Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษส่งท้าย ขุมพลัง V8 Turbo ผลิตเพียง 1,500 คัน
Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษส่งท้าย ขุมพลัง V8 Turbo ผลิตเพียง 1,500 คัน

นับตั้งแต่ Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ได้เริ่มต้นผลิต Mercedes G-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาส) ที่มีชื่อรุ่นย่อมาจากคำว่า Geländewagen ในรูปแบบรถออฟโรดทรงกล่องครั้งแรกเมื่อปี 1979 โดย Magna Steyr เป็นผู้ผลิตให้ทาง Mercedes-Benz จัดเป็นรถออฟโรด ที่ตำรวจ และค่ายทหารหลายประเทศในโลกสั่งมาใช้ในกองทัพตัวเอง (รวมถึงไทยด้วย)

Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษส่งท้าย ขุมพลัง V8 Turbo ผลิตเพียง 1,500 คัน

ต่อมาในปี 1993 ทาง AMG ได้เข้ามาพัฒนา G-Class รุ่นนี้ด้วยการวางขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ครั้งแรกในรุ่น 500 GE V8 และปั้มขายมาจนถึงปัจจุบันนาน 30 ปี จนในที่สุด Mercedes-Benz ก็ได้ตัดสินใจเลิกผลิตเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ๆ ลดขนาดเครื่องยนต์ให้เล็กลงแทน

Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษส่งท้าย ขุมพลัง V8 Turbo ผลิตเพียง 1,500 คัน

ล่าสุด จึงเปิดตัว Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษในสีพิเศษอย่าง สีเขียว Olive Magno, สีดำ Obsidian Black และสีขาว Opalith White Magno จำนวนสีละ 500 คัน เท่านั้น

Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษส่งท้าย ขุมพลัง V8 Turbo ผลิตเพียง 1,500 คัน

สำหรับตัวรถสีเขียว Olive Magno จะใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีเขียวเหมือนกับสีตัวถัง ส่วนอีก 2 สีจะใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีดำ พร้อมติดตรา Final Edition ไว้ที่ซุ้มล้อคู่หน้า และฝาครอบยางอะไหล่ด้านท้าย 

เมื่อเปิดประตูรถ ไฟ Welcome Light บริเวณกระจกมองข้างก็จะฉายข้อความ “Stronger Than Time” พร้อมโลโก้ตัว G ลงบนพื้น และแผ่นสคัพเพลท Final Edition บริเวณพื้นรถ

Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษส่งท้าย ขุมพลัง V8 Turbo ผลิตเพียง 1,500 คัน

ห้องโดยสารภายใน มาพร้อมเบาะที่นั่งแบบ Active Multicontour Seats หุ้มหนัง Manufaktur สีทูโทน และยังตกแต่งภายในด้วยหนัง Nappa พร้อมเครื่องเสียงคุณภาพสูงจาก Burmester Surround Sound System รวมถึงมีแผ่นเพลทคาร์บอน "Grand Edition" บริเวณคอนโซลหน้า รวมถึงที่กุญแจรีโมท กับเหรียญเงินสัญลักษณ์รูปตัว G

Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition รุ่นพิเศษส่งท้าย ขุมพลัง V8 Turbo ผลิตเพียง 1,500 คัน

แน่นอนว่าขุมพลังต้องเป็นเครื่องยนต์ขนาด 4.0 ลิตร V8 Turbo ให้กำลังสูงสุด 416 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 610 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 แบบ ประกอบด้วย Comfort, Sport และ Off-Road

Mercedes-Benz G 500 V8 Final Edition มาในราคา 196,350 ยูโร หรือประมาณ 7,564,000 บาท

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง