นับตั้งแต่ กรมการขนส่งทางบก กระโดดลงมาคุมรถเมล์ด้วยตัวเองทุกสายแทนที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เมื่อหลายปีก่อน ก็ได้สร้างทั้งความแปลกใหม่ และความวุ่นวายไปตามๆ กัน โดยเฉพาะเลขสายรถเมล์แบบใหม่ ที่ทั้งยาวและจำยาก ทำให้คนขึ้นรถเมล์สับสน จนประชาชนและบัสแฟนต่างด่ากันฉ่ำ จนถึงปัจจุบันนี้
นับตั้งแต่กรมการขนส่งทางบก มีนโยบายปฏิรูปรถโดยสาร (รถเมล์) ประจำทางในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล รวม 269 เส้นทาง ตามนโยบาย 1 สาย 1 ผู้ประกอบการ ซึ่งก็มีทั้งคนที่ชื่นชอบที่ได้เอกชนรายใหม่ นำรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการ สะอาด ทันสมัย แต่หลายคนก็ตำหนิ เนื่องจากรถเมล์ยังมีไม่เพียงพอต่อการให้บริการ มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้น และเส้นทางที่สั้นลง ต้องเสียเวลารอต่อรถเมล์สายอื่นอีก เป็นต้น
แต่ปัญหาที่มากที่สุดในเวลานี้ คือ เลขสายรถเมล์แบบใหม่ที่ยาวและจำยาก โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 กรมการขนส่งทางบก เคยได้เชิญชวนประชาชนร่วมโหวตเลขสายรถเมล์ 2 ทางเลือก ได้แก่
1. ใช้หมายเลขเส้นทางใหม่ทั้งหมดตามแผนปฏิรูปฯ
2. เส้นทางเดิมหรือใกล้เคียงเส้นทางเดิม กลับไปใช้หมายเลขเส้นทางเดิม
สำหรับเส้นทางเดิมที่แบ่งเป็น 2 เส้นทาง หรือ 3 เส้นทาง ใช้ตัวอักษรภาษาไทยหรือตัวอักษรภาษาอังกฤษกำกับ ในส่วนของเส้นทางใหม่ที่ไม่เคยวิ่งมาก่อน กำหนดให้เป็นเลขใหม่ 3 หลัก
ผลโหวตพบว่า เลขสายใหม่ตามแผนปฏิรูป ประชาชนไม่เอาด้วยจำนวนมาก และได้ขอให้กลับไปใช้เลขสายเดิมแทน อาจไม่เป็นระบบแบบที่ขนส่งฯ ต้องการ แต่ประชาชนมีความคุ้นชิน เพราะใช้บริการเป็นประจำ และรถเมล์หลายสายให้บริการมานานนับ 50-60 ปี
ภาพจากคุณ Panchaphon Phodchararatana
ล่าสุด ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2567 พบว่า ขสมก. พยายามเปลี่ยนเลขสายรถเมล์เดิม เป็นตัวเลขสายใหม่ให้เป็นเส้นทางปฏิรูปหลายสาย ตามคำสั่งของกรมการขนส่งทางบก ทำให้คนขึ้นรถเมล์ต่างด่ากันขรม ด้าน สหภาพแรงงาน ขสมก. นัดถกสัปดาห์หน้า ก่อนยื่น รมต.คมนาคม ให้กลับมาใช้แบบเดิม ที่ประชาชนคุ้นเคย
ภาพจากคุณ อานนท์ เอก สุวรรณโน
โดยตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ขสมก. ได้เปลี่ยนเลขสายรถเมล์หลายสาย พร้อมกับยังมีรถเมล์เส้นทางเดิมวิ่งควบคู่ อาทิ
- สาย 45 สำโรง-สี่พระยา เปลี่ยนเป็นสาย 3-9E และเปลี่ยนเส้นทางเป็น หนามแดง-ท่าเรือสี่พระยา (ทางด่วน)
- สาย 59 รังสิต-สนามหลวง เปลี่ยนเป็นสาย 1-8
- สาย 129 บางเขน-สำโรง (ทางด่วน) เปลี่ยนเป็นสาย 1-14E
- สาย 134 บัวทองเคหะ-หมอชิตใหม่ เปลี่ยนเป็นสาย 2-20
- สาย 168 สวนสยาม-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปลี่ยนเป็นสาย 1-50 และเปลี่ยนเส้นทางเป็น เคหะร่มเกล้า-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย 510 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปลี่ยนเป็นสาย 1-20E
- สาย 522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน) เปลี่ยนเป็นสาย 1-22E
- สาย 543 อู่บางเขน-ตลาดลำลูกกา เปลี่ยนเป็นสาย 1-25
ด้าน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบก ได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ (TDRI) ทำแผนปฏิรูปเส้นทาง เมื่อปี 2560 โดยให้ยกเลิกการแจ้งเลขสายรถโดยสารเดิม เปลี่ยนแปลงเป็นเลขสายเส้นทางรถโดยสารแต่ละสายเป็นภาษาอังกฤษ เช่น 3-21,1-14E,1-22E ตามที่ทราบกันแล้วนั้น
สร.ขสมก. ไม่เห็นด้วย และได้คัดค้านมาโดยตลอด ในการจัดทำแผนปฏิรูปเส้นทางเดินรถโดยสารที่กำหนดการแจ้งเลขสายรถเมล์เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเป็นอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงเลขสายการเดินรถในเส้นทางต่างๆ การดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก ไม่มีการประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจให้ประชาชนได้ทราบ สร้างความสับสนในการใช้บริการของประชาชนทั่วไป ทำให้เสียเวลาเดินทาง
ดังนั้น สร.ขสมก. จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ในวันที่ 11 มกราคม 2567 เพื่อมีมติทำหนังสือถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ยกเลิกการแจ้งเลขสายรถเมล์แบบใหม่ กลับมาใช้เลขสายการเดินรถเมล์แบบเดิมที่ประชาชนคุ้นเคย เพื่อสะดวกในการเดินทาง
ภาพจากคุณ Nuttapong Naosamrarn
Siamcar ก็ไม่รู้ว่า ประชาชนคนขึ้นรถเมล์ จะต้องทนเห็นเลขสายรถเมล์พิสดารแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ ก็ได้แต่หวังว่าจะกลับมาใช้เหมือนเดิมเร็วๆ นี้ครับ
แหล่งที่มาบางส่วนจาก
- Bangkokbusclub Cafe : รวมมิตรเรื่องรถเมล์
- สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขสมก.