแต่ก็เซเล็กน้อย

จากนั้นก็จอดเพื่อพูดคุยเคลียร์กัน รถผู้ก่อเหตุกระจกข้างด้านซ้ายของรถแตก ส่วนรถของตนนั้นมีรอยถลอกบริเวณแฮนด์ด้านขวาเล็กน้อย ตนก็ได้ตำหนิคนขับรถคันก่อเหตุไปว่า ทำไมขับรถมาเร็วแบบนี้ มันอันตราย แต่ฝั่งคนขับรถคันก่อเหตุได้พูดอ้างกับตนว่า

ฝั่งเขาอยู่เลนขวาและได้บีบแตรแล้วแต่ทำไมถึงไม่ยอมหลบ ซึ่งตนก็คิดในใจว่า จังหวะนั้นมันหลบไม่ทัน เพราะบีบแตรแบบกระชั้นชิดมาก แต่ตนก็เลือกที่จะเงียบและไม่พูดจาอะไร เนื่องจากรู้สึกเอือมระอา โต้เถียงไปก็เท่านั้นและต้องรีบไปทำงาน ฝั่งนู้นจึงได้ถ่ายใบขับขี่ของตนและเรียกประกัน ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันตอนแรกตนก็รู้สึกให้เรื่องมันจบไป เลยปล่อยให้เป็นเรื่องของทางประกันเป็นผู้เคลียร์

ภาพจาก X @RedSkullxxx 

แต่พอเห็นคลิปหน้ารถของคันก่อเหตุก็เห็นว่า ฝั่งผู้ก่อเหตุนั้นขับมาด้วยความเร็วอย่างมาก ไม่มีการชะลอความเร็ว เลยทำให้ตนรู้สึกตกใจ เพราะมองว่าคนขับรถคันก่อเหตุนั้นไม่คิดที่จะยับยั้งลดความเร็วเพื่อจะบีบแตรเตือน ไม่ทราบว่ามีเจตนาถึงแก่ชีวิตหรือไม่ แต่เชื่อได้แน่นอนว่า คนขับรถคันก่อเหตุนั้นไม่คำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยบนท้องถนนและเพื่อนร่วมทาง รวมทั้งไม่ระมัดระวังถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น

นายจินตการยังเล่าต่อว่า สาเหตุที่ต้องขับรถเลนขวา เพราะเนื่องจากเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่และต้องทำรอบความเร็วสูง ส่วนตัวเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยและตนเองก็เป็นคนใจเย็น ไม่ชอบมีเรื่องกับใคร อยากให้มันจบๆ แต่รู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น ทำไมต้องทำรุนแรงถึงขนาดนี้ ตนเตรียมที่จะเอาผิดทางกฎหมายกับคนขับรถคันก่อเหตุ  ส่วนถ้าคนขับรถติดต่อจะมาพูดคุยอย่างไรนั้น ตนมองว่าให้เป็นเรื่องของอนาคตและให้ปล่อยไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Survive - สายไหมต้องรอด

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นไม่ใช่เพียงแค่คนสองคน แต่มันหมายถึงชีวิตของผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งหมดทุกคน เนื่องจากพฤติกรรมของคนขับรถคันก่อเหตุนั้น พบว่าโพสต์คลิปในลักษณะขับรถเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์หลายครั้ง จึงถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นและถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างมาก

โดยหลังจากนี้จะดำเนินการพาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง เพื่อให้เรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและดำเนินการสอบสวนต่อไปว่า คนขับรถคันก่อเหตุนั้นมีเจตนาอะไร แต่จากการวิเคราะห์มองได้ว่าคนขับรถคันก่อเหตุมีเจตนาร้ายแรงให้ถึงแก่ชีวิต ดังนั้น ในเบื้องต้นจะแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดฐานพยายามฆ่า ซึ่งถือเป็นอาญาแผ่นดิน ต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและให้เป็นคดีบรรทัดฐาน มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่คนขับรถคันก่อเหตุโพสต์รูปอาวุธปืนเอาไว้ด้วย เรื่องดังกล่าวตนจะแจ้งกับพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกันเพื่อตรวจสอบว่า ปืนดังกล่าวเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม หากเป็นปืนจริง แล้วปืนดังกล่าวนั้นมีใบอนุญาตหรือไม่ เพราะเนื่องจากตอนนี้กระทรวงมหาดไทยออกกฎห้ามพกพาอาวุธปืนแล้ว มองว่าถ้าเขาพกพาอาวุธปืนขณะขับขี่รถยนต์ในที่สาธารณะนั้น

นอกจากจะเข้าข่ายความผิดฐานพกพาอาวุธปืนไปที่สาธารณะแล้ว อาจเสี่ยงอันตรายกับบุคคลอื่นด้วยหรือไม่ หากเกิดการเฉี่ยวชนและเขาใช้อาวุธปืนขึ้นมา ต่อให้ผู้ก่อเหตุปิดเพจหนีไปแล้ว แต่เชื่อแน่นอนว่า โซเชียลมีเดียได้มีการแคปพยานหลักฐานเอาไว้อย่างครบถ้วนแล้วแน่นอน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง