
Nissan Frontier Pro ใหม่ กระบะปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของค่าย วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 135 กิโลเมตร
Nissan ถือว่านี่คือ รถปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์ อย่างเป็นทางการ เนื่องจากระบบ e-Power ที่ใช้ในหลายรุ่นก่อนหน้านี้ยังจัดอยู่ในประเภท “EV เครื่องยนต์ขยายระยะทาง” ไม่ใช่ปลั๊กอินไฮบริดแท้ๆ
ด้านหน้าของตัวรถโดดเด่นด้วยโลโก้ NISSAN แบบเรืองแสงสีขาวเช่นเดียวกับรุ่นใหม่ๆในปัจจุบัน เสริมลุคการเป็นรถกระบะขุมพลังไฟฟ้า พร้อมด้วยไฟ LED 5 ชิ้นเรียงตามแนวขอบด้านของฝากระโปรงหน้าช่วยเสริมความบึกบึนมากยิ่งขึ้น โดย Nissan เคลมว่าไฟตรงกลาง 3 ดวงที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Nissan D21 hardbody รถกระบะในตำนานของยุค 1980
รายละเอียดอื่นๆ อาทิ ไฟหน้า LED แนวตั้งแบบเส้นแนวขวางที่ทำให้ตัวรถมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยกันชนหน้าที่ติดตั้งแผ่นกันกระแทกมาจากโรงงาน เช่นเดียวกับด้านข้างของตัวรถที่มีชิ้นส่วนสีเทาที่ชายด้านล่างประตูทั้ง 4 บาน เข้าชุดกันกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง All-terrain ขนาด 265/65R18 พร้อมลุยในทุกสภาพถนน นอกจากนี้ ยังมีราวหลังคาและฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกในการขนสิ่งของบรรทุกอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารของ Frontier Pro ออกแบบมาโดยเน้นความสะดวกสบายและการใช้งานจริง ด้วยหลังคากระจกบานใหญ่ พร้อมหน้าจอมาตรวัด Full digital ขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอ Infotainment ขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว เพิ่มอรรถรสในการขับขี่และความบันเทิงแบบครบครันตามสมัยนิยม
เบาะนั่งด้านหน้าให้ความหรูหราพร้อมระบบระบายอากาศ เบาะอุ่นและนวดหลัง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ในยุคปัจจุบันนี้ ช่วยเสริมไลฟ์สไตล์สายลุยได้อย่างลงตัว รวมถึงฟังก์ชั่น Vehicle-to-Load (V2L) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ กำลังสูงสุดถึง 6 kW เหมาะสำหรับการแคมป์ปิ้ง
ขุมพลังหลักของ Frontier Pro ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-in hybrid ที่ผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มาพร้อมระบบเกียร์ส่งกำลังประสิทธิภาพสูง มีตัวเลขแรงม้าสูงสุดที่ 407 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตัน-เมตร โดย Nissan ได้เคลมระยะทางสูงสุดในโหมด EV ไว้ที่ 135 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
ยิ่งไปกว่านั้น Frontier Pro ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ Intelligent AWD ที่ควบคุมการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้า-หลังแบบอัตโนมัติ รองรับการใช้งานทั้งทางเรียบ ทางฝุ่น ทางดิน ได้หลากหลายตามต้องการ อีกทั้งยังเสริมด้วยระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า (Electromechanical Rear Differential Lock) เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการลุยทางทุรกันดารได้ดียิ่งขึ้น โดยผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ ได้แก่ Hybrid Pure Electric Performance และ Snow เพื่อปรับการขับให้เหมาะกับสภาพถนนและความต้องการเฉพาะตัว
Nissan Frontier Pro Plug-in Hybrid ถูกพัฒนาภายใต้ความร่วมมือกับ Zhengzhou Nissan (ZNA) โดยจะขึ้นสายพานการผลิตและจำหน่ายในประเทศจีนภายในปี 2025 ซึ่งจะประกาศแผนการส่งออกในอนาคตอันใกล้
ที่มา: NISSAN Motor1