Hycan แบรนด์รถไฟฟ้าน้องใหม่ในเครือ GAC ที่จัดตั้งกันในบริษัทร่วมทุนที่ชื่อว่า GAC-Nio New Energy Technology ผลิตรถร่วมกันระหว่าง GAC Group และ Nio Inc. หลังจากที่เปิดตัว GAC Hycan V09 รุ่นใหม่ไปเมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา ล่าสุดก็ถึงเวลาเปยรายละเอียดทั้งหมด และราคาของจริงซะที
โดย Hycan V09 เป็นการพัฒนามาจากรถต้นแบบ Concept-M ของบริษัท ที่สร้างขึ้นบนแพลทฟอร์ม H-GEA ที่ทาง Hycan พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งเเพลทฟอร์มนี้ ใช้โครงสร้างที่ผลิตจากเหล็กกล้าความแข็งระดับ 65% ซึ่งตัวถัง พื้นตัวถัง และแบตเตอรี่แพ็ค จะถูกสร้างรวมอยู่ในโครงสร้างเดียวกัน รวมไปถึงเหล็กรัดร้อน Hot-Formed Steel ประสิทธิภาพสูง
รูปโฉมภายนอกมาใน Design Language ที่เรียกว่า Shining Star กับชุดไฟหน้าเป็นแบบแยกส่วน ด้านบนเป็นไฟ Daytime Running Light แนวยาว พร้อมตกแต่งด้วยโครเมียม รับกับไฟหน้าแบบแนวตั้ง
ส่วนด้านข้างตัวรถตกแต่งด้วยโครเมียมตามจุดต่างๆ มาพร้อมประตูบานสไลด์ เปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 - 20 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย) และชุดไฟท้าย LED ที่วางเป็นแนวยาวด้านหลัง พร้อมสปอยเลอร์หลังคา กระจกแบบ Privacy Glass และประตูบานท้ายแบบไฟฟ้า เป็นต้น
มิติตัวรถยาว 5,215 มม. กว้าง 1,967 มม. สูง 1910 มม. และระยะฐานล้อ 3,170 มม. ส่วนความสูงภายในห้องโดยสาร 1,288 มม. และมีพื้นที่ความยาวจากด้านหน้าถึงท้ายรถภายในห้องโดยสาร 2,834 มม.
ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง หรูหรา ตกแต่งด้วยโทนสีที่มีให้เลือกได้ถึง 3 แบบ ได้แก่ สีส้ม/ดำ, สีขาว และสีดำ พร้อมเบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเบาะนั่งแถวที่ 2 เป็นแบบ Captain Seat ดีไซน์ Zero Gravity ปรับไฟฟ้าได้ 14 แบบ พร้อมระบบนวด 8 จุด, ระบบทำความร้อน 3 ระดับ และระบายอากาศ 3 ระดับ อีกทั้งยังมีลำโพงในพนักพิงศีรษะด้วย
แผงแดชบอร์ดหน้าติดตั้งหน้าจอ 3 จอ วางเป็นแนวยาว โดยใช้หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนหน้าจอระบบ Infotainment แบบสัมผัส ขนาด 14.6 นิ้ว และหน้าจอฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 12.3 นิ้ว อีกทั้งยังมาพร้อมหน้าจอ Head-Up Display และประมวลผลผ่านชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ที่สามารถสื่อกันได้หลายจอทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ส่วนคอนโซลที่กั้นระหว่างเบาะหน้า กับพื้นที่ด้านหลัง ได้ติดตั้ง ตู้เย็น, ปลั๊กไฟ, ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน มาพร้อมจอ TV ที่เพดานหลังคาขนาด 17.3 นิ้ว พร้อมลำโพง 22 ตำแหน่ง รอบห้องโดยสาร ชุดไฟ Ambient Light และหลังคา Panoramic Sunroof อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายความจุถึง 610 ลิตร เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ลง จะเพิ่มเนื้อที่ขึ้นเป็น 2,430 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะแถว 2 และ 3 ลงทั้งหมด จะมีพื้นที่ความจุถึง 3,010 ลิตร
ระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม มาพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติอัจฉริยะ H-VIP 3.0 กับระบบ LIDAR ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 8 MP บริเวณใต้กรอบป้ายทะเบียน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเซนเซอร์ และเรดาร์ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ที่ติดตั้งรอบคันรถถึง 24 จุด
ระบบจะทำงานไปพร้อมกับระบบความปลอดภัยกว่า 37 อย่าง ซึ่งทำงานร่วมกับเลเซอร์เรดาร์แบบ 130 จำนวน 1 ตัว รวมถึงกล้องหลังความละเอียด 2 MP จำนวน 1 ตัว และ กล้องความละเอียด 3 MP จำนวน 4 ตัว ที่ใช้เลนส์มุมกว้างพิเศษมิลลิเมตรเตอร์เรดาร์ จำนวน 5 ตัว และอัลตราโซนิคเรดาร์ AK2 จำนวน 12 ตัว
โดยทาง Hycan อ้างว่าสามารถตรวจจับคนเดินถนนได้แม่นยำในระยะ 100 ม. รวมถึงตรวจจับยานพาหนะในระยะห่างออกไปไม่เกิน 250 ม.
ส่วนขุมพลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 270 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 190 กม./ชม.
มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ที่ผลิตโดย CALB และ Juwan Technology Research โดยมีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมแบบไตรภาคขนาด 92 kWh, ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตขนาด 95.16 kWh และชุดแบตเตอรี่ลิเธียมแบบไตรภาคขนาด 114.19 kWh ให้ระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 620 กม. และ 762 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน CLTC)
อีกทั้งยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมแรงดันไฟฟ้าสูง 800V สามารถชาร์จไฟเพื่อให้รถวิ่งได้ 200 กม. ในเวลาเพียง 5 นาที รวมถึงรองรับการชาร์จแบบเร็ว DC ขนาด 380 kW
สำหรับ Hycan V09 มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 318,800 - 438,800 หยวน หรือประมาณ 1,598,000 – 2,200,000 บาท ซึ่งในอนาคต อาจมีความเป็นไปได้ที่ GAC อาจนำเข้ามาทำตลาดเมืองไทยด้วยเช่นกัน