ประธานโตโยต้า ชี้เตือน ถ้า‘รถอีวี’ ครองตลาด จะมีคนตกงาน 5 ล้านคน
นายอากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่มหาวิทยาลัยนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 กล่าวว่า ถ้ายานพาหนะเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้าได้กลายเป็นทางเลือกเดียวสำหรับค่ายรถยนต์ รวมถึงเครือข่ายผู้ผลิตซัพพลายเออร์ของโตโยต้า คนเหล่านั้นจะสูญเสียงานทั้งหมด ทุกวันนี้ มีพนักงานมากถึง 5.5 ล้านคนในญี่ปุ่นที่ทำงานเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น ในจำนวนนี้มีคนจำนวนมากที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์มาเป็นเวลานาน
โตโยต้า มอเตอร์ เป็นค่ายผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ยอดขายทั่วโลก ได้ประกาศนโยบายและการสนับสนุนที่ชัดเจนด้วยแนวคิดที่เรียกว่ามัลติ-พาธเวย์ หรือหมายถึงแนวทางในการมุ่งหน้าสู่ การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในอนาคตด้วยกลยุทธ์ การผลิตยานยนต์ที่มีหลากหลายรูปแบบเครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์ไฮบริด ยานยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า ยานยนต์พลังงานเซลล์ไฮโดรเจน และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานด้านระบบราง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมกราคม 2567 โตโยต้า มอเตอร์เปิดเผยว่า สัดส่วนของรถอีวีหรือรถยนต์พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าจะมีได้มากสุดเพียงแค่ 30% ของตลาดรถยนต์ทั่วโลก ในขณะที่เหลืออีก 70% จะประกอบไปด้วยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ยานยนต์พลังงานเซลล์ไฮโดรเจน
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่าได้เลื่อนการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี ในทวีปอเมริกาเหนือออกไปเป็นช่วงครึ่งแรกของปี 2026 สาเหตุจากยอดขายรถอีวีในตลาดรถยนต์หลักชะลอตัวต่อเนื่อง
โดยก่อนหน้านั้น โตโยต้า มอเตอร์ เตรียมแผนจะเริ่มประกอบรถอีวีประเภทเอนกประสงค์ มีที่นั่ง 3 แถว ที่โรงงานในรัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกาในปี 2024 ด้วยเงินลงทุน 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 44,200 ล้านบาท แต่ในที่สุดต้องประกาศแจ้งไปยังซัพพลายเออร์ว่าจะเลื่อนออกไปอีกหลายเดือน
ทั้งนี้ โตโยต้าประกาศเป้าหมายการผลิตรถอีวีทั่วโลกไว้ที่ 1.5 ล้านคันในปี 2026 อย่างไรก็ตาม มีการปรับลดลงเหลือประมาณ 1 ล้านคัน สาเหตุจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ ชะลอตัว
ทั้งนี้ ในประเทศญี่ปุ่นมีแรงงานกว่า 5.5 ล้านคนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์มาอย่างยาวนาน โดยหากรถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกเดียว คนเหล่านนั้นอาจจะต้องตกงาน
สำหรับ Toyota ได้รับประโยชน์จากความต้องการของเทคโนโลยีไฮบริด ที่กำลังขยายตัวในตลาดต่าง ๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกา สวนทางกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกที่ชะลอตัว ซึ่งบริษัทมีกลยุทธ์ “Multi-pathways” สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไฮบริด, รถยนต์ไฮโดรเจน และเทคโนโลยีอื่น ๆ
ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โตโยดะ กล่าวไว้ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุด 30% ของตลาดรถยนต์ทั่วโลก โดยที่เหลือจะเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกชนิดอื่น ๆ
Cr. Reuters