Toyota (โตโยต้า) เปิดตัว All-New Toyota C-HR (โตโยต้า ซีเอชอาร์) ใหม่ รถ SUV แบบ C-Segment บนรูปลักษณ์แบบ “Super-Coupe” เจเนอเรชั่นที่ 2 ใหม่ ในยุโรป โดยเป็นรถที่พัฒนามาจากต้นแบบ Toyota bZ Compact SUV และ Toyota C-HR Prologue ซึ่งออกแบบโดยทีมงาน Toyota ในประเทศฝรั่งเศส
รูปทรงภายนอกมาในแนวคิด Hammer Head ที่ดูคล้ายกับในรถโตโยต้าหลายรุ่นตอนนี้ บนโครงสร้างแพลทฟอร์ม GA-C โมดูลาร์ไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ บนเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง ชุดไฟหน้าเป็นแบบ LED ทรงโฉบเฉี่ยว พร้อมไฟ Daytime Running Light รับกับวัสดุสีดำด้านล่าง คล้ายกับใส่หน้ากาก บวกกับชุดกันชนลายรังผึ้ง และมีไฟตัดหมอกมาให้
ส่วนด้านข้างมาในสไตล์โฉบเฉี่ยวเหมือนรถ Coupe กับตัวรถสีทูโทน ที่เปิดประตูแบบเรียบกับตัวถัง ใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว เสาหลังสีดำ ทำให้หลังคาดูลอยตัว มีหลังคาแบบ Panoramic Sunroof แบบกันรังสี UV และรับกับสปอยเลอร์หลัง กับชุดไฟท้ายแบบ LED ด้านหลัง
มิติตัวรถยาว 4,800 มม. กว้าง 1,800 มม. สูง 1,570 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. บนน้ำหนักตัวรถ 1,500 กก.
ห้องโดยสารภายในสไตล์สปอร์ต มาพร้อมจอดิจิตอลเต็มรูปแบบขนาด 8 นิ้ว ไปจนถึงขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการทำงานผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง พร้อมชุดเครื่องเสียงจาก JBL และไฟ Ambient Light 64 สี ภายในห้องโดยสาร
และมีระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS รวมไปถึงกุญแจดิจิทัล สามารถสั่งการสตาร์ทรถ หรือเปิดเครื่องปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟนได้ ผ่าน Application MyT รวมถึงฟังก์ชันการจอดรถอัตโนมัติที่ไม่เหมือนใครในระดับเดียวกัน พร้อมระบบสั่งการจอดรถระยะไกล และกล้องมองภาพรอบทิศทาง
และยังรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น กับการใช้วัสดุจากพลาสติกรีไซเคิลเพิ่มขึ้นสองเท่า ในชิ้นส่วนต่างๆ กว่า 100 ชิ้น ซึ่งรวมถึงเบาะผ้าใหม่ที่ทำจากขวด PET รีไซเคิล และปราศจากหนังจากสัตว์สำหรับวัสดุหนังสำหรับหุ้มพวงมาลัย
ด้านระบบความปลอดภัย มาพร้อมระบบ Toyota Safety Sense ล่าสุด ทั้งในแบบแอคทีฟและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน All Speed-Dynamic Radar Cruise Control (Stop & Go), ระบบ Lane Tracing Assist : LTA ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องเลน, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitoring, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert, ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และเบรคอัตโนมัติ Pre-Collision System, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ และระบบ Lane Departure Warning With Steering Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
มาพร้อมขุมพลังไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร และขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 198 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร บนระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
และขุมพลัง Dynamic Force ขนาด 2.0 ลิตร แบบ Plug-In Hybrid ที่ยกชุดมาจาก Toyota Prius รุ่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตัน-เมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 223 แรงม้า แรงดันไฟฟ้า 600 โวลท์ ประหยัดน้ำมัน 23 กม./ลิตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.7 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 180 กม./ชม.
ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาด 13.6 kWh ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT บนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four
สามารถวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าเพียวๆ ได้ไกล 65 กิโลเมตร อีกทั้งหากมีน้ำมันเต็มถัง และ ชาร์จไฟเต็ม 100% สามารถวิ่งได้ระยะทางมากถึง 1,250 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นแหล่งจ่ายพลังงานให้อุปกรณ์ไฟฟ้า Vehicle-2-Load (V2L) ที่ให้กำลังไฟถึง 1,500W ได้ด้วย
สำหรับ All-New Toyota C-HR เตรียมพร้อมจำหน่ายในยุโรปเร็วๆ นี้ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 35,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1,568,000 บาท