จุดกำเนิดของ MINI Clubman (มินิ คลับแมน) คงต้องกล่าวย้อนไปถึงในปี 1969 ที่ แฟนๆ มินิ ต่างมีความต้องการรถมินิที่สามารถบรรทุกของหรือสัมภาระได้มากขึ้น แต่ก็ยังขับสนุกสไตล์รถโกคาร์ท ซึ่งในปัจจุบันก็คงเป็นการขนเพื่อนๆ ไปด้วยกันได้หลายๆ คน
ซึ่ง MINI Clubman จึงได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งในรูปแบบของรถต้นแบบ เมื่อปี 2005 และผลิตขายจริงในอังกฤษเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2007 โดยในไทยนั้นเปิดตัวในช่วงงาน Motor Show ปี 2008 และ MINI Clubman รุ่นปัจจุบันจัดเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2015
ผู้ที่ชื่นชอบความอเนกประสงค์ของ Clubman จากการเป็นรถที่ขนาดใหญ่สุดของ MINI และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังของรถกว้างขวาง อาจต้องตัดสินใจซื้อ MINI Countryman (มินิ คันทรี่แมน) แทน เพราะทาง MINI ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีรถรุ่นใหม่ออกมาทำตลาดอีก
MINI Clubman Final Edition ที่ออกมาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไม่เพียงเป็นรถรุ่นพิเศษบอกลาเจเนอเรชั่นที่ 2 ของรถเท่านั้น แต่ยังเป็นการบอกลาการทำตลาดของรถที่มีฝาท้ายแบบตู้กับข้าวไปด้วย
Stefanie Wurst ผู้บริหารของ MINI ได้กล่าวกับ Top Gear ว่า "ฉันไม่อยากพูดว่าพื้นที่นั้นเต็มแล้ว แต่เราจะไม่มี Clubman แม้รถต้นแบบอย่าง Aceman จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ฉันคิดว่ารถในรูปแบบ 5 ประตู ได้ถูกเติมเต็มโดย Countryman และ Aceman และหากดูที่ตัวเลขยอดขายทั่วโลก Countryman ก็ขายได้มากกว่า Clubman ถึง 2 เท่า"
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ Mini กำลังปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เพื่ออนาคตที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด แม้ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์จะใช้พลังงานแบตเตอรี่ อาจจะออกมาได้ไม่เต็มที่จนกว่าจะถึงปี 2030 แต่ในเวลานี้ก็ได้เปิดตัว MINI และ MINI Countryman รุ่นใหม่แล้ว และจะเปิดตัว MINI Aceman ในไม่ช้า
"ฉันรัก Clubman และฉันก็ขับรุ่นนี้อยู่ในตอนนี้ แต่กับแนวคิดรถขนาดใหญ่ ฉันตัดสินใจไปต่อกับ Countryman ใหม่" ผู้บริหาร MINI กล่าว
เพื่อเป็นการบอกลา Clubman ครั้งสุดท้าย MINI จึงออกรถรุ่นพิเศษ Final Edition จำนวนจำกัด โดยเพิ่มเงินอีกเพียง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากราคารุ่นปกติ ซึ่งผลิตเพียง 1,969 คันทั่วโลกเท่านั้น
แหล่งที่มาจาก
- Carscoops