Ford F-150 (ฟอร์ด F-150) ถือเป็นรถกระบะรุ่นขายดีของ Ford (ฟอร์ด) ในอเมริกาเหนือมาอย่างยาวนาน แม้การปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ช่วงกลางอายุก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยในครั้งนี้นอกจากจะมาพร้อมรูปลักษณ์สดใหม่แล้ว ยังแนะนำออฟชั่นใหม่ๆ อีกด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกปรับปรุงหน้าตาใหม่ มาพร้อมไฟ Daytime Running Light แบบใหม่ พร้อมแพ็คเกจการออกแบบเพิ่มมากขึ้น เช่น แพ็คเกจรูปลักษณ์สีดำจะสามารถเข้าถึงได้สำหรับรุ่นต่างๆ ตั้งแต่ STX ไปจนถึง Lariat นอกจากนี้ ซีรี่ส์ Platinum ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานด้วยการตกแต่งภายในและภายนอกด้วยสีดำจากโรงงาน
ในขณะเดียวกันที่ด้านหลังมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่มองเห็น เพราะ Ford กำลังเข้าสู่กระบะท้ายแบบใหม่ ที่เปิด-ปิด ได้ด้วยไฟฟ้า และฝากระบะท้าย Pro Access ยังมาพร้อมช่องเปิดตรงกลางฝากระบะที่สวิงได้เป็นประตูเสริมใหม่ นอกจากนี้ ในรุ่นที่ติดตั้งประตูท้าย Pro Access จะมีกันชนที่กว้างขึ้น เพื่อให้ก้าวขึ้นกระบะท้ายได้ง่ายยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากประตูท้ายใหม่แล้ว กระบะท้ายยังเพิ่มกล่องล็อคด้านหลังช่องล้อฝั่งผู้โดยสารเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ที่จะช่วยให้เจ้าของรถที่เก็บของที่ปลอดภัยในการเก็บของชิ้นเล็กๆ เช่น เครื่องมือและไฟฉาย ส่วนเจ้าของที่ไม่ได้เลือกตัวเลือกระบบจ่ายไฟแบบ Pro Power Onboard สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก จะได้รับกล่องทั้ง 2 ด้านเป็นมาตรฐาน
สิ่งเพิ่มเติมบนกระบะท้ายเหล่านี้ มีจุดประสงค์เพื่อทำงานร่วมกับคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงของ Ford เช่น Pro Trailer Backup Assist และ Pro Trailer Hitch Assist ซึ่งอย่างหลังจะใช้กล้องถอยหลังและเรดาร์มุม เพื่อจัดแนวการต่อพ่วงเพื่อควบคุมการบังคับเลี้ยว ความเร็วและการเบรก
เมื่อเกี่ยวรถพ่วงขึ้น ระบบ Pro Trailer Backup Assist จะช่วยให้คนขับถอยหลังได้ง่ายขึ้น โดยใช้เพียงปุ่มหมุนที่อยู่ติดกับระบบ Infotaiment นอกจากนี้ยังควบคุมล้อได้ ซึ่งหมายความว่าคนขับเพียงต้องหมุนลูกบิดไปในทิศทางที่ต้องการ จากนั้นรถพ่วงก็จะเคลื่อนไปเอง โดยมีความสามารถในการลากจูงสูงสุด 13,500 ปอนด์ (6,123 กก.) และน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 2,455 ปอนด์ (1,113 กก.)
ภายในห้องโดยสาร ยังคงสไตล์ทรงเหลี่ยมแบบอเมริกัน ซึ่ง Ford กล่าวว่าจะสร้างหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ F-150 ทุกคันในขณะนี้ และจะเป็นรถยนต์คันแรกในอเมริกาเหนือ ที่ติดตั้งฟังก์ชั่นกันขโมยรถของ Ford ที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ค้นหายานพาหนะหลังจากที่ถูกขโมยได้
นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ F-150 จะมีหน้าจอ Head-Up Display บนกระจกหน้าพร้อมมุมมองที่กำหนดเองสำหรับโหมด BlueCruise, Tow/Haul และ Off-Road
พร้อมกับ BlueCruise 1.2 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นอัปเดตของแพ็คเกจช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 ด้วยความสามารถใหม่ๆ เช่น Lane Change Assist และ In-Lane Repositioning ที่จะสามารถทดลองใช้ได้ฟรี 90 วัน และหลังจากนั้นจะสามารถใช้งานได้ ผ่านการสมัครสมาชิกรายเดือนหรือรายปี
ส่วนขุมพลังยังคงเดิม ที่รวมถึงเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร, V6 ขนาด 3.5 ลิตร และเครื่องยนต์ EcoBoost ขนาด 2.7 ลิตร ซึ่งให้กำลังและแรงบิดมากกว่าเดิม แต่ Ford ยังไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่
Ford ยังวางแผนที่จะผลิตรุ่นเครื่องยนต์แบบ PowerBoost Hybrid ขนาด 3.5 ลิตร ด้วยราคาเริ่มต้นที่เท่ากับรถกระบะคันเดียวกันเมื่อติดตั้งเครื่องยนต์แบบสันดาป แบบเดียวกันเท่านั้น โดยมีจำหน่ายในรุ่นย่อย XLT Platinum Plus เพราะฟอร์ดเองต้องการเพิ่มจำนวน F-150 Hybrid เป็นสองเท่าที่จำหน่ายพร้อมกับรุ่นที่ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์นี้
สำหรับ Ford F-150 พร้อมวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2024 ส่วนราคาจะเปิดเผยในภายหลัง