Aston Martin (แอสตัน มาร์ตัน) ฉลองครบรอบ 110 ปี ของการก่อตั้งบริษัท ด้วยการเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า Aston Martin Valour ที่มาพร้อมการดีไซน์แบบย้อนยุคที่ได้แรงบันดาลใจจาก Aston Martin V8 Vantage รุ่นแรก และรถแข่ง RHAM/1 ‘Muncher’ ในรายการ Le Mans ในปี 1980

ตัวรถภยานอกนั้น ถูกประกอบขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายส่วนรอบคัน ด้านหน้ามาในแบบไฟหลมสุดคลาสสิค พร้อมฝากระโปรงหน้าที่มีช่องดักอากาศทรงเกือกม้าขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้ง Air Curtain แนวตั้ง รวมถึงได้รับการติด Splitter ชิ้นใหญ่ที่ใต้กันชนหน้า รวมถึงมือจับประตูแบบเรียบกับตัวรถ

ส่วนด้านข้างตัวรถมาซุ้มล้อขนาดใหญ่ พร้อมช่องระบายอากาศที่โป่งล้อด้านข้าง กับอัลลอยแบบ Forged ขนาด 21 นิ้ว ลายรังผึ้ง คู่กับยาง Michelin Pilot Sport S 5 ออกแบบมาเฉพาะรุ่นกับระบบเบรกคาร์บอนเซรามิก จานดิสก์เบรกหน้าขนาด 410 มม. ส่วนดิสก์เบรกหลังขนาด 360 มม.

รับกับชุดหลังคาแบบ Double-Bubble และดีไซน์ด้านหลังแบบ Kamm-Tail ที่นิยมกันในรถยุค 70-80 และชุดไฟท้ายแบบ LED แถวละ 3 ดวง พร้อมแถบอลูมิเนียมแนวยาว รับกับชุด Diffuser ขนาดใหญ่ และท่อไอเสียกลางตัวรถ 3 ท่อ

ห้องโดยสารภายในดูเรียบง่าย และย้อนยุค แผงประตู หรือคอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะนั่งทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หุ้มวัสดุบุนุ่มที่ถูกทอจากขนสัตว์ ลวดลายแบบ Woollen Tweed แบบเดียวกับในรถแข่ง DBR1 ซึ่งคว้าชัยในการแข่งขัน Le Mans เมื่อปี 1959 พร้อมหัวเกียร์ลายไม้สุดคลาสสิค

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 5.2 ลิตร แบบ V12 Twin Turbo ให้กำลังสูงสุด 715 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 753 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด บนระบบขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมระบบเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป 

Aston Martin Valour จะผลิตเพียงจำนวนจำกัดเพียง 110 คันเท่านั้น เท่ากับจำนวนปีของทางบริษัท ส่วนราคาค่าตัวยังไม่มีการเปิดเผย เพียงบอกว่าตัวรถพร้อมส่งมอบช่วงไตรมาส 4 ปี 2023 และตัวรถคาดว่าถูกจับจองไปทั้งหมดแล้ว