ในวันนี้ "สมรักษ์ คำสิงห์" หรือ นาวาตรี สมรักษ์ คำสิงห์ ร.น. อดีตนักมวยโอลิมปิค อดีตนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น และ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต 11 พรรคพลังประชารัฐ ที่สอบตกไปเมื่อเลือกตั้งครั้งล่าสุด เจ้าของฉายา "ไม่ได้โม้"
โดยล่าสุดในวันนี้ก็มีข่าวคราวอันฉาวโฉ่อีกครั้ง กับข่าวล่วงละเมิดเด็กสาวอายุ 17 กับข้อกล่าวหาคดีพรากผู้เยาว์
ซึ่งทุกคนรู้จักกับ "สมรักษ์" ในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทยคนแรกที่ได้เป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิค จากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี 2539
ซึ่งทำให้ สมรักษ์ คำสิงห์ ได้พลิกชีวิตจากนักมวยสากลที่ไม่มีใครรู้จัก มาได้ทั้งเล่นละคร TV ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆ รวมถึงได้เงินรางวัลอัดฉีดมากมายหลายสิบล้านบาท
ภาพจากคุณ Ponlapat Rerngarom
และหนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท สุโกศล มาสด้า จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Mazda (มาสด้า) ในยุคนั้น ยอมทุ่มเงินก้อนโตจ้าง สมรักษ์ คำสิงห์ ให้เป็นพรีเซ็นเตอร์รถกระบะ Mazda B2500 Fighter (มาสด้า ไฟเตอร์) ในเดือนเมษายน 2540 พร้อมกันนี้ทางบริษัท ได้มอบรถกระบะ Mazda B2500 Fighter ใส่ชุดแต่ง Mazdaspeed ทั้งคัน ให้กับ สมรักษ์ คำสิงห์ อีกหนึ่งคันด้วย
ภาพจากคุณ Ponlapat Rerngarom
สำหรับ Mazda B2500 Fighter จัดว่าเป็นรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหญ่ในช่วงปลายเจเนอเรชั่นที่ 4 ของกระบะรุ่นนี้ มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ กระบะตอนเดียว Standard Cab, กระบะแค็บ Super Cab และกระบะแค็บรุ่นหรู Luxury Cab
ภาพจาก Grand Prix
มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลรหัส WL ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 12 วาล์ว เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในรถยนต์กระบะ 1 ตัน (ในยุคนั้น) จ่ายน้ำมันด้วยระบบอินไดเร็คอินเจ็คชั่น กับระบบการทำงานของวาล์วจำนวน 3 วาล์ว/สูบ สำเร็จเป็นรายแรกของโลก
ภาพจาก Grand Prix
ส่งผลให้การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อเนื่องแม้จะใช้รอบเครื่องยนต์สูงก็ตาม ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้า ที่ 4,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ภาพจาก Grand Prix
พร้อมระบบ EMS (Engine Modification System) ที่กำหนดรูปแบบการเผาไหม้ระบบไอดีและระบบหัวฉีด ซึ่งนอกจากจะทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะการทำงานที่เป็นเยี่ยมแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ประหยัดและลดเขม่าได้อย่างสิ้นเชิง
ภาพจาก Grand Prix
โดยหลังจากนั้น รถกระบะรุ่นนี้ ก็ได้พัฒนาต่อยอดมาเรื่อยๆ จวบจนเป็นกระบะ Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) ในปัจจุบันนั่นเองครับ