สำหรับประเทศออสเตรเลีย จัดเป็นประเทศที่มีความใหญ่โตระดับทวีป ซึ่งวัฒนธรรมการใช้รถยนต์ที่มีส่วนคล้ายชาวอเมริกันอยู่บ้าง กับความนิยมรถคันใหญ่ๆ โตๆ เครื่องใหญ่ๆ จึงทำให้แบรนด์รถยนต์อเมริกันที่ขึ้นชื่อเรื่องจุดนี้ ได้ส่งรถหลายแบรนด์ไปขาย รวมทั้งรถกระบะ RAM (แรม) ที่นำเข้าไปขายตั้งแต่ปี 2015 เช่นกัน
โดย RAM แบรนด์ในเครือของ Dodge (ดอดจ์) ที่ปัจจุบันอยูในสังกัด Stellantis เหมือนกัน กับการเผยโฉม RAM Big Horn เครื่องยนต์ใหญ่รุ่น 1500 เป็นทางเลือกสำหรับผู้เน้นการใช้งานบรรทุก และลากจูง
รถปิกอัพรุ่นใหม่นี้สร้างจากรุ่นพื้นฐาน DT ที่มีขายในออสเตรเลียอยู่แล้ว โดยขนาดของกระบะหลัง มีให้เลือกระหว่างยาว 5 ฟุต 7 นิ้ว หรือ 6 ฟุต 4 นิ้ว พร้อมกับมีจุดยึดหลายจุด รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ 900 กิโลกรัม
และความสามารถในการลากจูงของรถได้สูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม กับฟังก์ชันควบคุมการลากจูง และช่วยออกตัวบนทางลาดชันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนล้อที่ติดรถมามีขนาด 18 นิ้ว
แม้จะถูกสร้างขึ้นจากรุ่นพื้นฐาน แต่รุ่นย่อยใหม่นี้มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ เพิ่มเติม เช่น บันไดข้าง หน้าจอ Infotainment ขนาด 8.4 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay ไร้สาย และ Android Auto
รวมทั้งฟังก์ชัน Start/Stop กระจกบานหลังเลื่อนไฟฟ้า ระบบช่วยจอดรถ ParkSense หน้า-หลัง เบาะคู่หน้าอุ่นร้อนได้ พวงมาลัยหุ้มหนังอุ่นร้อนได้ และกระจกมองหลัง Electro-Chromatic และเบาะหลังหุ้มผ้าปรับพับได้แบบ 60:40
มาพร้อมขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ HEMI V8 ขนาด 5.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 390 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 556 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านอัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมเทคโนโลยี Mild Hybrid eTorque ที่บางลูกสูบของเครื่องยนต์จะไม่ทำงานในบางขณะ
สำหรับราคาขายของ RAM 1500 Big Horn เริ่มต้นที่ 119,950 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 2,758,000 บาท ในรุ่นกระบะหลังยาว 5 ฟุต 7 นิ้ว และราคา 120,950 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ในรุ่นกระบะหลังยาว 6 ฟุต 4 นิ้ว หรือประมาณ 2,781,000 บาท
แหล่งที่มาจาก
- Carscoops