BYD (บีวายดี) ประกาศเปิดตัว BYD Dolphin (บีวายดี ดอลฟิน) และ BYD Dolphin Long Range เป็นรุ่นรถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่พัฒนาบน e-Platform 3.0 และระบบส่งกำลังร่วมกับ BYD ATTO 3 ซึ่งเปิดตัวไปแล้วในญี่ปุ่นเช่นกัน 

นับเป็นความท้าทายอย่างมาก ที่ค่ายรถจีนอย่าง BYD จะบุกตลาดญี่ปุ่นด้วยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นดัง ที่ชาวญี่ปุ่นส่วนมากยังไม่เปิดใจรับของจีนนัก ก็เนื่องมาจากเรื่องในอดีต เรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ที่ทั้งญี่ปุ่นและจีนต่างก็ไม่ชอบกัน รวมไปถึงความชาตินิยมของญี่ปุ่น ที่ยังยึดมั่นในรถยนต์ไฟฟ้าของญี่ปุ่นมากกว่า

โดย BYD ATTO 3 และ BYD Dolphin ของ BYD มียอดขายรวมกันกว่า 500,000 คันทั่วโลก โดยในตลาดญี่ปุ่น BYD ATTO 3 ได้เปิดตัวไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 และมียอดจดทะเบียนประมาณ 700 คัน ในช่วง 6 เดือน ถึงเดือนสิงหาคม ซึ่งแบรนด์ที่ขายรถยนต์นำเข้า 100 คัน เกือบทุกเดือนได้ ก็เทียบได้กับ MINI (มินิ) และ Audi (อาวดี้) ในตลาดญี่ปุ่น

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น BYD ได้ศึกษาตลาดญี่ปุ่นอย่างรอบคอบ จากการสำรวจของบริษัทพบว่า "รถยนต์ขนาดกะทัดรัด" เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในการซื้อรถไฟฟ้าในญี่ปุ่น และราคา ระยะทางที่วิ่งได้ไกล กับความปลอดภัย ก็ยังเป็นที่ต้องการอย่างมากเมื่อพิจารณาถึงการซื้อรถ EV

มิติตัวรถยาว 4,290 มม. กว้าง 1,770 มม. สูง 1,550 มม. ซึ่งมีความสูงต่ำกว่าเวอร์ชั่นตลาดโลก 20 มม. เนื่องจากอาจเกินขีดจำกัดความสูงของลานจอดรถแบบกลไกในญี่ปุ่น และอาจเป็นอุปสรรคต่อการซื้อที่จอดรถและคอนโดมิเนียม โดยความสูงที่ลดลงไปนั้น 20 มม. ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนระบบกันสะเทือน ยาง หรือตัวถัง แต่ใช้การปรับเปลี่ยนรูปทรงของเสาอากาศบนหลังคาใหม่

และระยะฐานล้อ 2,700 มม. พร้อมกับภายในรถที่กว้างขวาง ไม่ต้องกังวลเลยว่าเบาะหลังจะแคบ ด้วยมุมเลี้ยวของยาง รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.2 ม. ทำให้มีความคล่องตัวเท่ากับ Toyota Corolla Cross เลยก็ว่าได้

ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานตัวรถ ก็มีหลายอย่าง เช่น สีตัวถังแบบทูโทน มีหลังคาแบบ Panoramic Sunroof หน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ปรับหมุนได้ รองรับ Apple CarPlay, ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth, ระบบมิวสิคสตรีมมิ่ง, ช่อง USB-A และ USB-C สำหรับผู้โดยสารหน้า-หลัง, ระบบกุญแจ Keyless Entry พร้อมระบบ Keyless Start และกุญแจแบบคีย์การ์ด เป็นต้น

อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยมากมาย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS โดยอุปกรณ์มาตรฐานสเปคญี่ปุ่น มีอาทิ ระบบแจ้งเตือนการจราจรด้านหน้า, ระบบตรวจจับและเตือนความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน หรือระบบป้องกันผู้ขับขี่เหยียบคันเร่งผิดพลาด (ทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 5 กม./ชม.) เป็นต้น

BYD Dolphin EV มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ (94 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมแบตเตอรี่แบบ BYD Blade Battery ความจุ 44.9 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 400 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTC)

และรุ่น Long Range มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร และพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 58.56 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 476 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTC)

ในการนำเสนอราคาเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา นาย Atsuki Tofukuji ประธาน BYD Auto Japan กล่าวว่า "ภายในเดือนมีนาคม 2024 เราหวังว่า BYD Dolphin จะขายได้ทั้งหมด 1,100 คัน ซึ่งรวมถึงรุ่นเริ่มต้น 800 คัน และรุ่น Long Range 300 คัน''

โดย BYD Dolphin ในญี่ปุ่นมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,980,000 เยน หรือประมาณ 722,000 บาท และรุ่น Long Range อยู่ที่ 3,420,000 เยน หรือประมาณ 829,000 บาท (ทั้ง 2 รุ่นย่อย เป็นราคาได้รับส่วนลด CEV = Clean Energy Vehicle จำนวน 650,000 เยน (หรือประมาณ 157,000 บาท) แล้ว)

แหล่งที่มาจาก
- Response.jp