Mazda (มาสด้า) ออกมาพูดถึงอนาคตของรถเปิดประทุนในตำนานของแบรนด์ Mazda MX-5 (มาสด้า MX-5) ซึ่งกำลังมีแนวคิดที่จะผลิตในเวอร์ชั่นรถยนต์ไฟฟ้าเข้าสู่ตลาด แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากแบตเตอรี่ในปัจจุบันยังมีน้ำหนักมาก ซึ่งขัดกับหลักปรัชญาการออกแบบรถสปอร์ตของมาสด้า
Kato Matsue (คาโตะ มัตสึเอะ) หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบส่งกำลังของ Mazda เปิดเผยกับ Top Gear หลังจากที่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวความเป็นไปได้ของ MX-5 EV ว่า "นั่นเป็นไปได้ เพราะตลาดหลักของ MX-5 คือ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น แม้ว่าญี่ปุ่นจะตามหลังอยู่เล็กน้อย แต่ความต้องการของตลาดกําลังเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาเรื่องนี้”
"ภายในปี 2030 ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราจะใช้พลังงานไฟฟ้า นั่นหมายความว่ารถสปอร์ตก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากแผนนั้น แต่เราก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า Mazda MX-5 จะสามารถเปิดตัวรุ่นใช้พลังงานไฟฟ้าได้เมื่อใด"
ไม่มีใครสามารถละเลยปรัชญาการพัฒนารถสปอร์ตของ Mazda ที่เรียกว่า "Jinba Ittai" (จินบะ อิไต) ที่เป็นปรัชญาการพัฒนารถสปอร์ตของมาสด้า ที่ผสานรวมผู้ขับและรถให้เป็นหนึ่งเดียว มาสด้าเริ่มใช้แนวคิดนี้ครั้งแรกเมื่อพัฒนาสปอร์ตโรดสเตอร์ Mazda MX-5
และยิ่งเป็นรถที่เน้นเรื่องของน้ำหนักเบาอย่าง Mazda MX-5 การที่ต้องติดตั้งแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักมากคือปัญหา และดูเหมือน Matsue เองจะกังวลเช่นกัน
เมื่อพิจารณาถึงระยะเวลาในการพัฒนาของเรา (จนถึงปี 2030) แค่ 7 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่สั้น ผมไม่ได้คาดหวังว่าความหนาแน่นของพลังงานจะกลายเป็น 2 หรือ 3 เท่า เมื่อเทียบกับความหนาแน่นของพลังงานในปัจจุบัน แน่นอนว่าผมคาดหวังว่ามันจะดีขึ้น แต่เราไม่อยากให้มี MX-5 ที่หนักมาก ดังนั้นหาก MX-5 มีน้ำหนักมากถึง 1.5 ตัน นั่นก็ไม่ใช่ MX-5 แล้ว" Matsue กล่าว
สำหรับ Mazda MX-5 รุ่นปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้อยู่เจเนอเรชั่นที่ 4 แล้ว ยังคงได้รับความนิยมเช่นเคย จนถึงปี 2023 ได้ส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาไปแล้วทั้งสิ้น 7,569 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากผลประกอบการของปีที่แล้ว
แหล่งที่มาจาก
- Motor1