รถยนต์จากญี่ปุ่น นับได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกนับตั้งแต่ในเวลา 60 ปีที่ผ่านมา ที่ญี่ปุ่นพยายามตีตลาดรถยนต์ของชาติอื่นทั่วโลกด้วยคุณภาพที่จับต้องได้ ความทนทาน อะไหล่และการดูแลรักษาง่าย ประหยัดน้ำมัน รวมไปถึงราคาที่ไม่แพง ทำให้รถยนต์จากญี่ปุ่นสามารถตีตลาดรถยนต์ไปได้เกือบทั่วโลก
เมื่อสื่อฯ ในญี่ปุ่นอย่าง Webcartop โดยนาย Atsushi Kobayashi ได้เขีบนบทความในเว็บไซต์ว่ารถยนต์ญี่ปุ่นยังคงมีอยู่อย่างมากมายในไทย ต่างจากในญี่ปุ่น
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะขับรถพวงมาลัยขวาเหมือนกัน ทั้งในโลกของรถใหม่ หรือโลกของรถเก่า ที่เรายังสามารถเห็นรถญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 30 ปีก่อนได้ในกรุงเทพฯ ซึ่งบนถนนในญี่ปุ่นไม่ค่อยมีให้เห็นแล้ว
และยังได้แนะนำอีกว่า มีจุดสังเกตรถเก่าๆ ได้อยู่หลายแห่งในกรุงเทพฯ โดยให้คุณลองไปยืนดูตามแยกใหญ่ๆ กรุงเทพฯ ที่มีรถพลุกพล่านเยอะๆ ดูรถที่ผ่านไปมาประมาณ 1 ชั่วโมง
จะพบว่ารถเก่าๆ ในกรุงเทพฯ ที่ยังเห็นมีวิ่งผ่านไปผ่านมาค่อนข้างบ่อยสุด จะเป็น Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ซึ่งมีบทบาทมากในฐานะแท็กซี่
สำหรับ Toyota Corolla รุ่นที่เห็นบ่อยในครั้งนี้คือ ...
- รุ่นที่ 6 (พ.ศ. 2530 - 2534)
- รุ่นที่ 7 (พ.ศ. 2534 - 2539)
- รุ่นที่ 8 (พ.ศ. 2539 - 2544)
นอกจากนี้ยังพบ
- Toyota Corona รุ่นที่ 10 (พ.ศ. 2536 - 2542)
- Toyota Crown รุ่นที่ 8 (พ.ศ. 2531 - 2536)
- Lexus ES รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2536 - 2540)
- Daihatsu Mira รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2533 - 2541)
- Honda Accord รุ่นที่ 4 (พ.ศ. 2537 - 2541)
รถที่เจอเกือบทั้งหมด สภาพเหมือนรถใช้งานปกติ แทนที่จะขับโชว์เก๋ๆ เหมือนในญี่ปุ่น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วรถยนต์ Toyota จะมีรถเก่าให้เห็นค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจเป็นเพราะความทนทาน อะไหล่หาง่าย แต่ก็เป็นแบรนด์รถญี่ปุ่นที่มียอดขายสูงสุดในไทยด้วย
นอกจากนี้ยังพบรถบรรทุก Isuzu (อีซูซุ) ที่ไม่ได้มาใช้ขับเล่นเป็นงานอดิเรก แต่เอามาใช้งานประจำจริงๆ หรือแม้แต่รถเมล์เก่าแบรนด์ญี่ปุ่น ก็ยังมีใช้งานอยู่มากมาย ในปัจจุบันเป็นรถโดยสารประจำทาง ขสมก. ที่คนไทยมักเรียกว่า "รถครีมแดง"
ความสุขอย่างหนึ่งของผู้เขียน คือการได้มาชมความงามจากรถเก่าๆ เหล่านี้ ที่ยังวิ่งใช้งานได้อยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทยนั่นเอง
แหล่งที่มาจาก
- Webcartop