กระบะไฟฟ้า Isuzu D-Max EV ผลิตในไทย เตรียมส่งออกกลางปี 68

นายทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัดเปิดเผยความคืบหน้า หลังจากที่บริษัทได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 32,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 4 ปี (2567-2571) เพื่อลงทุนปรับปรุงโรงงานผลิตรถยนต์เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ปิกอัพขนาด 1 ตัน ที่รองรับการใช้พลังงานไฟฟ้า 100% หรือปิกอัพอีวี

สำหรับรองรับความต้องการของผู้ใช้ในส่วนของตลาดส่งออก รวมทั้งปรับปรุงสายการผลิตให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงด้านอื่น ๆ สำหรับโรงงานประเทศไทย

เบื้องต้น อีซูซุจะส่งออกรถปิกอัพอีวีไปจำหน่ายยังทวีปยุโรป โดยเปิดตัวและทำตลาดในนอร์เวย์เป็นประเทศแรก จากนั้นจะไปทำตลาดยังสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ไทย หรือภูมิภาคอื่น ๆ เป็นลำดับถัดไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและความพร้อมของสาธารณูปโภคด้านสถานีชาร์จรถไฟฟ้า

“เรายังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง สำหรับการลงทุนมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เป็นการลงทุนอีวีอย่างเดียว แต่ยังลงทุนปรับปรุงด้านอื่น ๆ ด้วย”

ส่วนภาพรวมของตลาดรถยนต์ในปีนี้ อีซูซุประเมินว่ายอดขายรถยนต์โดยรวม น่าจะมีจำนวนใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา คือมียอดขายอยู่ที่ 570,000 คัน หรืออาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยตลาดรถปิกอัพคาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ก็คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นเดียวกัน คือ 163,000 คัน

ส่วนอีซูซุ ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 76,000 คัน สำหรับรถอีซูซุ ดีแมคซ์ และมิว-เอ็กซ์ ส่วนรถบรรทุกขนาดกลาง-ใหญ่นั้น คาดว่าจะมียอดขายที่ 11,000 คัน

ปัจจัยหลักที่มีผลและทำให้เชื่อว่าตลาดจะมีความต้องการใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมานั้น เป็นผลเนื่องจากสถานการณ์ไฟแนนซ์ที่มีความเข้มงวด และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังมีอัตราสูงอยู่ ยังคงเป็นปัญหาอยู่เหมือนเดิม

แม้ว่าจะมีมาตรการผลักดันและช่วยเหลือจากรัฐบาลเข้ามาช่วย คือมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” โดย บสย.นั้น อย่างที่ทราบดีว่าตลาดรถปิกอัพหดตัวลง เนื่องจากข้อกำหนดที่รัดกุมของบริษัทไฟแนนซ์อีซูซุคิดว่ามาตรการดังกล่าวเป็นประโยชน์กับลูกค้าเป็นอย่างมาก

อีซูซุต้องชื่นชมต่อแนวคิดของรัฐบาล โดยคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีงาม

ทั้งนี้ เชื่อว่าค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับตามให้เข้ากับภาวะตลาดที่เกิดขึ้นจริง สำหรับรถปิกอัพหดตัว มีปัญหาเรื่องไฟแนนซ์ แต่ถ้าเงื่อนไขเหล่านี้คลี่คลายลง ตลาดรถปิกอัพปรับตัวดีขึ้น แต่หากยังเหมือนเดิมก็คงมียอดเท่าเดิม

ส่วนอีซูซุใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อสื่อสารกลุ่มเป้าหมาย คือ “Isuzu Trusted Buddy…อีซูซุเคียงข้างคุณ เคียงคู่ไทย” เพื่อตอกย้ำแบรนด์อีซูซุ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตามแบบฉบับญี่ปุ่น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ชาวไทยอย่างแท้จริงตลอดอายุการใช้งานนั่นเอง

นอกจากนี้ อีซูซุยังย้ำให้ความสำคัญต่อคุณค่าทางสังคมไทย ด้วยการผลิตรถถที่เน้นการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศมากที่สุด เช่น รถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ ที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ใช้ชิ้นส่วนไทยมากกว่า 90% ก่อให้เกิดห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ที่แข็งแกร่งของไทยในระดับโลก เกิดการจ้างงานและส่งเสริมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจไทยตลอดมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ อีซูซุได้นำรถปิกอัพอีวี ต้นแบบ ปิกอัพไฟฟ้าต้นแบบ อีซูซุ ดีแมคซ์ หรือ Isuzu D-Max EV Concept มาจัดแสดงในประเทศไทยแล้วเมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา

เป็นรถปิกอัพแบบ 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับรถปิกอัพเครื่องยนต์ดีเซล มีชุดมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังรวมสูงสุด : 130 กิโลวัตต์, ระบบขับเคลื่อน eAxle ด้านหน้า ให้กำลังสูงสุด 40 กิโลวัตต์, แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร, ระบบขับเคลื่อน eAxle ด้านหลัง ให้กำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์, แรงบิดสูงสุด 217 นิวตัน-เมตร

มีแรงบิดรวมสูงสุด : 325 นิวตัน-เมตร, ความเร็วสูงสุด : มากกว่า 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง, ความสามารถในการลากจูง : 3.5 ตัน ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 66.9 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1 ตัน และคาดการณ์ว่าระยะทางการวิ่งต่อ 1 การชาร์จ อยู่ที่ประมาณ 300 กิโลเมตร