Renault (เรโนลต์) ได้เปิดตัว Renault Scenic รถรุ่นยอดฮิตของค่ายในเจเนอเรชั่นที่ 5 โฉมใหม่ล่าสุด ซึ่งใช้ชื่อต่อท้าย E-Tech ในงาน IAA Mobility Show 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งโฉมนี้ได้พัฒนาให้เป็นรถ Crossover (ครอสโอเวอร์) ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยยังคงรักษาคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับครอบครัว พร้อมมุ่งเน้นความยั่งยืนและความปลอดภัย
Renault Scenic E-Tech มีลักษณะคล้ายกับรถต้นแบบ Renault Vision Scenic Concept ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา ซึ่ง Renault หวังว่ารูปลักษณ์แบบครอสโอเวอร์ท้ายลาด จะทำให้ Scenic ดึงดูดใจผู้ซื้อมากขึ้น เนื่องจากรถยนต์แนวมินิแวน MPV จะไปต่อได้ยากในยุโรป
รูปลักษณ์ภายนอก มาพร้อมชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน คล้ายกับรุ่นเรือธงอย่าง Rafale กับกระจังหน้ารูปแบบพิเศษ ส่วนด้านข้างมาพร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว แบบ Aero Design หลังคาสีดำ และเพิ่มคุณสมบัติที่ได้แรงบันดาลใจจาก Peugeot ซึ่งนำโดย Gilles Vidal อดีตหัวหน้าทีมออกแบบจาก Peugeot และ Renault ในปัจจุบัน
นอกจากนั้น ยังใช้มือจับประตูแบบเรียบกับตัวรถ มีแร็คหลังคา สปอยเลอร์หลัง ใช้วัสดุอะลูมิเนียมในการตกแต่งตัวรถ และไฟท้ายแบบ LED รูปตัว Y สีเข้ม
มิติตัวรถยาว 4,470 มม. กว้าง 1,864 มม. สูง 1,571 มม. และระยะฐานล้อ 2,785 มม.
ห้องโดยสารภายใน ใช้หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว จาก Megane E-Tech รวมถึงหน้าจอระบบ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว ที่ใช้ระบบสาระบันเทิง OpenR Link บนระบบปฏิบัติการ Android ส่วนอุปกรณ์ ADAS มีให้มากถึง 30 โหมด ในขณะที่โหมด Multi-Sense ทั้ง 4 โหมด (Comfort, Sport, Eco และ Perso) ก็ส่งผลต่อแสงสว่างภายในรถด้วย
อีกจุดเด่นของ Scenic E-Tech คือหลังคากระจกพาโนรามา Solarbay แบบใหม่ พร้อมเทคโนโลยี AmpliSky สามารถเปลี่ยนจากโปร่งใสไปเป็นทึบแสงได้ โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง
และทาง Renault ยังเผยว่าไม่ใช่ม่านแบบกลไก ซึ่งมีประโยชน์ในการลดน้ำหนัก และเพิ่มพื้นที่ส่วนหัวเพิ่มเติม 30 มม. และ Renault เผยว่าพื้นที่เหนือเข่าและเหนือศีรษะ เทียบเท่ากับรถครอบครัวระดับ C-Segment
พร้อมที่เก็บของในห้องโดยสารขนาด 38.7 ลิตร จุดเด่นอยู่ที่ที่วางแขนผู้โดยสารหลัง ซึ่งมีที่วางแก้ว ช่องเก็บของ ช่องเชื่อม USB-C คู่ ขาตั้งแบบพับได้ และแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถความจุ 545 ลิตร แม้ว่าจะเล็กกว่ารุ่นก่อนถึง 27 ลิตร แต่สามารถเพิ่มได้ถึง 1,670 ลิตร ได้เมื่อพับเบาะหลัง
โดยใน Renault Scenic E-Tech รุ่นใหม่ยังเน้นความยั่งยืน ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลได้ในรถถึง 24% ในขณะที่ 90% ของมวลสามารถรีไซเคิลได้ (รวมชุดแบตเตอรี่) ห้องโดยสารปลอดจากหนัง โดยใช้วัสดุที่มาจากชีวภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
Renault Scenic E-Tech ใช้แพลตฟอร์ม CMF-EV ร่วมกับ Renault Megane E-Tech กับ Nissan Ariya มีชุดแบตเตอรี่ 2 ขนาดและกำลังไฟฟ้า 2 ระดับ
โดยในรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ขนาดความจุ 60 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 418 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)
ส่วนในรุ่น Top ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ขนาดความจุใหญ่ถึง 87 kWh วิ่งได้ระยะทางไกลถึง 610 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP)
โดย Renailt Scenic E-Tech มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ Techno รุ่นเริ่มต้น, Espirit Alpine แบบสปอร์ต และรุ่น Top สุด แบบพรีเมียม Iconic ซึ่งรุ่นนี้ยังมาพร้อมเสียงเตือนคนเดินถนน และเสียงต้อนรับ โดยสร้างขึ้นร่วมกับ Jean-Michel Jarre นักแต่งเพลงอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับ Renault Scenic E-Tech จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการและราคาในยุโรปช่วงต้นปีหน้า ซึ่งจะผลิตที่โรงงานในเมือง Douai ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงงาน ElectriCity ของกลุ่ม Renault
แหล่งที่มาจาก
- Carscoops