นับตั้งแต่ MG (เอ็มจี) ได้เผยโฉม MG Cyberster (เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์) ครั้งแรกในงาน Goodwood Festival of Speed ประเทศอังกฤษ ต่อเนื่องด้วยที่งาน Chengdu Auto Show 2023 สาธารณรัฐประชาชนจีน แฟนๆ ต่างชื่นชมทั้งด้านดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ล่าสุด MG Cyberster ได้รับการพิสูจน์สมรรถนะ และความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กับภารกิจ "Charging Iinto The Future" ข้าม 3 ทวีป 23 ประเทศ บนเส้นทางจริงกว่า 10,000 ไมล์ (กว่า 16,000 กิโลเมตร) จากทวีปยุโรป อาทิ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เบลเยี่ยม เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี
ข้ามมาอีกซีกโลกสู่ตะวันออกกลาง อาทิ จอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนมุ่งหน้าสู่ทวีปเอเชีย ผ่าน อินเดีย มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และมุ่งหน้าเข้าสู่จุดมุ่งหมายที่มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
เพื่อให้ประจักษ์ถึงความทรงพลังของตัวรถของ MG Cyberster ที่เหนือระดับด้วยการเป็นสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้า 100% แบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง มาพร้อมประตูปีกนกอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมโครงสร้างไอเดียแห่งอนาคตอันแท้จริง
MG Cyberster สปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้า 100% ของผู้หลงใหลความสนุกสนานของการขับขี่
MG Cyberster ถือเป็นยนตรกรรมที่ผสมผสานดีไซน์ของรถคลาสสิคให้เข้ากับ DNA สายพันธุ์สปอร์ตได้อย่างลงตัว และได้กลายเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ที่ เรียบหรูและ โดดเด่น ด้วยประตูแบบปีกนก โดยมีหลังคาผ้าแบบซอฟต์ท็อปเพิ่มลุคคลาสสิกให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายในใส่ความสปอร์ตไว้ทุกอณู รองรับการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ อีกทั้ง MG Cyberster ถือเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้า 100% สมรรถนะสูง โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยว แบตเตอรี่ความจุ 64 kWh และ รุ่นมอเตอร์คู่ แบตเตอรี่ความจุ 77 kWh อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.2 วินาที
MG Cyberster ความท้าทายครั้งใหม่กับภารกิจ Charging Iinto The Future
ล่าสุด MG Cyberster สร้างประวัติศาสตร์กับการเดินทางอันยาวไกลกับ "Charging Iinto The Future" ภารกิจทลายทุกข้อจำกัดของรถ EV ด้วยบทพิสูจน์สมรรถนะ และความแข็งแกร่งของ MG Cyberster โดยการขับขี่ในรูปแบบ Road Trip ระยะทางรวมกว่า 10,000 ไมล์ จากกรุงลอนดอน มุ่งหน้าสู่มหานครเซี่ยงไฮ้ ข้ามผ่าน 3 ทวีป ซึ่งได้แก่ ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย รวม 23 ประเทศ
โดยมีนักเดินทางระดับโลกอย่างฝาแฝด The Turner ทั้ง Hugo และ Ross จากความสำเร็จในการผจญภัยระดับโลก อาทิ Atlantic Rowing Race การแข่งขันการพายเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกกว่า 3,000 ไมล์ และการเดินทางข้ามขั้วโลกในประเทศกรีนแลนด์ ล้วนแต่ต้องใช้ความอดทนและขีดจำกัดของศักยภาพในตัวมนุษย์ เพื่อมาเป็นผู้ขับขี่รถ MG Cyberster ตลอดเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ครั้งนี้
สำหรับภารกิจการเดินทางในครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ที่ Park Plaza West Minister Bridge London ซึ่งตลอดเส้นทางของสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้า 100% ที่ข้ามผ่านหลากหลายภูมิประเทศไม่ว่าจะเป็น การเผชิญทั้งเส้นทางในเมือง และนอกเมือง ทางเขาที่สูงชัน หรือแม้แต่พื้นที่ในเขตทะเลทราย
ตลอดการเดินทางต้องสัมผัสกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจากยุโรปซึ่งเป็นพื้นที่ที่หนาวเย็น มุ่งหน้าสู่เขตภูมิประเทศตะวันออกกลางที่ค่อนข้างแห้งแล้ง และมีความร้อนสูง เข้าสู่ทวีปเอเชียที่ร้อนชื้น ภารกิจนี้จะแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารที่เอื้ออำนวยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น
อีกทั้งการเดินทางข้ามทวีปครั้งนี้ทำให้เห็นภาพ MG Cyberster โลดแล่นอยู่บนเส้นทางหลากหลายอารยะธรรม มีสถาปัตยกรรมของแต่ละประเทศเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของภาพแห่งประวัติศาสตร์ และที่สำคัญการเดินทางครั้งนี้ "ประเทศไทย" อยู่ในเส้นทางที่ MG Cyberster จะมาเช็คอินในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ด้วย ก่อนที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางที่ มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
เอ็มจี ยังคงยืนหยัดเจตนารมณ์ความเป็นหนึ่งด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า MG Cyberster จึงพัฒนาเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ในกลุ่มรถสปอร์ตที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% อีกทั้งภารกิจระดับโลกอย่าง “Charging Iinto The Future” กับการเดินทางครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า เอ็มจี ไม่หยุดคิด และพร้อมพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ใหม่ๆ รวมถึงความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าอย่าง EV Charging Station ที่ครอบคลุมในทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายศูนย์บริการเอ็มจีที่ครอบคลุม สร้างความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ทุกเส้นทาง