นับตั้งแต่ค่าย KIA (เกีย) ได้เปิดตัว KIA Ray EV ซึ่งจัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ KIA ที่ผลิตออกมาจำหน่ายในตลาดเกาหลีใต้เมื่อปี 2011 จนปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2017 ล่าสุด KIA ได้เปิดตัว KIA Ray EV รุ่นปรับปรุงใหม่ ให้กำลังมากขึ้นกว่าเดิม วิ่งได้ไกลกว่าเดิม

ซึ่ง KIA Ray EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับตลาดเกาหลีใต้โดยเฉพาะ พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Kia Picanto, Hyundai i10 และ Hyundai Casper โดยมาพร้อมรูปลักษณ์หน้าตาใหม่ ชุดไฟหน้าทรงใหม่ขนาดใหญ่ พร้อมไฟ Daytime Running Light รูปตัว C ในโคมเดียวกัน 

พร้อมกระจังหน้าทรงใหม่แบบทึบ ติดตั้งจุดชาร์จประจุไฟบริเวณโลโก้ KIA พร้อมช่องรับลมกันชนด้านล่างดีไซน์ใหม่ มีแผ่นกันกระแทกใต้กันชนหน้าสีโครเมียม 

ส่วนด้านข้างยังทรงเหลี่ยมๆ แบบรถสไตล์ Boxy Car มาพร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ กากบาทสีดำ ประตูบานข้างแบบบานสไลด์ ส่วนประตูบานหน้าเปิดได้กว้างถึง 90 องศา และชุดไฟท้ายใหม่ พร้อมเส้นสีดำเงาเป็นแถบยาวเพิ่มความสปอร์ต และ Diffuser กันชนท้ายในตัว

มิติตัวรถยาว 3,595 มม. กว้าง 1,595 มม. สูง 1,710 มม. และระยะฐานล้อ 2,520 มม.

ห้องโดยสารภายในปรับปรุงใหม่ มาพร้อมเบาะนั่งแบบ 4 ที่นั่ง ส่วนในรุ่น LCV จะมีเพียงแค่ 1-2 ที่นั่งเท่านั้น มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบใหม่ขนาด 10.25 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบใหม่ มีระบบ i-Pedal ที่พวงมาลัย 

พร้อมย้ายตำแหน่งเกียร์ไฟฟ้าไปอยู่ที่คอพวงมาลัย ทำให้มีช่องเก็บของขนาดเล็กบริเวณคอนโซลกลาง และยังมาพร้อมระบบแอร์แบบไฟฟ้า ติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า และปุ่ม Auto Brake Hold ซึ่งเป็นครั้งแรกสำหรับรถระดับนี้ในเกาหลีใต้

ส่วนขุมพลังมาพร้อมชุดมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ที่ให้กำลังมากขึ้นเป็น 86 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 147 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่แบบ LFP ขนาด 35.2 kWh ให้ระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 205 กม. แต่หากขับในเมืองอาจได้ระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 233 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง

พร้อมรองรับการชาร์จไฟแบบ DC สูงสุดที่ 150 kW สามารถชาร์จจาก 10 – 80% ในเวลา 40 นาที และรองรับการชาร์จไฟแบบ AC สูงสุดที่ 7 kW โดยชาร์จไฟเต็มในเวลา 6 ชั่วโมง

สำหรับ KIA Ray EV มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือแบบ LCV เพื่อการพาณิชย์ และแบบรถยนต์นั่ง ในราคา 27,350,000 – 30,800,000 วอน หรือประมาณ 750,000 – 844,000 บาท