หนังสือพิมพ์ Yomiuri (โยมิอุริ) รายงานข่าวว่า มีรถยนต์แบบ High Mobility Vehicle หรือ 高機動車 ซึ่งเป็นรถยนต์ทหารที่ใช้ใน กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น หรือ 自衛隊 (จิเอไต) (JSDF) ทั้ง 3 เหล่าทัพ อย่าง กองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่น (JGSDF), กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น (JMSDF) และกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น (JASDF) ซึ่งปลดระวางไปแล้ว ไปโผล่อยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในภาคเหนือของไทยได้อย่างไร!
ซึ่งชาวญี่ปุ่นจำนวนมากต่างตั้งคำถามว่า รถยนต์ทหารที่เคยใช้งานในกองทัพ ทำไมถึงหลุดออกไปถึงมือประชาชนคนธรรมดาได้ แถมหลุดออกไปอยู่ในต่างประเทศอีกต่างหาก จนทำให้เป็นข่าวไปถึงกรมสรรพาวุธทหารบก กระทรวงป้องกันประเทศ
ซึ่งชาวญี่ปุ่นต่างกังวลกันไม่น้อย เนื่องจากรัฐบาลเพิ่งประกาศห้ามส่งออกรถยนต์มือสองไปยังประเทศรัสเซียเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยเหตุที่กังวลว่า รถยนต์ของตนจะตกไปอยู่ในการใช้งานที่ไม่หวังดี ของชาติศัตรูนั่นเอง
ซึ่งตามกฎหมายญี่ปุ่น รถยนต์ประเภทนี้เมื่อปลดประจำการแล้ว จะต้องทำลายทิ้งหรือแปรสภาพให้เป็นเศษโลหะ มีกฎห้ามซื้อขาย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มันตกไปถึงมือกลุ่มโจรผู้ร้าย นำไปใช้ปลอมแปลงเป็นทหารแล้วก่อคดีนั่นเอง เพราะไม่ว่าจะวิ่งไปที่ไหน ทุกคนก็ยังเข้าใจว่า เป็นรถของทหารจิเอไต ในกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นนั่นเอง
แต่ทุกอย่างก็มีข้อยกเว้นอยู่ดี นักข่าวได้ไปสัมภาษณ์บริษัทรับประมูลรถยนต์มือสองจึงได้รู้ว่า เพียงแค่เปลี่ยนล้อและถอดตัวถังบางส่วนออกก็สามารถส่งออกไปขายที่ต่างประเทศได้แล้ว เช่นในข่าวนี้มันถูกพ่อค้าชาวไทยประมูลได้ และส่งไปประกอบขึ้นใหม่แล้วลงทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งธรรมดาที่ประเทศไทย
ปลายเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา นักข่าวได้เดินทางไปที่อู่นำเข้ารถยนต์ดังกล่าวทางภาคเหนือของไทย และสามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่ามันเป็นรถ High Mobility Vehicle ทหารจิเอไตจริงๆ เพราะรถทหารรุ่นนี้ได้ออกแบบให้มีตะขอ สำหรับสอดห่วงเพื่อขนส่งด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ฝากระโปรงด้านหน้า มีตำแหน่งควบคุมไฟส่องสว่างแบบเฉพาะตัวเพื่อพรางตัวจากศัตรู นอกจากนั้น ยังมีติดป้ายอธิบายข้อมูลต่างๆ เป็นภาษาญี่ปุ่นอยู่ในรถเหมือนเดิม
โดยเจ้าของรถนั้น เป็นชายไทยที่ทำธุรกิจซื้อขายอะไหล่แบบรื้อถอนรถในเขตคันโตของญี่ปุ่น ในการให้สัมภาษณ์เขากล่าวว่า "ประมาณปี 2018 ได้ซื้อรถ High Mobility Vehicle สองคันจากผู้ขายในญี่ปุ่น จากการชนะการประมูล'' ซึ่งได้ถอดล้อและถอดตัวถังบางส่วนออก ก่อนจะส่งไปลงในตู้คอนเทนเนอร์ และส่งออกจากท่าเรือโยโกฮาม่า มายังประเทศไทย พร้อมประกอบขึ้นใหม่และจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งธรรมดาในไทย"
ด้าน สส. ฝ่ายค้าน ได้ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศในสภาไดเอท ว่า ฝ่ายรัฐบาลทราบหรือไม่ ที่มีภาพในอินเตอร์เน็ตลงรูป รถทหารจิเอไตมือสอง ได้ถูกขายและส่งออกไปอยู่ในต่างประเทศ และถูกใช้งานโดยกองทัพรัสเซียเวลานี้
ซึ่ง ฮิเดกิ สึชิโมโตะ อธิบดีสำนักงานยุทโธปกรณ์ในขณะนั้น ตอบว่า "เราไม่สามารถระบุได้ว่ายานพาหนะดังกล่าว ถูกขายโดยกองกำลังป้องกันตนเอง หรือไม่เพียงแค่ดูจากรูปภาพ'' แต่ในเดือนเมษายน ทางหน่วยงานเริ่มตั้งคณะกรรมการสอบสวน บริษัทประมาณ 40 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการประมูลรถมือสองอย่างเร่งด่วน
โดยหน่วยงานได้พิจารณาว่า การตรวจสอบรายละเอียดการซื้อขายในครั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศในการสอบสวนด้วย โดยเฉพาะประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณปี 2024 ประมาณเกือบ 300 ล้านเยน สำหรับการนี้โดยเฉพาะ
โดย รถยนต์ทหาร High Mobility Vehicle (BXD10) รุ่นนี้ เริ่มออกใช้งานครั้งแรกในปี 1993 โดยทางรัฐบาลได้ให้บริษัท Toyota (โตโยต้า) เป็นผู้ผลิตให้ในจำนวนกว่า 2,500 คัน ซึ่งได้รถต้นแบบมาจากรถทหาร Hummer ของสหรัฐอเมริกา โดย Toyota ได้ผลิตขายออกมาในเวอร์ชั่นรถยนต์นั่งที่จดทะเบียนได้ในชื่อ Toyota Mega Cruiser (BXD20) (โตโยต้า เมก้า ครุยเซอร์) เมื่อปี 1995 - 2001 ซึ่งในไทยก็มีผู้นำเข้ามาเช่นกัน
ซึงเป็นรถที่มีประสิทธิภาพสูง ทนทาน ถอดประกอบง่าย ขับได้ในทุกสภาพถนน ใช้ขนส่งทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร โดยในปัจจุบันได้ปลดประจำการตามอายุใช้งาน 14 ปีแล้วถึง 1,800 คัน ซึ่งมีบริษัทค้าของเก่าได้ทำการประมูลออกไปจำหน่าย
แหล่งที่มาจาก
- Yomiuri
- คุณธนากร ใจสุขสกุลดี