Cadillac Escalade (คาดิลแลค เอสคาเลด) สุดยอดรถ SUV ยอดฮิตรุ่นเรือธงของแบรนด์ นับเป็นครั้งแรกที่ Cadillac Escalade IQ ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า เนื่องจาก Cadillac กำลังจะตาม GM (จีเอ็ม) เปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าในปี 2030
รูปโฉมภายนอกของ Cadillac Escalade IQ ออกแบบใหม่หมด ซึ่งผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ จากรถต้นแบบอย่าง Lyriq มาในสไตล์โฉบเฉี่ยว ตัวรถได้ออกแบบให้ลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศลงประมาณ 15%
มาพร้อมกระจังหน้าคริสตัลสีดำที่มีไฟ LED ล้อมรอบ และไฟหน้าแนวตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ และยังคงมี "eTrunk" ที่เปิดให้เห็นช่องเก็บของขนาด 345 ลิตร บริเวณฝากระโปรงหน้าและช่องดังกล่าวยังมีพอร์ตจ่ายไฟอีกด้วย ส่วนไฟท้ายนั้นจะเพรียวบาง และดูสวยงามกว่าในรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน ก่อนจะปิดท้ายด้วยตรา Cadillac เรืองแสง
อีกทั้งยังใช้ส่วนล่างที่เรียบ ช่องไอดีที่ต่ำลง และล้ออัลลอยขนาด 24 นิ้ว ที่ปรับแต่งให้ลู่ลมขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Escalade IQ ยังสามารถสั่งการเปิดประตูทั้ง 4 บาน ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ซึ่งระบบยังสามารถเปิดประตูด้านคนขับโดยอัตโนมัติเมื่อเจ้าของเข้าใกล้รถได้ด้วย
มิติตัวรถยาว 5,697 มม. กว้าง 2,389 มม. สูง 1,934 มม. และระยะฐานล้อ 3,460 มม.
การตกแต่งภายในมาพร้อมวัสดุคุณภาพสูง หรูหราเทียบได้กับ BMW และ Mercedes-Benz ซึ่งห้องโดยสารได้รับแรงบันดาลใจอย่างมาจาก Cadillac Celestiq โดดเด่นกับจอแสดงผลแบบโค้งขนาด 55 นิ้ว ที่รวมระบบ Infotainment พร้อม Google ในตัว ซึ่งช่วยให้เข้าถึง Google Maps, Google Assistant และ Google Play Store ซึ่งเจ้าของสามารถดาวน์โหลดแอปโปรดได้
ถัดมาด้านล่างมีจอควบคุมขนาด 11 นิ้วที่ดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมระบบแอร์ในรถ และการตั้งค่าต่างๆ ที่มีปุ่มคอนโทรลที่สวยงาม และมีที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
พวงมาลัยแบบ 2 ก้านแบบใหม่พร้อมตกแต่งลายไม้ และแกะสลักด้วยเลเซอร์พร้อมไฟส่องสว่าง ชุดเครื่องเสียง AKG Studio 19 ลำโพง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่จะมีชุดเครื่องเสียง AKG Studio Reference 36 ลำโพง เให้เลือกเป็นออฟชั่นด้วย ซึ่งในรุ่นที่นั่งแถวที่ 2 แบบผู้บริหาร มีลำโพงเพิ่มเป็น 40 ลำโพง ด้วยการติดตั้งไว้ในพนักพิงศีรษะด้านหลัง
สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 ออกแบบมาสำหรับผู้บริหารนั่ง จะมีคอนโซลกลางและที่นั่งแบบแยกส่วนพร้อมระบบทำความร้อน ระบบเป่าลมและนวด ส่วนไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ จอแสดงผลขนาด 12.6 นิ้ว 2 จอ หน้าจอควบคุมด้านหลังและโต๊ะวางของ
พื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายยังคงเท่าๆ กับรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากมีพื้นที่จัดเก็บ 670 ลิตร หลังแถวที่ 3 และ 1,958 ลิตร หลังแถวที่ 2 แต่เมื่อพับเบาะแถวที่ 2 และ 3 จะเพิ่มเนื้อที่ได้มากถึง 3,374 ลิตร
Cadillac และระบบ Super Cruise เป็นของคู่กัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Escalade IQ จะมาพร้อมกับระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติแบบแฮนด์ฟรีที่ทำงานบนถนนที่รองรับได้มากกว่า 400,000 ไมล์ (643,738 กม.) ในสหรัฐฯ และแคนาดา
นอกจากนี้ Escalade IQ ยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อื่นๆ เช่น ระบบช่วยบังคับเลี้ยว ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบริเวณทางแยก ระบบเบรกคนเดินเท้าและคนขี่จักรยานด้านหน้าและระบบกล้อง HD รอบทิศทาง
Escalade IQ ถูกสร้างขึ้นบนแพลทฟอร์ม Ultium และมี Magnetic Ride Control 4.0 รวมถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลมแบบปรับได้ที่ช่วยให้ยกรถขึ้น 1 นิ้ว หรือลดลงได้สูงสุด 2 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีโหมด Low Ride ที่ช่วยให้รถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำ โดยที่ระบบกันสะเทือนต่ำลงจนสุด
ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและใช้งานได้จริง ช่วยให้ล้อหลังหมุนไปในทิศทางเดียวกันหรือตรงกันข้ามกับล้อหน้า และมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 12 เมตร ซึ่งสั้นกว่าตอนไม่มีเทคโนโลยีนี้ถึง 2 เมตร
ขุมพลังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสูงสุด 689 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 834 นิวตัน-เมตร ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 760 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,063 นิวตัน-เมตร ในโหมด Velocity Max อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ในเวลาน้อยกว่า 5 วินาที และรุ่นนี้ยังลากจูงได้ถึง 8,000 ปอนด์ (3,629 กก.)
พร้อมชุดแบตเตอรี่ 24 โมดูลที่มีความจุ 200 kWh ช่วยให้วิ่งได้ระบะทางถึง 724 กม. เมื่อชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังยืนยันว่ารุ่นนี้ มีสถาปัตยกรรม 800V ที่สามารถเพิ่มระยะทางได้ถึง 161 กม. ในเวลาเพียง 10 นาที โดยใช้เครื่องชาร์จแบบ Fast Charge
Cadillac Escalade IQ จะถูกสร้างขึ้นที่ Factory Zero โดยมีราคาจะเริ่มต้นประมาณ 130,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,574,000 บาท